จากกรณีพบศพนายวันทอง อายุ 58 ปี เสียชีวิตอยู่ใต้สะพานข้ามคลองพื้นที่หมู่บ้านตาเปียง ตำบลตาตุม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ในสภาพนอนคว่ำหน้า บริเวณใบหน้ามีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็ง ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายทิพย์ อายุ 67 ปี

 

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ในเวลา 15.30 น. (กล้องเร็วประมาณ 30 นาที) โดยจะเห็นว่านายทิพย์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาแวะซื้อเหล้าที่ร้านขายของชำในหมู่บ้าน สังเกตเห็นว่าบนรถจักรยานยนต์ได้มีนายวันทองนั่งซ้อนมาด้วย แต่เมื่อมาถึงบริเวณร้านขายของชำนายทิพย์ก็ได้เดินลงมาซื้อของเพียงลำพัง ส่วนนายวันทองก็ได้นั่งรออยู่ที่รถจักรยานยนต์ จากนั้นไม่นานหลังนายทิพย์ได้ของที่ต้องการก็เดินกลับไปยังรถจักรยานยนต์ออกไปทันที ซึ่งเวลาดังกล่าวก็เป็นช่วงก่อนเกิดเหตุเพียงไม่นาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าไปเจอศพของนายวันทองในเวลา 18.05 น.

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยัง สภ.ดม พบว่าผู้ต้องหายังคงถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังและยังไม่มีการนำตัวออกมาสอบปากคำแต่อย่างใด โดยทาง ร.ต.อ.วินัย อินตรา สว.(สอบสวน) ก็ได้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ยังไม่นำตัวผู้ต้องหาออกมาสอบปากคำเนื่องจากกำลังรอทางญาติของผู้ต้องหาเดินทางมาร่วมรับฟังระหว่างการสอบปากคำเพราะอัตราโทษของผู้ต้องหาค่อนข้างสูง จึงต้องให้ญาติมารับฟังเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งก็มีการนัดหมายในเวลา 07.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.67) แล้วจึงจะนำตัวส่งฝากขังในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน แต่เบื้องต้นในช่วงเที่ยงวันนี้ก็ได้มีการนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว โดยผู้ต้องหาให้การว่าเกิดมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงได้เดินไปหยิบอิฐบล็อกแล้วทุ่มใส่ศีรษะ แล้วจึงทำการหยิบอิฐบล็อกก้อนเดิมมาทุบซ้ำเข้าไปที่ใบหน้า 2-3 ครั้ง จากนั้นก็ใช้เชือกไนลอนผูกคอของผู้เสียชีวิตไว้กับท้ายรถจักรยานยนต์แล้วขับลากไปในระยะทางกว่า 200 เมตร เมื่อมาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองก็ได้ตัดสินใจโยนร่างของผู้เสียชีวิตทิ้งลงไปในคลองทันที

 

ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุพบว่าบริเวณดังกล่าวนั้นยังคงมีก้อนอิฐบล็อกที่แตกหักและเปื้อนไปด้วยคราบเลือดของนายวันทอง (ผู้เสียชีวิต) จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายทึก อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ โดยนายทึกเล่าว่าเมื่อช่วงเช้าวานนี้ทางด้านของนายทิพย์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มานั่งเล่นอยู่ข้างบ้านของตน จากนั้นช่วงสายนายทิพย์ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาหอยบริเวณทุ่งนา เมื่อได้หอยมาจำนวนหนึ่งนายทิพย์ก็จะออกไปซื้อเครื่องเคียงมาต้มกับหอย ตอนที่กลับมาบ้านของตนนายทิพย์ก็ได้พานายวันทองมาด้วย จากนั้นทั้งสามคนก็ได้นั่งกินหอยอยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างบ้าน เมื่อกินเสร็จตนก็ได้เก็บจานชามเข้าไปล้างในบ้าน พอออกมาอีกทีก็เห็นว่านายทิพย์นอนนิ่งหน้าเปื้อนเลือดอยู่แล้ว ตนก็ได้ถามนายทิพย์ว่า “ทำแบบนั้นทำไม ทำนายวันทองทำไม” ด้านนายทิพย์ก็ตอบว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” นายทึกจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปแจ้งข่าวกับผู้ใหญ่บ้าน แต่พอกลับมาถึงก็ไม่เจอกับร่างของนายวันทองและไม่เจอตัวนายทิพย์แล้ว ทั้งหมดจึงพากันออกตามหา แต่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เจอกับร่างของนายวันทองที่นอนเสียชีวิตอยู่ในคลอง โดยนายทึกก็รู้สึกตกใจและเสียใจที่นายทิพย์ได้ก่อเหตุฆ่านายวันทองที่บ้านของตน แต่ต้นก็ยืนยันว่าไม่รู้สาเหตุที่นายทิพย์ก่อเหตุฆ่านายวันทอง เพราะตอนที่นั่งกินหอยต้มด้วยกันก็เห็นว่าทั้งคู่ยังดี ๆ กันอยู่เลย

 

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางวิลาภ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 08.00 น. นายทิพย์ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับนายวันทองถึงที่บ้าน โดยบอกว่าจะพาไปเที่ยวเล่นที่หมู่บ้านข้าง ๆ จากนั้นทั้งสองก็พากันซ้อนรถจักรยานยนต์ออกไป จนช่วงเย็นตนก็ได้รับสายโทรศัพท์แจ้งข่าวว่านายวันทองถูกนายทิพย์ฆ่าตายแล้ว ตนก็รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุและพบกับร่างพี่เขยที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยทราบว่านายทิพย์ได้ใช้ก้อนอิฐบล็อกทุบเข้าที่ใบหน้าของนายวันทอง จากนั้นจึงใช้เชือกรัดคอและผูกกับรถจักรยานยนต์ก่อนจะลากไปกับพื้นถนน แล้วจึงนำศพไปทิ้งน้ำเพื่ออำพราง โดยนางวิลาภเชื่อว่าตอนที่นายวันทองถูกลากไปกับถนนนั้นน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ตนรู้สึกว่าผู้ก่อเหตุนั้นโหดเหี้ยมมากเกินไปจนไม่น่าให้อภัย ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ต่อให้จะโกรธเคืองอะไรกันก็ไม่น่าจะทำกันจนถึงตาย สุดท้ายก็อยากขอให้พี่เขยหลับให้สบาย ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นก็จะต้องอยู่รับผลกรรมที่ทำเอาไว้

เฒ่าโหดอิฐทุบหัวเพื่อน เชือกรัดคอใช้รถลากศพทิ้งน้ำ