จากกรณีเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระเก่า ภายในวัดสวนแก้ว ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เป็นเหตุให้เด็กวัดถูกไฟคลอกเสียชีวิต 3 คน เป็นเด็กชายอายุ 11 ปี จำนวน 2 คน และ อายุ 9 ปี จำนวน 1 คน เหตุเกิดเมื่อ 00.30 น. ของวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

 

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้กล้องวงจรปิดของวัดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้โดยเป็นมุมกล้องที่ไม่ได้เห็นจุดที่ไม่อย่างชัดเจนแต่เป็นด้านข้างโดยเวลา 23.29.31 จะเห็นพระสงฆ์หนึ่งรูปวิ่งมาดูที่กุฏิแล้วรีบวิ่งออกไปด้านหน้าวัดเพื่อไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ.

 

เวลา 23.30.04 เริ่มเห็นเปลวไฟลุกโชนขึ้น มีพระช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ

 

เวลา 23.31.46 รปภ. นำรถกอล์ฟพร้อมถังดับเพลิงเข้ามาดับเพลิง แวะและ 23.32.12 เจ้าหน้าที่ของวัดก็เดินทางมาถึง จากนั้นทุกคนก็วิ่ง ช่วยกันดับเพลิงจนสงบลงและพบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายสามราย

 

นางจำลอง ย่าทวดของน้องเอ็ม เด็กชาย ปัณณวิช และน้องเอส เด็กชายปัณวัฒน์ อายุ 11 ขวบพี่น้องฝาแฝดที่เสียชีวิต มาติดต่อที่วัดโดยเปิดใจกับทีมข่าวว่า ทางครอบครัวไม่มีเวลาและไม่มีที่อยู่เลี้ยงดูหลานชายได้จึงพามาบวชเรียนภาคฤดูร้อนที่วัดสวนแก้วเมื่อวันที่ 6 เมษายนหลังจากนั้นสึกวันที่ 1 พฤษภาคมเมื่อสึกเสร็จแล้ว ก็เลยปรึกษาทางวัดว่ามี การเรียนงานสอนให้กับเด็กหรือไม่ทางวัดมีการอุปถัมภ์ดูแลเด็กที่ไร้ที่พึ่งจึงฝากฝาแฝดสองคนน้องเอ็มและน้องเอสไว้กับวัดโดยเพิ่งไปโรงเรียนได้เพียงสองวันเท่านั้นก็ต้องมาเสียชีวิต

 

เมื่อถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตนั้นทางครอบครัวก็เกิดความสงสัยว่าทำไมไฟไหม้แล้วไม่หนีหรือเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทั้งสามคนจึงทำให้หนีออกจากกุฏินั้นไม่ได้ หากถามถึงความซนยอมรับว่าหลานตนเองซนตามวัย และเขามีความฝันว่าถ้าเขาได้ทำงานเขาจะซื้อรถให้ย่าเค้าจะดูแลย่าช่วงพูดประโยคนี้ย่าทวดถึงกับหลังน้ำตา โดยญาติบอกว่าตอนที่นำมาฝากนั้นก็คิดถึงหลานทุกวันก็เคยอยู่ด้วยกันแต่ก็ตัดใจเพราะอยากให้เขามีอนาคตได้เรียนหนังสือแต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องตายในเวลาก่อนวัยอันควร

 

ด.ช.ธีรพัฒน์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง แฝดพี่ของด.ช.ธีรพงษ์ อายุ 9 ปี (ผู้เสียชีวิต) กล่าวว่า ตนตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอน้อง จึงถามหาพงษ์กับแม่ ว่าน้องหายไปไหน แม่ก็ตอบว่าพงษ์อยู่โรงพยาบาล ซึ่งเมื่อคืนไม่ได้ลงไปเล่นกับพวกเขาเพราะหลับ หลังจากที่ดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าพงษ์ แฝดน้องของตนถือเข้าไปในกุฏิด้วย คือที่วางเทียน

 

ต่อมาเวลา 12.30 น. นางเกษร อายุ 42 ปี แม่ของ ด.ช.ปัณณวิชญ์ และ ด.ช.ปัณณวัฒน์ อายุ 11 ปี คู่ฝาแฝดที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว เมื่อมาถึงวัดแม่ของน้องฝาแฝดตะโกนร่ำไห้ และเป็นลมล้มลง ผู้สื่อข่าวจึงพยายามประคองและบอกให้ใจเย็นๆ

 

หลังตั้งสติ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ตนตั้งใจจะมาหาลูกทุกวันที่ 8 แต่ก็ไม่เคยได้มา เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมันมาหาลูก ลูกมักจะถามว่า “แม่มาหาผมไหม” ตนอยากมาใจจะขาดแต่ไม่มีเงิน หลังตนทราบข่าวเมื่อเช้าตนช็อกไปไม่เป็น ทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกตน ตนเลี้ยงลูกมากับมือ ทำไมถึงเกิดเหตุเลวร้ายแบบนี้ อยากให้ตำรวจตรวจสอบให้ละเอียดที่สุด ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ และตนไม่ได้เจอหน้าลูกมาปีกว่าแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอลูกสภาพแบบนี้ หัวใจตนแตกสลาย เพราะสูญเสียสิ่งที่ใหญ่ที่สุด

 

พระพยอม กล่าวว่า เราเลี้ยงเด็กในวัดสวนแก้วมา 20 ถึง 30 ปี รุ่นแรกๆมีครอบครัว เรียนจบการศึกษาปริญญาตรี ทำงานได้ดี ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในวัด ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อคืนเป็นวันวิสาขบูชา พอเทศน์เสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป เด็กคงเห็นโอกาสว่าไม่มีผู้ใหญ่ดูแลจึงลงจากตึกมาเล่นกันที่กุฏินี้จึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่เคยนึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เด็กรุ่นแรกๆอยู่กันเป็นร้อย แต่ตอนนี้เหลือน้อยลงมาก ซึ่งได้มีการสอบถามเด็กที่ลงไปเล่นด้วยเมื่อคืนก่อนจะขึ้นมาด้านบน ยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโชคดีที่ขึ้นมาไม่งั้นคงเกิดเหตุสลดมากกว่านี้ อาตมาคงให้ข้อมูลได้แค่ในส่วนของทางเรา นอกนั้นต้องให้ทางพิสูจน์หลักฐานเป็นคนให้ข้อมูล ซึ่งเมื่อคืนอาจจะมีเรื่องคลาดเคลื่อนที่อาจทำให้ทั้งวัดเสียหาย ทางวัดมี รปภ.เป็น 10 คน เมื่อคืนพอเห็นไฟไหม้เจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งไปเอาถังดับเพลิงมาฉีด 7 ถัง ข่าวที่ออกไปว่าไปถึงแล้วเข้าไม่ได้เพราะล็อกกุญแจหน้าห้องไว้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ล็อก เพราะหากพูดแบบนั้นพระต้องเข้าคุกแน่เพราะฆาตกรรมเด็ก เราเลี้ยงเด็กมาหลายรุ่นผ่านมา 4-500 คนประสบความสำเร็จบ้าง ติดคุกบ้าง ตายไปบ้าง แต่ไม่เคยมีใครเกิดเหตุไฟไหม้ตาย ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วมีทุนการศึกษารับอุปการะเด็กที่ไม่มีกำลัง อาตมาเสียดายเด็กที่เสียชีวิตไป เนื่องจากเพิ่งจะตัดชุดใหม่ได้แค่ 2 วัน พอถึงวันวิสาขบูชาก็หยุด และมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เพราะว่าเราดูแลเด็กอย่างเต็มที่ ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าทุกอย่างใช้จ่ายโดยเงินมูลนิธิฯทั้งหมด เท่าที่ทราบเด็กกลุ่มนี้ชอบเล่นพวกแท็บเล็ต อาตมาก็จะคอยเตือนคอยห้ามว่าไม่ให้ชาร์จแบตทิ้งไว้ แต่เด็กเคยบอกกับอาตมาว่าถ้าไม่อยากให้แบตหมดก็ต้องเสียบปลั๊กคาไว้ตลอด เคยเห็นเด็กพูดคุยกัน ที่นี่เมื่อก่อนเป็นกุฏิพระและพระเหลือน้อยก็เลยไม่มี เด็กก็อาจจะไปเล่นกัน มีเด็กขึ้นไปบนกุฏิ 2 คน ไม่งั้นคงเกิดเหตุสลดทั้งหมด 5 ศพ เด็กพวกนี้เป็นเด็กที่มาอยู่ที่วัดได้ 2-3 เดือนแล้ว เพราะญาติพ่อกับแม่เด็กเลิกกัน และญาติพี่น้องก็นำมาบวชเรียนที่วัด มีเป็นฝาแฝด 2 คู่ ที่อยู่ในวัดแห่งนี้ตาย 1 คู่ และอีกคนหนึ่งเป็นคนน้องตายคนเดียว เมื่อคืนอาตมายังไม่ได้เข้าไปดูเพราะเข้านอนแล้ว มีนักข่าวบางส่วนมาที่วัดเมื่อคืนนี้ เป็นพยานได้ว่าประตูในกุฏิไม่ได้ล็อก และทางวัดก็มีคลิปที่เปิดประตูเข้าไปดับไฟ

 

ในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้นั้นคนที่เข้าไปดับไฟครั้งแรกคือนาย สุริยาทิตย์ รปภ. ของวัด เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่าตอนขณะเกิดเหตุฟ้าร้องและฝนกำลังจะตกหลวงพี่ได้วิ่งออกมาบอกว่าไฟไหม้กุฏิตนเองจึงรีบนำถังดับเพลิงใส่รถกอล์ฟสองถังขับเข้าไปที่กุฏิและ ดับไฟจนดับเกือบสนิทและใช้น้ำ ดับไฟอีกชั้นหนึ่งตอนนั้น คิดว่าไม่มีคนอยู่ คิดว่าเป็นตุ๊กตานอนอยู่ที่พื้นถูกไฟไหม้แต่พอตรวจสอบไปมาก็รู้ว่าเป็นเด็กที่วัดจึงรีบเรียกหัวหน้ารปภ. และแจ้งหลวงหลวงพ่อรับทราบก็พบว่าเด็กทั้งสามคนนอนเสียชีวิตในสภาพสองคนนอนคว่ำหน้าอีกหนึ่งคนนอนตะแคง

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีประตูหรือหน้าต่างล็อกไว้หรือไม่เหตุใด เด็กๆ จึงไม่ยอมออกจากกุฏิขณะที่ไฟ ลุกไหม้ยังไม่ไม่มาก รปภ. บอกว่าประตูไม่ได้ล็อกแต่ก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไมเด็กถึงไม่ออกมาทั้งที่ช่วยเหลือตัวเองได้หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทั้งสามคนก่อนที่จะเกิดไฟไหม้เพราะทุกคนนอนแน่นิ่งตั้งแต่ต้นไปดับไฟแล้ว

ไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว ย่างสดเด็ก 3 ศพ ภาพสลดแฝดกอดกันตาย