จากกรณี นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ซึ่งเป็นลูกน้องของ กำนันนก ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม สาเหตุจากการวิ่งเต้นตำแหน่ง

รองต่อ” ให้กำลังใจครอบครัวก่อนรับศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีบางเขน

วันนี้เมื่อเวลา 11.40 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปยังห้องนิติเวช ของโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งได้ไปพูดคุยกับ นายศิลนา สายบัว พ่อ, นางทัศนัย สายบัว แม่ของพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ตำรวจคนตาย

โดยทางด้านของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการพูดคุยกับพ่อและแม่ของตำรวจที่เสียชีวิต โดยได้มีการให้กำลังใจ และยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อที่จะจับกุมตัวคนก่อเหตุให้ได้ทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของอิทธิพล และเชื่อมั่นในตัวของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ว่าเป็นตำรวจน้ำดี

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่เขาาไปที่บ้านหลังเกิดเหตุเป็นการเข้าไปนอกเวลา ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมอาวุธหรือนำอาวุธติดตัวไปด้วย เพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุซึ่งหน้า และเป็นการไปเพื่อทานข้าวพูดคุยกันตามปกติ แต่ทราบชนวนเหตุโดยเบื้องต้น คือ มีการพยามที่จะ มีการขอตำแหน่งและเจรจาเกี่ยวกับตำแหน่งในสังกัดของตำรวจทางหลวง

โดยร่างของตำรวจที่เสียชีวิตถูกยิงฝั่งขวาซะส่วนใหญ่ และมีกระสุนทะลุแขนเข้าที่อก จนกระทั่งถูกตับและอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต โดยถูกยิงจำนวน5นัด ส่วนตำรวจที่รอดชีวิตถูกยิงเข้าที่แขนไม่โดนจุดสำคัญมากนักจึงไม่เสียชีวิต ฉะนั้นจึงยืนยันว่าตำรวจ2นาย คือตำรวจน้ำดี

โดยแนวทางหลังจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องมีการเยียวยาและช่วยเหลือครอบครัวของตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะลูกสาวของตำรวจที่เสียชีวิตที่อายุเพียง6ขวบ ที่จะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะต้องดูแลทั้งเรื่องของชีวิตครอบครัวและคนรอบข้าง

แต่สำหรับกลุ่มคนก่อเหตุ นั้น ขณะนี้ได้มีการจัดส่งทีมที่พร้อมสนับสนุนกำลังในการที่จะจับกุมและดำเนินการตอบโต้ทั้งหมด ซึ่งหากพบว่ามีการยิงสู้ ตำรวจและกำลังที่เตรียมเอาไว้ก็พร้อมที่จะมีการยิงต่อสู้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังคำนึงถึงสิทธิ์ และความชอบธรรม รวมทั้งภาพลักษณ์ของตำรวจ ที่อาจถูกมองว่ามีการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แม้ว่ากระแสสังคมและโซเชียลจะกดดันให้ตำรวจมีการวิสามัญก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ต้องทำตามขั้นตอนและวิธีการ ส่วนเรื่องของเส้นทางหลบหนีและพฤติกรรม ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะตอนนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสานติดตามตัว ทั้งตัวของกำนันและลูกน้องที่คาดว่าเป็นมือปืน

พ่อตำรวจคนตาย โศกเศร้ากอดกระถางธูป เชิญวิญญาณลูก กลับกรุงเทพ

ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าห้องนิติเวชโรงพยาบาลนครปฐม สังเกตว่าญาติและรวมถึงพ่อแม่ต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ มีการโอบกอดกันเพื่อที่จะให้กำลังใจกันก่อนที่จะมีการติดต่อขอรับศพในเวลาต่อมา

ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. นายศิลานา พ่อของตำรวจที่เสียชีวิต ได้ไปจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และองค์ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อเปิดทางให้มีการรับร่างกลับไปรับบุญกุศลในการบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ก่อนจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลาต่อมา

พ่อตาของสารวัตรแบงค์ เชื่อลูกเขยทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ สงสารลูกสาวและหลานสาวที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวนับจากนี้

ขณะที่นายภิษโญ พ่อตาของตำรวจที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกเขยก็อยู่กับตนเอง ซึ่งตอนนั้นก็ประจำอยู่ที่แม่กรอง สมุทรสงคราม หลังจากที่ย้ายมาประจำตำรวจทางหลวงในพื้นที่นครปฐม ก็ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังและอย่างเต็มความสามารถ ตัวเองเคยบอกลูกเขยเสมอว่าให้ทำทุกอย่างให้เต็มที่ และลูกเขยก็เอาใจใส่ต่องาน เวลามีราชการดึกดื่นก็จะออกไปปฎิบัติหน้าที่ โดยไม่ย่อท้อ ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกเขยด้วยช้ำ โดยหลังจากนี้ตนเองก็รู้สึกสงสารลูกสาวและรวมถึงหลานสาว ที่จะต้องอยู่เพียงลำพัง

แต่ส่วนตัวในฐานะพ่อตาก็ภูมิใจในตัวของลูกเขย ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต แต่การที่ถูกยิง มากที่สุดถถึง5 นัด ก็เพราะว่าอาจจะเป็นการขวางไม่ให้มีการใช้เส้นสายหรือการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับตำแหน่ง จนเป็นเหตุอาจจะทำให้ลูกเขยถูกยิงมากที่สุดและถึงแก่ความตายก็ได้

อย่างไรก็ตาม ตนเองยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย หวังว่าจะติดตามตัวให้ได้โดยเร็ว และทำให้คนผิดได้ถูกการลงโทษ ได้รับโทษตามกระบวนการของกฎหมาย

พี่สารวัตรศิวกรเปิดใจ น้องชายตั้งปณิธานเป็นตำรวจน้ำดี ลั่นต่อให้จะเป็นเสี้ยน

คุณพิมพ์นารา พี่สาวของสารวัตรศิวกร เปิดเผยว่า สารวัตรศิวกร เป็นคนสู้ชีวิตจนได้รับราชการตำรวจ มีบุตร 1 คน เป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลเลี้ยงบุตรเป็นอย่างดี เป็นคนมีปณิธานแน่วแน่ในการรับราชการตำรวจ ได้มอบความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวตั้งแต่เรียนนายร้อยตำรวจจบ ให้เกียรติกับอาชีพตำรวจ เคยพูดว่าจะเป็นตำรวจน้ำดี ต่อให้จะเป็นเสี้ยน ไปขวางทางอิทธิพลไหนก็จะทำ

ที่ผ่านมาเท่าที่พี่สาวสัมผัสได้ น้องชายไม่เคยคิดจะใช้ระบบในการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งแบบก้าวกระโดด ส่วนเรื่องการทำงานน้องชายเป็นคนแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้อย่างชัดเจน ทำให้ครอบครัวไม่รู้รายละเอียดในการทำงานอะไรเลย เพียงแค่เคยโทรศัพท์มาบอกว่าเหนื่อยเป็นบางครั้ง

ทางครอบครัวภูมิใจที่น้องชายยีดมั่นในการเป็นตำรวจน้ำดี อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าประเทศไทยยังมีตำรวจน้ำดี แต่เกี่ยวกับเรื่องคดีความตอนนี้ ขอให้ขึ้นอยู่ก้บทางผู้ใหญ่ว่าจะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร

นำร่าง พ.ต.ต.ศิวกร บำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน กทม. บรรยากาศโศกเศร้า

ช่วง 13.30 น. ที่ผ่านมา ขบวนรถตำรวจและรถตู้รพ.นำร่างของพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. มาที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน กทม. โดยมีครอบครัวรอรับศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า พ่อจุดธูปรับศพลูกมีครอบครัวยืนร้องไห้ จากนั้นมีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานช่วยกันเข็นร่างของสารวัตรศิวกร สวมเครื่องแบบเต็มยศ เข้าไปภายในศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน กทม.

บรรยากาศงานศพ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า คุณแม่ ร่ำไห้ เฝ้าดูศพลูกชายตรงหน้า มีช่วงที่คนในครอบครัวเข้าไปกอดร่างของสารวัตรศิวกรที่นอนอยู่ในศาลาวัด

ในระหว่างพิธีรดน้ำศพ ดาบตำรวจ ฐนโรจน์ รัตนศิริสุนสิน ผู้บังคับหมู่สถานีทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นคนขี่รเปิดใจทั้งน้ำตาว่า สารวัตรศิวกร เป็นเจ้านายที่ดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี คอยดูแลแก้ไขปัญหาให้กับทุกคนอยู่เสมอ เป็นคนที่ซื่อตรงมีประวัติการทำงานดีมาโดยตลอด โดยเชื่อว่า สารวัตรศิวกร ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหน ไม่คิดว่าจะมีใครปองร้าย เพราะที่ผ่านมาสารวัตรศิวกรไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง โดยดาบตำรวจนายนี้ ได้ทำงานกับสารวัตรศิวกรมาเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน ได้เจอกันครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมาเนื่องจากตนเองได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นเนื่องในวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งสารวัตรศิวกรได้เข้ามาทักทายพร้อมกับแสดงความยินดีและกำชับให้ตั้งใจทำงาน ทั้งนี้เมื่อทราบข่าวของสารวัตรก็รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเจ้านายของตนเอง

โดยวันนี้ตนเองได้มาแสดงความเสียใจและส่งดวงวิญญาณของสารวัตรศิวกร พร้อมกับบอกกับสารวัตรว่า ขอให้ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ชาติหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นเจ้านายกับลูกน้องด้วยกันอีก

ประวัติสารวัตรแบงค์ ตำรวจน้ำดี

สำหรับสารวัตรแบงค์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 51 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 67 เรียนจบครั้งแรกบรรจุ เป็นรองสารวัตร ประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก่อนย้ายไปเป็น รองสารวัตร กก.1 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ต่อมาได้รับการเลื่อนขั้นเป็น ว่าที่ พ.ต.ต. ตำแหน่ง สว.กก.1 บก.ป. จนกระทั่งเมื่อปลายปี พ.ศ.2565 ได้รับแต่งตั้งเป็น พ.ต.ต. และย้ายมารับตําแหน่งสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง1 กองกํากับการ2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง โดยผ่านคดีสําคัญ อาทิ จับกุมแก๊ง “เสี่ยโป้” และเป็นหนึ่งในทีมจับกุม แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดังพร้อมสามี ในข้อหาร่วมกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ ยึดทรัพย์กว่า 700 ล้าน