สั่งย้าย 3 นายตำรวจ สังกัด ภาค 7 ที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตในบ้านกำนันนก ให้ไปช่วยราชการขาดจากตำแหน่งเดิม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีคำสั่งย้าย นายตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ที่เกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตจำนวนสามนายประกอบด้วย

พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม

พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรสระยายโสม จังหวัดสุพรรณบุรี

พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (งานบริหาร) ที่รับผิดชอบงานศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 มอบหมาย โดยให้อยู่ในการกำกับดูแลของผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7/ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7

บิ๊กแจ๊ส เดือดตำรวจหดหัวปล่อยให้สารวัตรแบงก์โดนยิง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวภายหลังจากเดินทางไปร่วมพิธีทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ ทำบุญครบรอบ 23 ปี วันคล้ายวันละสังขารหลวงปู่สรวง 8 ก.ย.2566 ซึ่ง พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ร่วมกับ พระวัชรญาณมุนี หรือพระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม (บาย ตึ๊ก เจีย) จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็น 2 ศิษย์เอกก้นกุฏิของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ได้นำคณะศิษยานุศิษย์จำนวนประมาณ 1,000 คน ร่วมกันจัดพิธีนี้ขึ้น

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า คดีที่นครปฐมที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตนั้น ตนกับท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ก็ได้โทรหากัน คุยกัน ซึ่งมีแนวทางเดียวกัน เพราะว่าโหดเหี้ยมและโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง ถ้าปล่อยไว้เจ้าหน้าที่ หรือว่าคนดีๆ จะไม่เดือดร้อนแย่หรือ ตนมองว่ามันจะต้องมีอีกนะ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ นายหน่องจะไปยิงคนนั้นคนนี้ มันจะต้องมีคนพยักหน้าส่งสัญญาณให้ยิงว่าคนไหนคนนั้น ซึ่งคนที่ส่งสัญญาณนี้จะต้องโดนด้วยกัน ก็จะต้องรับโทษด้วย จะหนักหนาแค่ไหนตนเห็นว่าคดีนี้ติดคุกยังน้อยไป แต่วันนี้เรามาทำบุญ อย่าพูดมากเลย แต่ว่าตำรวจทั้ง 21 คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็จะต้องมีสามัญสำนึก ทั้ง 21 คนจะปล่อยให้ตำรวจโดนยิงและปล่อยให้คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างไร

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า เสียงปืนดังคุณหัวหดลงไปใต้โต๊ะหรือ โดยที่คุณไม่สนใจที่จะต่อสู้ ไอ้จิตวิญญาณตำรวจมันหมดไปแล้ว คุณอย่าไปเป็นตำรวจท้องที่เลย ฝากท่าน ผบ.ตร.คนใหม่ด้วยก็แล้วกัน ตำรวจทั้ง 21 คนจะต้องเอามาอยู่ส่วนกลาง อย่าให้ไปสัมผัสกับประชาชน ซึ่งนายหน่องคนร้ายที่ยิงตำรวจนั้นได้โดนตำรวจวิสามัญเมื่อตอนช่วง 05.45 น.ของวันที่ 8 กันยายนนี้ ซึ่งตอนที่ตนพูดไปนั้นเป็นเวลา 4-5 ทุ่มของคืนวันที่ 7 กันยายน แต่รู้ว่าตำรวจกำลังเดินหน้าเรื่องนี้

เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส วีรบุรุษนาแก ผู้ผ่านสมรภูมิเดือดนับครั้งไม่ถ้วน และ ตอนนี้เป็น หัวหน้าพรรค เสนีรวมไทย กล่าวว่ากรณี ลูกน้องกำนันนก คือไอ้หน่อง ท่าผา ยิงตำรวจตาย มองว่า โจรจะอยู่เหนือตำรวจตำรวจไม่ได้ ถ้าโจรอยู่เหนือ ประชาชนจะอยู่ยังไง ส่วน สารวัตร เขาก็ตอบดีนะในการขอตำแหน่ง เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของเขา ส่วนอำนาจตรงนี้มันก็อยู่ที่ ผู้การ ในส่วนของชั้นประทวน ในการที่เขาตอบปฎิติเสธ ก็ควรจบตรงนั่น กำนันควรเข้าใจ เป็นถึงกำนัน ก็ควรเข้าใจ ถ้าเจอคนไม่ดีก็ให้ตำแหน่งได้ ทำไม่ถึงเกิดการยิงพี่ก็ไม่ทราบ ประเด็จสำคัญคือ ข้าราชการตำรวจที่อยู่ตรงนั้น เห็นว่า ตั้ง22 คน ทำไมปล่อยเหตุการณ์ยิงขึ้นได้ ก่อนหน้าจัยิงเขาคงไม่รู้เรื่อง แต่งเมื่อยิงกันแล้วปล่อยคนร้ายหนีได้ยังไงคุณเป็นตำรวจปล่อยให้คนร้ายหนีได้ยังไง มันเลวร้าย เป็นตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ สมัยก่อนนี่นะ ตำรวจแพทย์ เห็นคนร้ายวิ่งราวทรัพย์เห็นว่าฉันตำรวจแพทย์ไม่เกี่ยว ถูกศาลจำคุก คุณจะเป็นตำรวจอะไรก็แล้วแต่ถ้าเป็นตำรวจคุณมีหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นนอกเวลา ในเวลา ต้องปฎิบัติหน้าที่ ส่วนเหตุการณ์นี้มันเลวร้ายยิ่งกว่า คุณต้องจับตัวคนร้ายในที่เกิดเหตุ มันต่อสู้ก็ต้องยิงทิ้งไป แต่คุณไม่ทำ ตำรวจตั้ง22คน ปล่อยให้มันหนี แถมไปบอกมันให้ทำร้ายหลักฐานอีก ไม่ควรจะมีเหตุการแบบนี้ ไอ้เรื่องทำลายหลักฐานนี่นะคิดมันใช้แล้วที่ตำรวจทำ

พล.ต.ต.วิชัย อดีตนายตำรวจมือปราบเผยปมยิงสารวัตร ไม่ใช้ลวงไปฆ่า เชื่อสารวัตรศิวกรโดนส่งไปปราบส่วยสติกเกอร์ อาจไปขัดขาผู้มีอิทธิพล

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 อดีตนายตำรวจมือปราบ ให้สัมภาษณ์กับช่อง 8 ประเด็นสังคมสงสัย ทำไม
ตำรวจต้องไปงานเลี้ยงบ้าน”กำนันนก” ประเด็นนี้พล.ต.ต.วิชัย ให้มองในแง่ดี เหมือนกับให้รู้จักกันไว้ มากินเลี้ยงที่บ้าน แต่ในแง่ไม่ดี งานนี้ตำรวจไปเยอะกว่า 20 นาย ส่วนถ้าเป็นพลเรือนก็เป็นลูกน้องของกำนันนกหมด การเลี้ยงตำรวจแบบเจาะจง เป็นตำรวจทางหลวง ตำรวจภาคที่มีอำนาจหน้าที่ในนครปฐม และตำรวจพญาไท น่าจะเป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นการที่เลี้ยงหน่วยงานนี้หน่วยงานเดียวตัวผมเองมองว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ อาจจะเชื่อมโยงกับการล้างบางส่วยสติกเกอร์ทางหลวง ที่ทางผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้สารวัตรศิวกรลงไปจัดการ ซึ่งน่าคิดว่าอาจจะไปกระทบกลุ่มผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เข้าหรือไม่ จึงต้องจัดงานเลี้ยง ทำความรู้จักทำความเข้าใจกันเพื่อหล่อหลอมให้เป็นพรรคพวกเดียวกัน

ถามว่าเป็นแผนลวงหรือไม่ ทางอดีตมือปราบตำรวจบอก ไม่ใช่แผนลวงมายิง น่าจะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า โดยมีเหตุผล 1.การกร่าง หรือลุแก่อำนาจของกำนันนก 2.มือปืนอยากจะโชว์พาว โชว์ให้เจ้านายเห็นว่ากูยิงตำรวจได้ และนาย(กำนัน) ปกป้องลูกน้องได้ ส่วนตำรวจเองไม่ รู้หรอกว่าไปกินเลี้ยงแล้วจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้บ่งบอกถึงพฤติกรรมของคนร้าย และความอ่อนด้อยประสบการณ์ของตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์

ถามถึงเหตุผลที่ตำรวจเจอเหตุซึ่งหน้าทำไมไม่จับ มีคนช่วยจัดฉาก ทำลายหลักฐานหรือไม่ พล.ต.ต.วิชัย บอกชัดๆ ว่าหลักฐานในที่เกิดเหตุคือสิ่งสำคัญที่มัดตัวกำนัน ประเด็นเรื่องล้างพยานหลักฐานนั่น ไม่น่าใช่แนวความคิดของกำนัน คนที่คิดได้คือเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเขารู้ว่าอะไรจะเป็นพยานหลักฐาน ตรงเรื่องใครสั่งเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ รองผบ.ตร. น่าจะรู้ว่าใครสั่งได้

มองไง 21 ตร ในบ้าน ตำรวจไปงานเลี้ยงเป็นเรื่องปกติ เราก็ไปงานแต่งงาน งานบวช งานศพได้ปกติ แต่จะไปงานก็ต้องรู้ว่างานที่จะไปนั้น เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเป็นงานพรรคพวกกันไปได้ แต่ถ้าไปกับคนที่ทำสิ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องระวังตัว เพราะอาจจะมีภาพไม่ดี หรืออะไรที่ตามมาทำให้เสียหายได้ ฉะนั้นตำรวจก็ต้องมีวิจารณญาณของตัวเอง ส่วนเรื่องพกปืนไปงานเลี้ยง พกได้ เพราะปืนกับตำรวจเป็นเรื่องปกติ เพราะตำรวจต้องทำหน้าที่ตลอดเวลาแม้ออกเวรแล้ว เจอเหตุก็ต้องจับ ไม่จับเราละเว้น อย่างเหตุการณ์นี่ ถ้าผมเป็นผบ.ตร. แล้วมีตำรวจเห็นตำรวจถูกยิงต่อหน้า ผมให้ออกจากราชการทั้งหมด เพราะมันชัดว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ช่วยเหลือ แล้วไปกินเมามายแบบนี้ มันไม่ใช่หน้าที่ ต้องจัดการให้เด็ดขาด

จริงๆ ตำรวจไปกินเลี้ยงตั้งวงไม่ผิด แต่เพียงต้องพิจารณาว่ากินกับใคร ไปกินกับกำนัน ก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจที่ไปกินในบ้านเขาก็ต้องพิจารณาว่ากินได้แค่ไหน พร้อมตำหนิ อย่างในวงกินเลี้ยงที่มีเหตุ มีระดับผู้กำกับ 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้เลยหรือว่าจะมีเหตุมันต้องมีเค้าลาง ผู้ใหญ่ต้องห้ามปรามหาวิธีแก้ไขไม่ให้เกิดความรุนแรง แล้วตำรวจผู้ใหญ่ที่อยู่ในงานทำหรือไม่ ตรงนี้น่าคิด…

ส่วนประเด็นที่ ตร.วิสามัญ หน่อง ท่าผา สังคมมองว่าตัดตอนหรือไม่ ตรงนี้ อดีตตำรวจบอกต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคนๆ นี้เป็น คนร้ายยิงตำรวจตาย มีอาวุธ เวลาจะจับกุม คนร้ายต่อสู้ แล้วเมื่อต่อสู้ตำรวจต้องป้องกันตัว ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ขาหนึ่งอยู่ในคุกอยู่แล้ว ไม่มีใครเสี่ยงหรอก ถ้าคนร้ายไม่ยิงก่อน ซึ่งตำรวจต้องทำตามกฎหมาย

สุดท้ายเลยถามว่า หน่องโดนวิสามัญ กำนันนกลูกพี่ จะรอดคดีหรือไม่ ชัดๆ ไม่รอดหรอก เดี๋ยวต้องมีพยานหลักฐานที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนันเกี่ยว ดูง่ายๆ แค่มีพาหนี ล้างพยานหลักฐาน กำนันไปคุย แล้วหน่องมายิง ก็ถือว่าร่วมกันกระทำความผิดแล้ว โทษเท่ากัน ประหารชีวิตเหมือนกัน นักข่าวถามบอกตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ไม่พูด “ผมถามว่าไอ้ตำรวจ 21 คนมึงไม่พูดรึไง ลองดูซิไม่พูด เดี๋ยวมันต้องมีคนรักตัวกลัวตายต้องพูดความจริงออกมา”