จากกรณี "ปวีณา" พาหนูน้อย 2 ขวบ แม่และยาย ไปรับการรักษาที่ รพ.ยันฮี หลังถูกสาวใจเหี้ยมใช้น้ำมันร้อนๆ ในหม้อทอดไก่สาดใส่ใบหน้าและทั่วตัว ปมแค้นทวงค่าเช่าห้องพักไม่ได้ สองแม่ลูกเป็นแผลพุพองเหวอะหวะทั่วใบหน้า คอ แผ่นหลัง หน้าอก และเต้านม ปวดแสบปวดร้อนทุกข์ทรมาน หวั่นติดเชื้ออันตรายถึงชีวิต "หมอสุพจน์" รพ.ยันฮี ใจดีรักษาให้ฟรี รับแอดมิททันที ดูแลทั้งสภาพร่างกายและจิตใจจนกว่าจะหายดี "ปวีณา" ประสาน ผกก.สน.ยานนาวา ให้ความเป็นธรรมติดตามตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษทางกฎหมาย

ต่อมา ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ อพาร์ทเมนต์ เลียบคลอง สาทร 17 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน มักจะมีปากเสียงกัน ในเรื่องของค่าเช่า ซึ่งจะมีการทวงบ่อยๆ

ทั้งนี้ยังได้คุยกับ นางสาวขวัญ อายุ 25 ปี เป็นหลานสาว ประธานชุมชน เผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงกรี๊ดร้อง และโวยวาย ลุงตนเป็นคนอุ้มเด็ก 2 ขวบ ไปเรียกรถพยาบาล

ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต้องชี้แจงว่า คุณหนึ่ง ผู้กระทำความผิด มีหน้าที่ในการเก็บค่าเช่าห้อง เพราะเป็นญาติกับเจ้าของ โดยนิสัยพื้นฐาน เป็นคนดี เงียบๆ ไม่ได้มีวาทะกับใคร แต่หลังจากครอบครัวนี้มาอยู่ ด้วยลูกสาวของคุณยาย แม่น้องเด็ก 2 ขวบ นั้นมีนิสัยชอบด่า ชอบโวยวาย และมักเสียงดัง จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จนถึงขั้น มีการให้ย้ายออกไป และมีพฤติกรรมติดค้างค่าเช่า จนต้องทำให้มีทวง จนกลายเป็นปากเสียง

ทั้งนี้ หลังจากมีปากเสียง จนทำให้ ลูกสาวเขาต้องย้ายออกไป ก็เลยเหลือแต่คุณยาย เสาร์อาทิตย์ ก็จะมารับออกไป แต่ในวันเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียง แม่ของเด็กวัย 2 ขวบ ทะเลาะกับ คุณหนึ่ง และได้ยินเสียงกรีดร้อง จนออกมาดู น้อง 2 ขวบก็เจ็บแล้ว

ลุงตนจึงพาเด็กออกไปเรียกรถ แต่สิ่งอยากให้ทราบคือ พฤติกรรมของแม่เด็กนั้น ยังยืนด่า ไม่หยุด ทั้งๆที่ลูกตัวเองเจ็บ จริงๆ ตนเข้าใจว่า การสาดน้ำร้อน มันไม่ควร แต่จริงๆก็อยากให้ฟังความทั้ง 2 ข้าง ว่าจริงๆ พฤติกรรมของแม่เด็กก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ออมชอมหรือ มีความน่ารักกับคนแถวนี้เช่นกัน

และหลังเกิดเหตุ ทางด้านผู้กระทำความผิด ก็มีการลงบันทึกประจำวันทันที และพร้อมรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ทั้งนี้ ด้าน นางหนึ่ง อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนยอมรับผิดว่า เป็นคนเอาน้ำมันสาดจริง แต่อยากชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ตนมาสั่งข่าว ที่ร้านกลางซอย และเจอ ยายบุ๋ม แม่ผู้บาดเจ็บ กินข้าว จึงทำการทวงถามค่าเช่า ที่ติดไว้ 12000 บาท ซึ่งจริงๆ ติดอยู่ 23,000 บาท แต่จ่ายมาแล้วส่วนหนึ่ง

แต่พอถามยังไม่ได้รับคำตอบ กลับกลายเป็น คุณฝ้าย ผู้บาดเจ็บ เดินมา และกล่าวอ้างว่า มีการพูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้ว ผ่านทางแชต แต่เมื่อตนเช็กข้อความ ทางหลานตน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ได้ตอบรับ ทำให้เขาอารมณ์ขึ้น และโวยวาย และพูดไม่ดีใส่ ซึ่งนิสัยเขา ทุกคนทราบดี ว่าเป็นคนก้าวร้าว  โวยวาย เสียงดัง ชอบทะเลาะกับคนไปทั่ว จนทำให้ทุกคนเอือมหมด 

จริงๆ ตนจะเดินหนีแล้ว แต่คำพูดเขามันทำให้ตน อารมณ์ขึ้น เพราะเขาหาว่าตนบ้า ซึ่งตนเป็นซึมเศร้า และเป็นไบโพล่าก็จริง แต่ตนไม่เคยทำร้ายใคร และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ตนมองว่า มันกระแทกใจ

และมันไม่ใช่ครั้งแรก มันเลยทำให้ยกน้ำร้อน จะสาดเขา ยอมรับว่า สติหลุดแล้ว แต่ไม่ได้มีเจตนาให้โดนเด็ก ตนไม่เห็นน้อง ว่าอยู่ตรงนั้น และยอมรับว่า พอทำไป สิ่งที่แรกที่เป็นห่วง คือ เด็ก  ตนยกสาดไป เขาก็เอามือสะบัด มันเลยหกไปที่เด็ก และ กระเด็นจะโดนหน้าตนเลยเอามือป้องไว้ ทำให้เจ็บเช่นกัน

แต่แม่เขากลับยังยืนด่าตน ไม่หยุด ไม่ยอมเอาลูกไปรักษาก่อน ตนยินดี ดูแลค่าใช้จ่าย หลังเกิดเรื่องตนไปแจ้งความตัวเองด้วยซ้ำ วันนี้ก็ไปรับทราบข้อกล่าวหา พยายามสอบถามอาการ แต่เขาไม่บอกอะไรเลย ตนไม่ได้แปลกใจที่เขาไปร้อง ปวีณา เพราะเขาชอบเอาชนะ ตนน้อมรับทุกข้อกล่าวหาที่จะโดน