จากกรณีนางสาวแอม (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ออกมาร้องผ่านเพจดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 กรณีที่ถูกนางสาวอร (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หมอดูชื่อดังรายหนึ่งของ อ.ทุ่งสง ได้มารูจักกับนายบอย (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สามีของนางสาวแอม ที่คบหากันมานาน 12 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช และในปี 2561 นางสาวแอมกับนายบอยได้แต่งงานจดทะเบียนอยู่กินอย่างถูกต้องตามกฏหมายมา 5 ปี จนมีลูกชาย 1 คน อายุ 3 ขวบ



นาวสาวแอม เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังนางสาวอร หมอดูรายนี้ รู้จักกับสามีและรับสามีเป็นลูกบุญธรรม ทำให้นางสาวแอม ภรรยา ก็พลอยเรียกหมอดูรายนี้ว่าแม่บุญธรรมไปด้วย จากนั้นทั้งคู่เริ่มมีความสนิทสนมจนดูผิดสังเกต ไปไหนก็จะไปด้วยกันครั้งละหลายวัน เมื่อสอบถามนายบอยผู้เป็นสามีก็จะบอกว่านางสาวอร แม่บุญธรรม จ้างให้เป็นคนขับรถให้ มาระยะหลังสังเกตเห็นว่าสามีมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป

กระทั่งมาจับได้ว่านางสาวอร แม่บุญธรรมหมอดูรายนี้ ได้มีอะไรกับสามีของนางสาวแอม เมื่อโทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามนางสาวอรยอมรับว่ามีอะไรกันจริง เพราะนายบอยที่นางสาวอรเรียกว่าลูกบุญธรรม บอกกับเขาว่าได้เลิกรากับนางสาวแอม และสิ่งที่แม่บุญธรรมหมอดูรายนี้ทำลงไป เพราะสงสารอยากจะช่วยเหลือ นางสาวแอมได้ฟังเรื่องราวจากปากของแม่บุญธรรมรายนี้แล้วถึงกับสุดช้ำ เพราะถูกคนที่ตนเรียกว่าแม่บุญธรรมกับสามีสวมเขา



หลังจับได้ว่าแม่บุญธรรมกับสามีสวมเขา นางสาวแอมได้โทรศัพท์ไปถามสามีก็ได้คำตอบว่าไปทำงานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่ไปทำงานอยู่กับแม่บุญธรรม นางสาวแอมจึงตัดสินใจออกมาร้องผ่านเพจดัง และร้องทุกข์ผ่านสื่อเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ทั้งคู่หยุดพฤติกรรมในทางที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังได้จ้างทนายความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแก่นางสาวอรแม่บุญธรรมหมอดูรายนี้ ในฐานะที่ได้อยู่กินจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับนายบอยสามี พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่าย ขณะที่นายบอย สามีถ่ายรูปคู่แนบใบหน้าใกล้ชิดกับนางสาวอรแม่บุญธรรม และนำคลิปเสียงที่บันทึกไว้ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่กับแม่บุญธรรม โดยแม่บุญธรรมยอมรับว่ามีอะไรกันกับสามีของนางสาวอรเป็นหลักฐานส่งให้ผู้สื่อข่าว

ส่วนภาพถ่ายที่นางแอม ที่เป็นคนร้องเรียนส่งมาให้กับทีมข่าวจะเป็นภาพนิ่งที่ตัวนางแอม เคยพาสามีและลูกไปถ่ายรูปร่วมกันกับนางอร ซึ่งเป็นหมอดู จากนั้นเมื่อไปเป็นคนขับรถให้หมอดู ก็จะมีรูปคู่นางอรกับผู้ชายถ่ายคู่กันแบบสนิทสนม

ซึ่งนอกจากรูปภาพที่นำพาไปสู่การฟ้องร้อง ยังมีคลิปเสียงความยาวประมาณ 5 นาที ที่เป็นคลิปหลังจากนางแอม จับได้ว่าสามีไปมีความสัมพันธ์กับหมอดู โดยในคลิปเสียง จะได้ยินว่าเริ่มต้น นางแอม บอกกับนางอรว่า "วันนี้จะมาคุยดี ๆ กับพี่นะ ซึ่งในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน จึงอยากจะถามตรง ๆ ว่า พี่อรรักผัวหนูหรือเปล่า ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเราสามคนก็ทุกข์กันทั้งหมด พี่อร รู้ไหมว่าหนูรู้ว่าพี่กับผัวหนูได้เสียกันแล้ว"



ซึ่งหมอดูก็บอกว่า "ผัวหนูบอกกับพี่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันมีเหตุการณ์หลายเรื่องที่พี่ได้เสียกับผัวของหนู ซึ่งหนูต้องเข้าใจนะว่า ผัวหนูเป็นคนมาบอกพี่เองว่าเขาเลิกกับหนูแล้ว พี่รู้ว่าพวกหนูศรัทธาในตัวพี่ ซึ่งพี่ก็เสียใจที่พี่ไม่รู้จักห้ามใจ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องโทษใคร โทษที่ตัวพี่เอง ยืนยันพี่ไม่ได้ทำของใส่พวกเธอนะ ซึ่งก่อนที่ผัวหนูจะย้ายมาอยู่กับพี่ พี่ถามผัวหนูแล้วนะว่าคิดดีหรือยัง และที่ผ่านมาพี่ก็หวังดีกับผัวหนูมาตลอด ให้งานทำมีเงินเก็บ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำ พี่แค่อยากให้ผัวหนูมีงานทำเท่านั้นเอง แต่บังเอิญความสัมพันธ์มันถึงขั้นอื่น"

ล่าสุดวันนี้(13 ม.ค.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังบ้านรัตนเกศมณีบริการทำนายโชคชะตา ของนางอร (นามสมมติ) ที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยลักษณะสถานที่ทำนายโชคชะตาดังกล่าว เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่วันนี้ปิดมีเพียงรองเท้าแตะ 1 คู่วางอยู่ที่หน้าบ้าน และมีป้ายประกาศขายบ้านติดเอาไว้ที่หน้าบ้าน

จากนั้นทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นายตั้ม (นามสมมติ) อดีตสามีของหมอดู เผยว่า ส่วนตัวเลิกรากับนางอรมาประมาณ 4 - 5 ปี แต่ที่ยังวนเวียนไปที่สำนักหมอดู เป็นเพราะว่าตนคบหากับนางอร ซึ่งเป็นหมอดู มาประมาณ 20 ปี จึงมีความผูกพันและเป็นห่วงกันอยู่ ซึ่งบ้านที่เปิดเป็นสำนักดูดวงไม่ใช่บ้านของตน แต่เป็นบ้านที่นางอร เช่าเปิดไว้ดูดวงให้ลูกศิษย์



ส่วนเรื่องที่นางแอมไปร้องเรียน ยอมรับว่ารู้เรื่องทุกอย่าง เพราะหลังจากเป็นคดีความ มีหมายศาลส่งมาที่บ้านของตนเอง เนื่องจากชื่อของนางอร ยังอยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน ส่วนเรื่องที่สามีของนางแอม เข้ามาเป็นลูกศิษย์และกลายมาเป็นคนขับรถให้กับนางอร เรื่องดังกล่าวยอมรับว่ารู้เพราะทุกการกระทำของนางอร อยู่ในสายตาตนเองตลอด แต่พอลับตาไปแล้ว ตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรกันบ้าง ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าว เขาทั้งสองคนไม่มีทางบอกใครอย่างแน่นอน และที่นางอรต้องรับสามีของนางแอมมาเป็นลูกบุญธรรม ก็เป็นเพราะว่าหากมาเป็นคนขับรถในฐานะลูก ก็จะไม่มีใครสงสัยและระแคะระคายว่าทั้งสองเป็นมากกว่าคำว่าแม่กับลูก

ยอมรับว่าหลังจากรู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน ตนเองก็ได้โทรศัพท์ไปถามกับนางอรว่าทำแบบนี้ทำไม แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งตนมองว่า การทำผิดศีลธรรมแบบนี้ ก็ต้องถูกลงโทษตามกรรมที่พวกเขาก่อเอาไว้ เพราะคนใต้ซึ่งเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช จะรู้กันดีว่าทุกคนที่นับถือหลวงพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จะต้องมีมีสัจจะเป็นที่ตั้ง



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านครอบครัวของนายบอย ได้พบกับตาและยายวัย 77 ปี ของนายบอย เล่าว่า หลานชายคนดีเรียนจบปริญญาตรี และได้แต่งานอยู่กินกับนาวสาวแอมมีลูกน้อยวัย 3 ขวบ 1 คน มารูอีกทีว่าทั้งคู่มีปัญหาเรื่องครอบครัว คือหลานชายไปคบหากับนางสาวอรแม่บุญธรรมหมอดูคนนี้ ทำให้นาวสาวแอมไม่พอใจจ้างทนายความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแม่บุญธรรมคนนี้

ตาและยาย เล่าอีกว่า หลานชายเคยพาแม่บุญธรรมหรือหมอดูชื่อดังคนนี้มาที่บ้าน 3-4 ครั้ง แต่ละครั้งที่มาหมอดูคนนี้มักจะแต่ตัวใส่เสื้อผ้าที่ดูนุ่งสั้น และทักแม่ของนายบอย ว่าถูกของคือ มีผีแอบหรือสิ่งอยู่ในร่างของแม่นายบอย ที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และยังทักอีกว่าแม่นายบอยจะตายภายในเดือนสิบที่ผ่านมา (เดือนตุลาคม 2566) จนเวลาผ่านพ้นเดือนที่หมอดูทักว่าแม่นายบอยจะต้องตายแต่ก็ไม่ตาย คนเป็นตาและยายจึงไม่ชอบหมอดูคนนี้ และเชื่อว่าหมอดูคนนี้น่าจะทำของไม่ดีใส่ตัวหลานชาย ทำให้หลงรักจนครอบครัวของหลานชายมีปัญหาทะลาะกันจนทุกวันนี้ จึงอยากจะพูดผ่านสื่อเตือนหลานชายให้กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ และกลับมาอยู่กับครอบครัวที่จดทะเบียนมีลูกด้วยกัน

ลากไส้หมอดูดัง! เคลมผัวลูกศิษย์ เมียหลวงฟ้องยับ อดีตผัวฉะจงรับกรรม