เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสาธารณสุขตำบลคลองแม่สาย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาเขต 1 ลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 25 ม.6 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ไปพบกับครอบครัวของ นางสายฝน อายุ 45 ปี และลูกอีก 3 คน 1.ด.ช.ใจเพชร สังข์ทอง 13 ปี (น้องพีท) (นักเรียนชั้น ป.6) ,2.ด.ญ.กาญจนา อายุ 11 ปี น้องกาน (นักเรียนชั้น ป.5) 3.ด.ญ.มยุรา อายุ 10 ปี น้องกิ่ง (นักเรียนชั้น ป.4) โดยทั้งหมดเรียนอยู่ ร.ร.บ้านเขาน้ำเพชร เดินไปเรียนทุกวันเพราะไม่มียานพาหนะ

 

นางสายฝน ผู้เป็นแม่ยังเลี้ยงลูกทั้ง 3 โดยลำพังเพราะสามีได้ทิ้งตนและลูกไปตั้งแต่ยังเล็ก มีอาชีพรับจ้างทั่วไป (รับจ้างขุดมัน ,เก็บมันท้ายไร่) มีรายได้วันละ 300 บาท ใครจ้างให้ไปทำอะไรก็ไป หากวันไหนไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงินให้ลูกกิน โดยจะให้เงินลูกไปโรงเรียนคนละ 10 บาทเท่านั้น จากเงินที่เหลือที่ไปรับจ้างก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน วันไหนไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนก็อดมื้อกินมื้อ ลูกทั้ง 3 ก็หยุดเรียนไปช่วยแม่เก็บมันสำปะหลังและรับจ้างบ่อยครั้ง มิหนำซ้ำยังเก็บอาหารหมดอายุข้างถังขยะ หรือขอเศษอาหารเหลือจากร้านอาหาร มาประทังชีวิตเป็นประจำ

 

ทางทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่ไปยัง ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบนางสายฝนและลูก ทั้ง 3 คน และเจ้าหน้าที่ที่มาให้การช่วยเหลือ ซึ่งนางสายฝนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ เป็นบ้านชั้นเดียว โดยได้รับบริจาคที่ดินในการสร้างบ้านจากผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งทางด้านผู้ใหญ่บ้านได้ดำเนินเรื่องขอวัสดุก่อสร้างเป็นบ้านโครงการหลวงจากทางอำเภออีกด้วย

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสายฝน อายุ 45 ปี ยังเล่าทั้งน้ำตาอีกว่า “วันไหนไม่มีงานรับจ้าง ก็ไม่มีเงินซื้อข้าวให้ลูกกิน ตนเคยไปรอเก็บอาหารหมดอายุตามร้านสะดวกชื้อและร้านอาหารตามสั่งที่คนกินเหลือขอนำมาให้ลูกกินเพื่อประทังชีวิตแม้ตนอดก็ยอม เพราะยากจนเหลือเกิน บ้านที่อยู่ก็ได้ความเมตตาจาก “นางนิตยา พูลสวัสดิ์” ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านเขาน้ำเพชร บริจาคที่ดินและประสานทางอำเภอขอบ้านโครงการหลวง มาสร้างให้อยู่อาศัยหลายปีแล้ว

 

และที่เป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้คือเมื่อต้นปีที่ผ่านมาลูกชายคนโต “ด.ช.ใจเพชร อายุ 13 ปี (น้องพีท) อยู่ๆมีอาการมือและเท้าชาไปครึ่งซีก และมีอาการปวดหัว ซึ่งก็เดินลากเท้าจนเป็นแผล ตนเลยพาไปหาหมอที่ รพ.กำแพงเพชร ซึ่งหมอให้นอนพักดูอาการ 2 วัน และให้น้ำเกลือ ปรากฏว่าหัวด้านขวาของลูกบวมขึ้น หมอจึงให้เข้าห้องผ่าตัดในวันที่ 5 มกราคม 67 ที่ผ่านมาทันที ซึ่ง หลังจากผ่าตัดก็พบก้อนเนื้อใหญ่ขนาด 5 ซ.ม. และวันที่ 23 เม.ย.67 หมอนัดไปฟังผลก็พบว่าเป็น มะเร็งเนื้อร้ายในสมอง หากไม่รักษาก็จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปี หมอจึงทำการส่งตัวให้ไปรักษาในสัปดาห์หน้า ที่ รพ.จุฬาฯ กรุงเทพฯ (วันที่ 22 พ.ค.67) ทำให้ตนเองทุกข์ใจหนักกว่าเดิม กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีเงินพาลูกไปรักษาทั้งค่าเดินทางและค่ากินต่างๆ ปัจจุบันก็ลำบากแย่แล้ว จึงตัดสินใจที่จะปล่อยให้ลูกนั้นเป็นไปตามวิบากกรรม หมดหนทาง นอนร้องไห้ทุกคืน และในช่วงนี้อากาศร้อนลูกก็จะปวดหัวหนัก และเวลาพูดกับทุกคน ก็จะขี้หลงขี้ลืมในเรื่องที่เพิ่งพูดไป

 

โดยช่วงที่ไปหาหมอในจังหวัดก็อาศัยเงินจากเพื่อนบ้านหยิบยื่นให้และขับรถไปส่งบ้าง ยิ่งลูกมาป่วยแบบนี้ก็ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง ตนจะทำทุกวิถีทางให้ลูกมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะไม่สมประกอบก็ตามนี้ แต่หากไม่รักษาก็อยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี ซึ่งอาการโรคมะเร็งสมองเป็นขั้นแรกเท่านั้น บางครั้งรายได้ 300 บาท ก็ไม่พอเพียงกับ 4 ชีวิต และยิ่งลูกชายมาเจอโรคร้ายก็ทำให้ตนเองหมดหนทาง แม้กระทั่งที่อยู่อาศัยก็ได้บ้านหลวงของพระเจ้าอยู่หัวและที่ดินที่ผู้ใหญ่บ้านบริจาคให้อยู่อาศัย ตนจึงอยากวอนขอผู้เมตตาช่วยเหลือจากผู้ใจบุญให้มีเงินให้ลูกชายของตนไปรักษาตัวให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปครั้งนี้ด้วย ตนอธิษฐานทุกวันขอให้มีปาฏิหาริย์ให้ใครเข้ามาช่วยลูกของตนเองให้รอด

 

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาเมตตาอยากช่วยครอบครัวของ “นางสายฝน” และลูก 3 คน ที่หนึ่งในนั้นเป็นมะเร็งสมอง สามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 015-3-49799-0 ชื่อบัญชี “นางสายฝน พึ่งสิน” โดยผู้นำหมู่บ้านและหน่วยงานท้องถิ่นจะช่วยดูแลจัดการเงินบริจาคให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และจะรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

 

ด้านนายพิเชษฐ์ อายุ 38 ปี ผอ.โรงเรียนบ้านเขาน้ำเพชร เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า เดิมทีตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2566 ทำงานมาสักระยะหนึ่ง ก็มาทราบเรื่องของน้องเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ทราบว่าทางด้านครอบครัวนี้ฐานะไม่ดี หาเช้ากินค่ำ ทั้งยังมีลูกที่ต้องดูแลอีก 3 คน โดยเฉพาะน้องคนโต ด.ช.ใจเพชร อายุเกินเกณฑ์แล้ว เนื่องจากน้องเข้าเรียนล่าช้า แต่ทางโรงเรียนก็รับไว้

 

ส่วนทางด้านอาการป่วยของน้องนั้น เดิมทีน้องมีอาการชา ขยับตัวไม่ได้ คุณแม่จึงนำตัวไปรักษา เมื่อคุณหมอตรวจ พบว่าน้องมีเนื้องอกเป็นมะเร็งสมอง ด.ช.ใจเพชร เป็นเด็กดีมาก ช่วยคุณแม่ทำงานมาโดยตลอด ไม่เคยมีความประพฤติที่ไม่ดี ส่วนน้องๆ อีก 2 คนก็เช่นกัน เบื้องต้นทั้ง 3 คน ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 10 บาท

 

หลังจากนี้ทางด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะนำชื่อน้องเข้าสู่กลุ่มนักเรียนยากจน และกองทุนต่างๆ ที่ช่วยเหลือด้านนี้ และจะคอยติดตามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งทางโรงเรียนจะคอยหาทุนการศึกษาที่เด็กๆ ทั้ง 3 คน พอจะมีคุณสมบัติใกล้เคียง เพื่อทั้งสามคนจะได้มีทุนในการเรียนจนถึงระดับชั้นสูงๆ ขอวอนไปยังผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ช่วยกันบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวนางสายฝน อย่างน้อยเพื่อให้เด็กๆมีอนาคต และครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้

บีบใจ! เงิน 300 บาท เลี้ยง 4 ชีวิต ซ้ำลูกเป็นมะเร็งสมอง