จากกรณี นางนันทวัน หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าหอบผ้าหนีตามพระ พระทองคำ พระลูกวัดแห่งหนึ่ง จ.อุทัยธานี หลังเจ้าอาวาสเห็นกอดกันข้างกำแพง ทางเจ้าอาวาสจึงขับไล่พระออกจากวัด รุ่งเช้ามาพานางนันทวันหนีไปด้วย โดยทิ้งหนี้ไว้ 5 แสน หมาแมวกว่า 30 ตัว จนทำให้ นายสนั่น สามีของ นางนันทวัน ร่ำไห้ใจจะขาดวอนเมียกลับบ้าน ยืนยันเรื่องอื้อฉาวยังไงตัวเองรับได้หมด นั้น

ล่าสุด (21 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่มายังวัดที่เกิดเหตุ ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพื่อติดตามกรณีของนางนันทวัน ที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา และยังไม่ทราบว่าหนีออกไปอยู่ใครที่ไหน โดยมีนายสนั่น ผู้เป็นสามีพยายามตามหาอยู่ทุกวัน และคาดว่านางนันทวัน อาจจะหนีตามไปกับพระทองคำ พระลูกวัดแห่งนี้ หลังพระทองคำได้ถูกทางเจ้าอาวาสวัดขับออกจากวัด เนื่องจากสังเกตว่าพระทองคำ มีความสนิทสนมกับนางนันทวัน มากเกินไปและมีลักษณะทำนองชู้สาว

ซึ่งวันนี้ทางนายสนั่น สามี นางนันทวัน ที่หายออกจากบ้านไป ได้เดินทางมาที่วัดดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อเข้าพบกับเจ้าอาวาสวัดเนื่องจากต้องการที่พึ่งและปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเมื่อนายสนั่นเห็นว่าทางทีมข่าวช่อง 8 นั้นได้เดินทางมาหา ก็ได้รีบเดินหนีทันที ก่อนที่จะอ้างว่าลูกสาวไม่อยากให้เป็นข่าวแล้ว แต่เมื่อทีมข่าวช่อง 8 ถามไปเรื่อย ๆ นายสนั่นก็ยอมเล่าให้ฟังพร้อมทั้งน้ำตาลูกผู้ชายว่า ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่ภรรยาหนีออกจากบ้าน ตนเองก็พยามติดต่อภรรยาทุกช่องทาง แต่ทางภรรยาไม่ยอมติดต่อกลับมาเลย

ตอนนี้ยังไงตนก็ยืนยันว่า ภรรยาของตน ต้องหนีไปอยู่พระทองคำอย่างแน่นอน ซึ่งที่เชื่อแบบนั้นก็เพราะว่าเมื่อ 2-3 วันก่อน ภรรยาโทร. มาบอกลูกสาวว่าไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้อยากจะอยู่กับพระทองคำแล้ว พอตนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกใจสลายและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องที่ภรรยาของตนกับพระทองคำมีความสนิทสนมกันเกินเลย ตนก็พอจะทราบมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเรื่องจะบานปลายเป็นถึงเพียงนี้

อีกทั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนยังเคยถามภรรยาในช่วงที่นอนกอดกัน ว่าทางภรรยากับพระทองคำรักกันจริงหรือไม่ และมีความสัมพันธ์อะไรกันแล้วบ้าง ทางภรรยาตนก็ตอบเสียงแข็งมาว่าไม่เคยมีอะไรเกินเลย และอย่าคิดเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ก่อนที่ในช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ภรรยาได้ขี่ จยย. ซาเล้ง ออกจากบ้านไป ตนเองก็ไม่ทราบว่าไปไหน แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภรรยาตนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในเรื่องที่จะออกจากบ้านไปไหนมาไหนโดยไม่บอกใคร และการโทร. สอบถามทางพี่สาวของภรรยา ก็ได้รับคำตอบว่าภรรยาของตนนั้นออกไปทำงานก่อสร้าง เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย และไม่ต้องเป็นห่วงอีกไม่นานก็จะกลับบ้านแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าผิดวิสัยเป็นอย่างมาก เพราะภรรยาของตนไม่เคยทำงานก่อสร้างมาก่อนเลย

และถัดมานายสนั่น ได้ลองโทร. หาพี่สาวของภรรยา และเมื่อพี่สาวของภรรยารับสาย ทางนายสนั่น ก็ได้ถามว่า ตอนนี้ภรรยาตนอยู่ที่ไหน อยากให้กลับมาแล้วคิดถึงจะตายอยู่แล้ว ซึ่งทางพี่สาวของภรรยาก็บอกว่า “ไม่ต้องมาถามฉันแล้ว เพราะแกเล่นให้นักข่าวออกข่าวไปว่าภรรยาตัวเองหนีไปกับพระ การทำแบบนี้ก็เท่ากับการประจานภรรยาตัวเอง ทั้งที่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร พอเรื่องเป็นแบบนี้น้องสาวของตนคงไม่กลับไปหานายสนั่นอีกแล้ว” ซึ่งนายสนั่นก็ได้ตอบทางพี่สาวของภรรยาไป ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการตามหาภรรยาและอยากให้ภรรยากลับบ้านก็เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่น แต่ทางพี่สาวพยายามบอกว่าการทำแบบนี้แหละมันคือการประจาน

และเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มร้ายแรง เพราะทั้งในสนั่นและทางพี่สาวของภรรยาเริ่มจะมีปากเสียงกันแล้ว ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงถามกลับไปยังพี่สาวของภรรยานายสนั่น ว่าตอนนี้รู้ว่านางนันทวัน อยู่ที่ไหนอย่างไร ซึ่งทางพี่สาวของภรรยานายสนั่น ก็ตอบมาแบบเสียงแข็งว่า “การที่คุณทำข่าวคุณอยากฟังความข้างเดียว ขอให้ฟังความจากฝั่งของเราบ้าง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันว่านางนันทวัน ไม่ได้มีสัมพันธ์สวาทกับพระทองคำอย่างแน่นอน แต่เรื่องที่ทำให้นางนันทวันต้องหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นนั้น เพราะโกรธสามีกับลูก จึงอยากสั่งสอนโดยการหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น และอีกไม่นานเดี๋ยวก็จะกลับ แต่พอเรื่องออกไปแบบนี้คงไม่กลับไปแล้วแน่ ๆ” ก่อนที่นายสนั่นจะพูดสวนทางพี่สาวของภรรยาไปว่า “หากเรื่องของภรรยากับพระทองคำไม่ใช่เรื่องจริง ให้ทั้งคู่กลับมาสาบานได้ไหม” แต่ทางพี่สาวของภรรยา ก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นไม่ยอมตอบคำถาม และวางสายไปจากนั้นก็โทร. กลับไปไม่รับสายอีกเลย

ต่อมา นายสนั่น ได้คว้าโทรศัพท์ให้ทีมข่าวช่อง 8 ดู และลองกดเบอร์ของนางนันทวัน ภรรยา แล้วโทร. ออก เพื่อดูว่าไม่ว่าจะโทร. หรือติดต่อยังไงภรรยาของตนก็ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์เลย และหลังจากที่วางสายโทรศัพท์ไป นายสนั่นก็ร้องให้ออกมาด้วยความเสียใจ เพราะคิดถึงภรรยาสุดที่รัก พร้อมกับบอกว่า ตนกับภรรยาอยู่กินกันมา 40 กว่าปี ไม่เคยทะเลาะตบตีกันเลย อีกทั้งตอนนี้ตนก็เป็นห่วงเรื่องหนี้ที่ตนกับภรรยามีร่วมกันกว่า 500,000 บาท หากภรรยาหนีไปแบบนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินใช้หนี้ยังไง และไม่ว่ายังไงก็อยากให้ภรรยากลับมา ไม่ว่าชาวบ้านจะมองยังไง จะมีความอื้อฉาวอย่างไรก็ตาม ตนก็ยังรักภรรยาคนนี้สุดหัวใจ

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ลองเช็กเบอร์โทรศัพท์ของ นางนันทวัน ไปค้นหาในไลน์ ปรากฏว่าพบถูกตั้งชื่อโปรไฟล์เป็นชื่อของ “พระทองคำ”

หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางเกล้า (นามสมมติ) น้องสาวของพระทองคำ โดยนางเกล้า เผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา พระพี่ชายโทร. หาตนให้มารับที่วัด โดยบอกเพียงว่าโดนเจ้าอาวาสไล่ ไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร และระหว่างทางกลับบ้านที่ตนไปรับกลับมา พระพี่ชายก็ไม่เล่าให้ฟังเลย และเมื่อถึงบ้านพระพี่ชายก็ลงจากรถและเข้าไปนอนในบ้าน ก่อนจะออกไปทำธุระข้างนอก และเมื่อกลับมาก็ไม่เห็นพระพี่ชายอยู่บ้านแล้ว พยายามโทร. หาเท่าไรก็ไม่รับสาย ก่อนที่วันต่อมาพระพี่ชายจะบล็อกช่องทางติดต่อทุกช่องทาง ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

และเมื่อ 2-3 วันก่อน เพื่อนของสามีที่อยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ได้โทร. มาหาสามี และเล่าให้ฟังว่าเห็นพระทองคำ อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เองตนก็ไม่อยากปรักปรำว่าพี่ชายนั้นหนีไปอยู่กับทางผู้หญิง เพราะนิสัยของพี่ชายเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้เสียหายมาก่อน แต่ถ้าหากเป็นจริง ตนก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน

ต่อจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสวัด ซึ่งทางเจ้าอาวาส เผยว่า ทางพระทองคำนั้นมาอยู่ที่วัดตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งในช่วงที่อยู่ที่วัด ก็ทำกิจของสงฆ์ตามปกติ ไม่เคยละเว้น และไม่เคยมีเรื่องชู้สาวให้เห็นเลย จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาปกติหน้าที่ของการโทร. หาญาติโยมเพื่อมารับกับข้าวหรือมาเอาเศษอาหารให้สัตว์ จะเป็นหน้าที่ของตน แต่ทางพระทองคำได้มีการแลกเบอร์ติดต่อกับนางนันทวัน จึงมักจะโทร. หากันเองให้มาเอาเศษอาหารไปให้สัตว์ ซึ่งนางนันทวัน จะมาช่วงไหนตอนไหนตนไม่ทราบแล้ว เพราะนางนันทวันจะนัดกับพระทองคำเองว่าจะเข้าไปตอนไหน

ส่วนเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ช่วงหัวค่ำประมาณ 1 ทุ่ม ตนเองได้เดินไปด้านหลังโรงครัว ซึ่งภายในเป็นครัวมีกำแพงปูนขวางอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่บังตาอย่างดี ในระหว่างนั้นตนเองจึงเห็นนางนันทวันยืนพิงกำแพงปูน โดยมีพระทองคำยืนอยู่ตรงหน้า ดูแล้วใกล้ชิดกันจนเกินไป ตนก็สงเสียงเอ็ดไปว่าทำอะไรกัน ทำให้ทั้ง 2 ตกใจ รีบผละออกจากกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบบอกว่าไม่มีอะไรเกินเลยอย่างแน่นอน

แต่ตนมองว่าเรื่องที่ทั้งคู่มาจู๋จี๋แบบนี้ เริ่มมีลือหนาหูมาบ้างแล้ว และครั้งนี้ตนก็เห็นกับตา จึงตัดสินใจว่าหากชาวบ้านรู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นภายในวัด ก็คงทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน จึงจำเป็นต้องขับพระทองคำออกจากวัดไปนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ขับพระทองคำไปนั้น ก็มาทราบทีหลังว่านางนันทวันก็หนีไปจากบ้านด้วย ส่วนทั้งคู่จะหนีไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ ตนไม่ทราบจริง ๆ

จากนั้น เจ้าอาวาสวัดได้มีการพาทีมข่าวช่อง 8 ไปยังจุดเปลนอนของพระทองคำ และพาดูมุมอับภายในครัว ซึ่งเป็นที่พระทองคำและนางนันทวันมาจู๋จี๋กัน