ศาลให้ประกันตัวชั่วคราว ประสงค์ รปภ.คนสนิท "กำนันนก" ถือปืนคุ้มกันในเหตุการณ์สลด หลังญาติยื่นหลักทรัพย์ 5 หมื่น

15 ก.ย. 66 มีรายงานข่าวว่า ที่ศาลจังหวัดนครปฐม พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครปฐม ได้นำตัวนายประสงค์ ไทรไกรกระ อายุ 62 ปี รปภ.บ้านนายประวีณ คล้ายจันทร์ หรืออดีตกำนันนก ผู้ต้องหากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก

โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2566 เวลาประมาณ 21.00 น.เศษ ได้เกิดเหตุนายธนัญชัย หมั่นมากหรือหน่อง ท่าผา ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิต ในเวลาต่อมา และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.ทล.1กก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ จากการสืบสวนพบว่า นาย ประสงค์ ผู้ต้องหา ได้พกพาปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ SIG SAUER หมายเลขประจำ ปืน 668149353 หมายเลขทะเบียน กท63148972

พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 8 นัด และ ได้ชักอาวุธปืนดังกล่าวออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่มาถือไว้ เพื่อต้องการช่วยเหลือนาย ประวีณ จันทร์คล้าย หรืออเตกำนันนก ในเหตุที่เกิดขึ้นจากการที่มีเสียงอาวุธปืนดังขึ้นหลายนัดบริเวณจุดที่มีการ รับประทานอาหารอยู่ ซึ่งนายประวีณร่วมนั่งอยู่บริเวณดังกล่าว โดยอาวุธปืนดังกล่าวผู้ต้องหาได้ซื้อต่อมาจากนาย ศักดิ์ชัย มาตะโก ญาติของภรรยา ในราคาประมาณ 32,500 บาท เมื่อประมาณเดือนต.ค. พ.ศ.2565โดยมีการจ่ายเงินซื้อขายกันเรียบร้อย และอยู่ระหว่างรออนุมัติโอนอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งต่อมาหลังเกิดเหตุผู้ต้องหา ได้นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไปฝากไว้ที่บ้านของนายศักดิ์ชัยฯ ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของอาวุธปืนดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนมาถึงตัวผู้ต้องหาซึ่งได้รับสารภาพว่าได้พกพาอาวุธปืนดังกล่าวไปตามวันเวลาที่เกิดเหตุจริง และได้พาตำรวจไปตรวจสอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวที่บ้านของนายศักดิ์ชัย โดยนายศักดิ์ชัยยินยอมมอบอาวุธปืนดังกล่าวเป็นหลักฐานทางคดีแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหารับว่าไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี เหตุเกิดบริเวณบ้านพักต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้ รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่ พฤติการณ์”ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 , พ.ร.บ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8,4 ทวิ, 72 วรรค 3,72 ทวิอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่6 เดือนถึง5ปีและปรับตั้งแต่1,000 บาทถึง 10,000 บาท

พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยาน อีก 4 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา อาวุธปืนของกลาง และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ 12 วันตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.-26 ก.ย.นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาญาติของนายประสงค์ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายประสงค์โดยตีราคาประกัน 50,000 บาท

ทั้งนี้ จากการสอบสวนของตำรวจพบว่า นายประสงค์ นอกจากจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว นายประสงค์ ยังเป็นญาติของกำนันนก และและเป็นญาติของเลขาของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ ส่วน ปืนออโตเมติก 1กระบอก ที่ตำรวจตรวจยึดมาจาก นายประสงค์ เป็นกระบอกที่สมาชิกอบต.คนหนึ่ง ใช้สิทธิข้าราชการซื้อและนำมาให้นายประสงค์ใช้

มีรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดเผยให้เห็นชัดนาทีหลังเกิดเสียงปืนดัง นายประสงค์ ได้ชักปืนออกมา ปิดกั้นทางเข้า-ออก และคุ้มกันกำนันนก ซึ่งในวันนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แล้วจะเรียกมาสอบใหม่และอาจมีการแจ้งข้อหาอื่นๆเพิ่มเติมอีก