"เกาะหลีเป๊ะ" ยังเดือด"เอกชนปิดทางเท้าเดินเข้า-ออกโรงเรียน เด็กนักเรียนไหว้ขอร้อง ก่อนขัดขวางไม่ให้ปิดตาย ด้าน "อนุชา" เตรียมลงดูข้อเท็จจริง

13 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล เด็กนักเรียนหลายสิบคนต่างพากันมาร้องขอให้เอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่อยู่ติดกับโรงเรียนเดินหน้าสร้างประตูเหล็กเชื่อมเพื่อปิดตายบริเวณทางเข้าโรงเรียน ทำให้เด็กๆ พากันเข้าไปขัดขวาง เพราะประตูดังกล่าวเชื่อมต่อกับเส้นทางที่เด็กนักเรียนชุมชนดั้งเดิมชาวอูรักลาโว้ย ใช้เดินมายังโรงเรียนทุกวัน เด็กบางส่วนเข้าไปยื้อไม่ให้คนงานนำเหล็กเข้าไปก่อสร้าง เด็กนักเรียนบางส่วนนั่งขวางเพื่อไม่ให้รถผ่าน และมีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการยื้อไม่ให้คนงานนำเหล็กมาก่อสร้าง ผู้ปกครองชาวบ้านต่างมาเรียกร้องและประท้วงปิดกั้นไม่ให้คนงานเข้าไปก่อสร้างได้อีก

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวถูกร้องไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านนายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ดูปัญหาทันที บนเกาะหลีเป๊ะ เพื่อเข้ารับฟังปัญหาดังกล่าว และในวันที่ 14-15 ธันวาคม จะเปิดเวทีประชุมที่ศาลากลางจังหวัดสตูลเช่นกัน โดยมีนายอนุชา นาคาศัย เดินทางมาร่วมรับฟังโดยตนเองด้วย

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 29 พ.ย . 65 ที่ผ่านมา ที่หน้าห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอละงู จังหวัดสตูล ตัวแทนชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ร่วม 10 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เพื่อผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี ขณะทางคณะลงพื้นที่ตรวจหาข้อเท็จจริงกรณีข้อพิพาทที่ดินหาดปากบารา หมู่ที่ 6 บ้านท่ามาลัย ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

โดยนางสุคน พะอ๊ะ ชาวเลอูรักลาโว้ยและนางละออง หาญทะเล อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า ชาวบ้านเดือนร้อนมาก เพราะนายทุนปิดกั้นเส้นทางเข้าออกเด็กไม่ได้ไปโรงเรียน เดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลบนเกาะก็ไม่ได้ การขนส่งสินค้าจากเรือประมงไปยังหมู่บ้านเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงอยากให้ทางการและทางเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะช่วยแก้ปัญหานี้เป็นกรณีเร่งด่วน

สำหรับปัญหาการปิดกั้นเส้นทางสัญจรสาธารณะประโยชน์ชุมชนชาวเกาะหลีเป๊ะชาวเลอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ มีผลกระทบความเดือดร้อนอย่างรุนแรง โดยชาวเลอ้างว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 เอกชนรายนี้ได้ให้ลูกน้องมาปิดกั้นเส้นทางสัญจร ซึ่งเป็นเส้นทางดั้งเดิมตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2452 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันชาวเลใช้เป็นเส้นทางสัญจร ในการให้นักเรียนเดินเข้าโรงเรียน ทางสัญจรเข้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเกาะหลีเป๊ะ ทางจะเข้าสุสานชุมชนชาวเล ทางสัญจรไปร่วมงานพิธีกรรมลอยเรือ ทางสัญจรไปทำประมงเพื่อเลี้ยงชีพ รวมทั้งเป็นทางเดินของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวบน เกาะหลีเป๊ะ ทำให้นักเรียน ชุมชน และนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ