เปิดใจ “เรไร” แม่บ้านครอบครัวมินนี่ หลังบุคคลปริศนาวางเงินประกันตัวให้หลุดออกจากคุก ร่ำไห้สงสัยเพื่อน 3 คนที่ไม่มีเงินกันตัว

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเรไร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาพลเรือนที่ถูกจับกุมเนื่องจากเป็นบัญชีม้าที่พัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ และเธอคือแม่บ้านคนสนิทของครอบครัวมินนี่ที่รับใช้ครอบครัวมินนี่มากว่า 10 ปี โดยเธอเพิ่งได้ประกันตัวออกมาเมื่อ 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) หลังถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำคลองเปรมกรุงเทพมหานคร

เธอยอมรับว่า ตนเองก่อนหน้านี้ถูกครอบครัวของมินนี่ใช้ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร อ้างว่าจะโอนเงินผ่านบัญชีดังกล่าว แต่หลังจากไปเปิดสมุดบัญชีธนาคารมาแล้ว คนใช้อีกคนได้นำสมุดบัญชีของตนเองไปมอบให้กับครอบครัวมินนี่ยึดไปและไม่ได้คืนอีก จากนั้นครอบครัวมินนี่ได้บอกให้ตนเองไปเปิดบัญชีธนาคารอีกบัญชี เป็นบัญชีที่ 2 และได้โอนเงินเดือนละ 9000 บาท ค่าแม่บ้านผ่านบัญชีที่ 2 ส่วนบัญชีแรก หลังจากถูกยึดบัญชีไปก็ไม่มีใครพูดถึง ตัวเองจึงคิดว่าไม่มีอะไร

กระทั่งวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมามีตำรวจบุกจับที่บ้านพร้อมกับบอกว่าบัญชีของตนเองเป็นบัญชีม้าที่ผูกพันกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของมินนี่ ตอนนั้นตนเองตกใจมาก ไม่คิดว่าบัญชีธนาคารของตนเองจะถูกนำไปใช้ผิดกฎหมาย

เธอยังบอกกับทีมข่าวพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยว่า เธอเสียใจมากที่ต้องถูกเข้าไปอยู่ในเรือนจำพร้อมกับเพื่อนอีก 3-4 คน แต่ตนเองยังโชคดีที่มีคนประกันตัวออกมาให้ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนประกันตัวให้ แต่เพื่อนอีก 2 คน คือ นางแสงเดือน และนางยุพาพร ซึ่งอยู่ห้องขังเดียวกับตนเอง ตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เนื่องจากไม่มีใครวางหลักทรัพย์ประกันตัวให้ โดยก่อนที่ตนเองจะออกมาทั้ง 2 คน ร้องไห้และฝากตนเองช่วยบอกให้คนช่วยประกันตัวเขา 2 คนออกไปด้วย เพราะ 2 คนก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เพียงแค่ถูกจ้างให้ไปเปิดบัญชี คนละ 1,000 บาท แต่กลับต้องมาโดนติดคุก

ส่วนที่ตนเองเป็นแม่บ้านของครอบครัวมินนี่ ตนเองยังยืนยันว่าที่ผ่านมาครอบครัวมินนี่ใจดีและมีบุญคุณกับตนเองมาก และไม่เคยรู้เรื่องเลยว่ามินนี่ทำธุรกิจพนันออนไลน์ และครอบครัวมินนี่รวยอยู่แล้วไม่ใช่เพิ่งจะมารวยก้าวกระโดดอย่างที่ชาวบ้านบอก และยังไม่ค่อยเชื่อว่ามินนี่คือเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่อย่างที่ตกเป็นข่าว

แต่หลังจากตนเองถูกตำรวจจับยอมรับว่ายังไม่ได้พูดคุยกับครอบครัวของมินนี่ และรู้สึกผิดหวังที่เวลาตัวเองลำบากครอบครัวมินนี่ไม่มีใครแม้แต่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งๆที่พวกเขาเป็นคนทำให้ตนเองเดือดร้อน

 

กอล์ฟ บัญชีม้าเชื่อมโยงมินนี่เจ้าแม่พนันออนไลน์ พบบัญชีม้าหนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายจับ หอบลูกเมียหนี

จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบุกค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังลูกน้องเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา กระทั่งมีการออกหมายจับทั้งตำรวจและพลเรือนหลายคน ซึ่งในส่วนของบัญชีม้าจากการตรวจสอบพบว่ามีพลเรือน ที่ถูกออกหมายจับ มีบ้านพักอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น คือนายกอล์ฟ หรือนาย พชิรวัสส์ คำนนท์ใส อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 23 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

ต่อมาเราได้ตรวจสอบพบว่านายพชิรวัสส์ คำนนท์ใส หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับ มีบ้านพักอาศัยอยู่ในบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ริมบึงหนองโคตร ในเขตเทศบาลตำบลบ้านเป็ด

จากนั้นเราจึงได้เดินทางไปที่หมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้าหมู่บ้านไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวและบุคคลภายนอกเข้าไปด้านในโดยพละการ ซึ่งต้องขออนุญาตผู้จัดการก่อน ซึ่งในตอนแรกเราได้สอบถามบ้านเลขที่ 222/1 ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ของนายกอล์ฟ แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน แจ้งว่า ภายในหมู่บ้านไม่มีบ้านเลขที่ 222 (ตอง2) มีแค่ตอง 1 จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เอารูปนายกอล์ฟให้ รปภ.หมู่บ้านดู เพื่อสอบถามว่านายกอล์ฟได้อาศัยอยู่ที่ภายในหมู่บ้านจัดสรรหรือไม่

ซึ่งพอเจ้าหน้าที่ รปภ.เห็นรูป ถึงกับร้องอ๋อ และก็ยืนยันกับเราว่านายกอล์ฟมีบ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้จริง โดยบ้านนายกอล์ฟอยู่หลังสโมสรหมู่บ้าน แต่ตนเองไม่เห็นนายกอล์ฟนานแล้ว เกือบจะเป็นปีก็ว่าได้ เพราะนายกอล์ฟจะไม่ค่อยเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ลักษณะเหมือนชื้อบ้านทิ้งไว้ แต่ตนเองจะเห็นแค่เฉพาะแม่บ้านที่นายกอล์ฟจ้างมาจากข้างนอกแวะมาทำความสะอาดเป็นประจำ ส่วนลูกเมียนายกอล์ฟตนเองก็ไม่เคยเห็น โดยบ้านที่นายกอล์ฟชื้อราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาท

 

เปิดคำชี้แจง มินนี่ รวยสุจริตไม่เกี่ยวเว็บพนัน

มินนี่ ประกอบธุรกิจ นำเข้าสินคำจากต่างประเทศและค้าขายสินค้าออนไลน์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บไซต์การพนันออนไลน์แต่อย่างใด และต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ จนได้มีโอกาสรู้จักกับ พี่หนึ่ง (พ.ต.อ.ภาคภูมิฯ) ประมาณปลายปี 2563 ในงานเลี้ยงส่งผู้การจังหวัดเลย โดยของแม่มินนี่ หลังจากนั้นได้พบเจอกันอีกประมาณ 3 - 4 ครั้ง จนสนิทสนมกัน

จากนั้นได้คบหากันเรื่อยมา จนกระทั่งพี่หนี่งย้ายไปประจำที่ จว.ขอนแก่น จึงได้ห่างกันและไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งปลายปี 2565 หลังกลับจากทำงานที่ต่างประเทศจึงได้พบกับพี่หนึ่งอีกครั้ง โดยมินนี่รู้ว่าพี่หนึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงติดต่อและคบหากันเรื่อยมา ซึ่งในระหว่างที่คบหากันนั้น พี่หนึ่งก็ยืมเงินจากมินนี่หลายครั้ง เป็นเงินสดบ้าง ให้โอนเงินบ้าง มินนี่ไม่สะดวกก็เลยให้คนที่สนิทกัน โอนเงินให้ หลังจากนั้นพี่หนึ่งก็จะคืนเงินให้เป็นเงินสดแต่ยังไม่ครบถ้วน

ส่วนพี่เปียกเป็นน้องชายพี่หนึ่ง เจอกันประมาณกลางปี 2566 เนื่องจากมีเรื่องปรึกษาพี่หนึ่งเกี่ยวกับคนต่างด้าวที่จะประกอบธุรกิจในประเทศไทย แต่พี่หนึ่งไม่ว่าง จึงให้พี่เปียกซึ่งเป็นตำรวจ ตม.รู้เรื่องดังกล่าวดีมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขออนุญาตทำงานของคนต่างด้าว เมื่อพบกันข้าฯ จึงได้แอบถ่ายรูปส่งให้พี่หนึ่งดู ว่ามากินข้าวกับน้องชาย โดยที่มินนี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์และธุรกรรมทางการเงินใด ๆ กับพี่เปียกเลย
ตามที่เป็นข่าวกับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ทำให้มินนี่ตกใจมาก เนื่องจากท่านไม่เคยรู้จักมินนี่และไม่เคยมีความสัมพันธ์และไม่เคยติดต่อกันไม่ว่ากรใด ๆ ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง มินนี่เจอท่านแค่ 2 - 3 ครั้ง ในงานเลี้ยงที่พี่หนึ่งพาไปและครั้งนึงเคยไปขอร้องเพลงกับท่านในงานเลี้ยงเท่านั้นเอง โดยที่ท่านไม่ได้รู้จักมินนี่เป็นการส่วนตัว แต่ท่นให้เกียรติมินนี่มาก จึงทำให้มีภาพและคลิปวิโอที่ร้องเพลงร่วมกันเท่านั้น

สำหรับในที่มินนี่ถูกจับกุม มีตำรวจ 2 นายทำการจับกุม มินนี่จำได้ว่าเค้าเรียกกันว่าชื่อ "เจ" ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นชายตัวสูง ผิวดำ ไม่ทราบชื่อ ภายหลังมินนี่ทราบว่าตำรวจทั้ง 2 นายดังกล่าว อยู่ในชุดจับกุมของ ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ หรือ PCT ชุดที่ 4 ได้พยายามจูงใจหรือชักจูงให้มินนี่ รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ และกดดันให้มินนี่ยืนยันการกระทำความผิดของพี่หนี่ง ว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งๆ ที่มินนี่และพี่หนึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจการพนันออนไลน์ใดๆ เลย นอกจากนี้ ข้อความทางแชตไลน์ภาพถ่ายต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บอยู่ในโทรศัพท์มือถือของมินนี่ ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ใด

แต่หลังจากที่ถูกจับกุมและ พงส.ได้ยืดมือถือเครื่องดังกล่าวไป ก็ปรากฎข้อความแชตไลน์ ภาพถ่ายต่างๆ ปรากฏในโซเชียลฯ อย่างแพร่หลาย ทั้งๆ ที่ ข้อความและภาพถ่ายเป็นพยานหลักฐานในสำนวน แต่ก็มีการนำมาเปิดเผยและโงมตีมินนี่และบุคคลต่างๆ ทำให้เสียหาย
มินนี่จึงจำเป็นต้องขี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่ๆสื่อมวลชนได้ทราบความจริง เพื่อปกป้องเกียรติของลูกผู้หญิงและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

แม่บ้านมินนี่ปล่อยโฮแฉเหยื่อในคุกทรมาน งงคนปริศนายื่นประกัน