จากเหตุการณ์ นายหน่อง ลูกน้องของกำนันนก ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ภายในงานเลี้ยงของ "กำนันนก" เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา

ภายหลังเกิดเหตุ ด.ต.ชุติเทพ คชพงษ์ หรือดาบต้น ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของพลขับของสารวัตรแบงค์(ศิว) ซึ่งไม่ได้มาร่วมงาน เมื่อทราบข่าว จึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลนครปฐม

โดย ดาบต้น ยังกล่าวถึงสารวัตรศิว ตนเองได้พูดคุยกับ ด.ต.ชนาณัฐ วุฒิยากร หรือดาบดอนล่า ซึ่งระหว่างที่นำตัวสารวัตรส่งโรงพยาบาลได้มีการตั้งประคองอยู่เคียงข้างระหว่างที่นำตัวส่ง โดยรถเก๋งคันที่นำส่งโรงพยาบาลมีดาบเจนเป็นคนขับ และสารวัตรนั่งอยู่ข้างคนขับ ดาบดอลล่าร์หรือชนาณัฐ นั่งเบาะหลังสารวัตร ทำหน้าที่คอยประคองพร้อมกับกอดสารวัตร และชวนพูดคุยระหว่างทาง พร้อมกับบอกตลอดว่า อย่าหลับนะครับพี่ แต่ระหว่างที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนั้นสารวัตรได้มีการพูดออกมา2ประโยค คือ “เค้ายิงพี่ทำไม” และอีกประโยคก่อนถึงโรงพยาบาล คือ “พี่ยังตายไม่ได้ เพราะมีลูกน้อง” จากนั้นตัวของสารวัตรก็พยายามที่จะพูดอีกหลายประโยคแต่เริ่มหายใจแผ่วเบา จึงทำให้ออกเสียงมากไม่ได้และจับใจความไม่ได้

และนอกจากนี้ จากคำพูดของสารวัตรที่พูดว่าเค้ายิงพี่ทำไม ประโยคดังกล่าวสื่อให้เห็นว่า ตัวของสารวัตรตั้งใจที่จะไปงานเลี้ยงตามคำเชิญ แต่ไม่รู้ตัวว่าไปมีเรื่องกับคู่กรณีหรือนายหน่องตอนไหน จึงทำให้ไม่ระวังตัว และไม่รู้ต้นสายไปเหตุที่แท้จริงว่าทำไมต้องถูกยิงทั้งที่ตนเองได้รับบาดเจ็บไปแล้ว


เมื่อเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด ที่โรงพยาบาล ที่บันทึกภาพของผู้กำกับสน.พญาไท พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ขึ้นรถตามมาที่โรงพยาบาลภายหลังจากที่นำคนเจ็บมาส่ง อ้างว่าขับรถหลง

ในเรื่องนี้ ดาบต้น บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าผู้กำกับสน.พญาไท ท่านน่าจะหลงทางจริงๆ โดยมองว่า 8 นาทีที่หลง ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ และตำรวจก็ไม่ได้มีใครติดใจประเด็นนี้ และ 8 นาทีก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหลงทาง และในความเป็นจริงหลังเกิดเหตุ มีการสื่อสารว่าจะนำตัวสารวัตรแบงค์ และรองวศิน ไปส่งโรงพยาบาลสินแพทย์ แต่ปรากฏว่าระหว่างทางมีการเปลี่ยนจุด คนเจ็บถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เชื่อว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน และพลขับของผู้กำกับพญาไท ไม่ใช่คนในพื้นที่ทำให้ไม่ชินเส้นทาง และรถที่ขับนำคนเจ็บขับเร็ว ทำให้คลาดกัน


เมื่อไล่เรียงเส้นทางไปโรงพยาบาล เริ่มจากสำนักงานกำนันนกที่เกิดเหตุ จะต้องมากลับรถ เพื่อไปกลับรถอีกรอบ เพื่อไปยังโรงพยาบาลนครปฐม

ซึ่งจุดกลับรถจุดแรก ตรงกับจุดเดียวกับที่ขบวนรถของกำนันนก ใช้กลับรถเพื่อกลับเข้าบ้านพัก ซึ่งเป็นคนละเวลากัน

เมื่อเทียบเวลารถไปส่งสารวัตรแบงค์ ไปถึงรพ. 31.36 น. ต่อมารถอีกคันตามมาติดๆ

เมื่อ 21.39 น. เป็นรถคันที่3 นำพ.ต.ท.วศินมาส่งรพ.

ส่วนคันที่4 รถของพ.ต.ท.ภทร มาถึงเมื่อเวลา 21.39 น.

เมื่อเวลา 21.43 น. เป็นรถของพ.ต.อ.กฤษฎาพร เดินทางมาถึงรพ.เป็นคันที่ 5

ในส่วนประเด็นของ ร.ต.อ.จตุรวิทย์ เป็นอีก 1 นายตำรวจ ที่เข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาล

แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น กลับปรากฏว่าขี่รถนำขบวนรถของกำนันนก หลังเกิดเหตุ

ในเรื่องนี้พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ร.ต.อ.จตุรวิทย์ได้ตามกำนันนกไปที่บ้าน ซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าในระหว่างนั้นได้แวะ หรือโทรศัพท์ติดต่อใครอีกหรือไม่

ส่วนตำรวจที่ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ 6 ก.ย. ผบช.ก.เชื่อว่าไปแบบส่วนตัวเพื่อร่วมงานเลี้ยง ซึ่งเมื่อพบการกระทำความผิดซึ่งหน้า ตำรวจต้องดำเนินการทั้งช่วยคนเจ็บ จับผู้ก่อเหตุ เรียกกำลังเสริม และรักษาที่เกิดเหตุ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้ด่วนสรุป เพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้องแม่นยำ

ล่าสุดทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของ ร.ต.อ.จตุรวิทย์ พบว่า บ้านยังถูกปิดเงียบเหมือนเดิม โดยล็อคกุญแจทั้งประตูใน และรั้วหน้าบ้าน โดยภายในบ้านเปิดไฟทิ้งไว้คล้ายกับมีคนอยู่

ต่อมาทีมข่าวจึงเดินทางไปบ้านญาติของผู้กองจตุรวิทย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของผู้กองได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวหลังเป็นข่าว จากการสอบถามญาติผู้กองจตุรวิทย์ให้ข้อมูลสั้นๆว่า ขณะนี้ภรรยาของผู้กองจตุรวิทย์ ยังคงไม่พร้อมที่จะพบเจอกับใคร โดยก่อนหน้านี้ได้พูดให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ไปทั้งหมดแล้วในตอนนั้น โดยญาติบอกตอนนี้ ภรรยาผู้กองจตุรวิทย์เครียดและเสียใจหนักมากที่สามีอาจจะถูกแจ้งข้อหา และตอนนี้ได้หนีไปอยู่ที่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดแล้วยังไม่กลับมาและยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับใคร

ส่วนวันนี้ที่ผู้การกองปราบ แถลงข่าวว่า อาจจะให้ความเป็นธรรมกับผู้กองจตุรวิทย์ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือรองวศิน ทางญาติก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจาก ครอบครัวผู้กองจตุรวิทย์ค่อนข้างลำบากเรื่องการเงิน และผู้กองจตุรวิทย์ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งหากได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกแจ้งข้อหา และผู้บัญชาการก้อง ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวก็จะขอบคุณมากๆ ส่วนรายละเอียดวันเกิดเหตุ ผู้กองจตุรวิทย์จะขี่รถนำขบวนเพราะสาเหตุใด จะถูกใครบังคับให้ทำหรือไม่พวกตนเองไม่ทราบ และหลังเกิดเรื่องทุกคนต่างเสียใจไม่อยากให้เห็นการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย

เพื่อนสารวัตรแบงค์เผยความลับก่อนตาย พิสูจน์ผู้กำกับหลงทาง แต่ผู้กองเครียดทิ้งบ้าน