สืบเนื่องจากกรณี แม่ของ เจสซี่ (นามสมมติ) เยาวชนชายอายุ 17 ปี ตามหาลูกหายออกจากบ้าน ก่อนจะพบว่าไปคบหา น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) เยาวชนหญิงวัย 16 ปี และถูกหลอกโอนเงินเกษียณของพ่อชาวต่างชาติที่ส่งมาให้ทุกเดือนไปกว่า 800,000 กว่าบาท ต่อมาฝ่ายหญิงบอกเลิก แต่ น.ส.กานต์ (นามสมมติ) แม่ฝ่ายหญิงกลับมาแทนที่ลูกสาวเพื่อหวังเงิน จากนั้นก็พาหนีตามกันมาอยู่ด้วยกันกว่าครึ่งเดือนแล้วที่ลูกหายไป ติดต่อไม่ได้เลย




ซึ่งนายเจสซี่ คบหากับนางสาวพิมพ์ ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกันนั้นนายเจสซี่ได้แอบกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มของพ่อ ซึ่งเป็นเงินสะสมหลังจากเกษียณอายุ 891,000 กว่าบาท คอยให้นางสาวพิมพ์มาโดยตลอด แต่ช่วงหลังมานี้ เมื่อเงินของนายเจสซี่ใกล้หมด นางสาวพิมพ์เริ่มตีตัวออกห่างและเลิกกัน โดยนายเจสซี่ก็เสียใจมากจึงไปปรึกษา น.ส.กานต์ ซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ของนางสาวพิมพ์ หลังจากนั้นน.ส.กานต์จึงเข้ามาดูแลนายเจสซี่ และเริ่มคบหากับนายเจสซี่แทน โดยในขณะนั้นเองน.ส.กานต์ ยังมีสามีอยู่คือ นายเบียร์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ของนางสาวพิมพ์ หลังจากนายเบียร์จับได้ว่าโดนนายเจสซี่ตีท้ายครัว จึงทะเลาะกันหนัก ทำให้ น.ส.กานต์ น.ส.พิมพ์ และนายเจสซี่ จึงหนีไปอยู่ด้วยกัน และไม่มีใครเจอตัวอีกเลย


ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ค. 2567) ทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่มายังพื้นที่ ซอยสุขุมวิทพัทยา 28/1 เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่หอพักของทางด้านนายเบียร์ น.ส.กานต์ และน.ส.พิมพ์ ครอบครัวที่โดนกล่าวหาว่าหลอกเงินของนายเจสซี่ไป พบว่าขณะนี้บ้านถูกปิดประตูล็อกเงียบ ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย สอบถามไปยังเพื่อนข้างบ้านปรากฏว่า นายเบียร์นั้นน่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส่วนทางด้าน น.ส.กานต์ และ น.ส.พิมพ์ นั้น หนีออกจากบ้านไปแล้วตั้งแต่นายเบียร์จับได้ว่านางกานต์แอบคบกับนายเจสซี่ อดีตแฟนของลูกสาว




โดยทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยังนางสาวกิ๊ก (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายเจสซี่ และ น.ส.พิมพ์ เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า เมื่อก่อนตนนายเจสซี่ และ น.ส.พิมพ์ นั้นไปเที่ยวเล่นกันบ่อย ซึ่งตนอยู่ห้องข้าง ๆ ห้องเช่าของครอบครัวน.ส.พิมพ์ พบว่าก่อนหน้านี้นายเจสซี่มาหา น.ส.พิมพ์ ที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แต่ช่วงหลังมานี้นายเจสซี่บอกกับตนว่าได้เลิกคบหากับ น.ส.พิมพ์ และมีแฟนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพิ่งมาทราบไม่กี่วันมานี้เองว่า นายเจสซี่คบหากับ น.ส.กานต์ ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.พิมพ์ หลังจากนั้นนายเบียร์จับได้ น.ส.กานต์ น.ส.พิมพ์ และนายเจสซี่จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่ห้องเช่าใหม่ หลังจากนั้นเวลาตนจะไปหาน.ส.พิมพ์ เจ้าตัวก็จะนัดให้ตนมาเจอที่ร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้าน แล้วให้นายเจสซี่มารับเพื่อมานั่งเล่นที่ห้องใหม่ ที่ทั้งสามคนหนีเข้ามาอยู่ด้วยกัน ทางด้าน น.ส.กานต์ และ น.ส.พิมพ์ สั่งกำชับไว้ว่าห้ามบอกใคร


ส่วนเรื่องเงินนั้นตนไม่รู้เลยเพราะที่ผ่านมา น.ส.พิมพ์ และ น.ส.กานต์ ก็ใช้จ่ายทุกอย่างตามปกติ เพียงแต่เคยเล่าให้ตนฟังบ้างว่านายเจสซี่นั้นตามใจ น.ส.พิมพ์ ทุกอย่างอยากได้อะไรก็ซื้อให้ ต้องการอะไรก็ทำให้ แต่ที่ผ่านมาครอบครัวนี้ก็ไม่ได้มีวี่แววว่าจะร่ำรวยผิดปกติแต่อย่างใด




ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 ได้เบาะแส ว่านายเจสซี่ น.ส.กานต์ น.ส.พิมพ์ นั้น ได้หนีมาอยู่ด้วยกัน ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง ที่พัทยา อำเภอบางละมุง ทางทีมข่าวจึงเดินทางมายังห้องพักดังกล่าว ปรากฏว่าห้องพักที่คาดว่า น.ส.กานต์ และ นายเจสซี่ น่าจะอาศัยอยู่นั้นอยู่บริเวณชั้นล่างสุดห้องริม ทางทีมข่าวจึงเข้าไปเคาะเรียกบริเวณห้องดังกล่าว โดยใช้เวลาเรียกไม่นานนัก ก็มีผู้หญิงออกมาเปิดประตูห้อง รูปพรรณสัณฐานมีรูปร่างท้วม ผมสั้น เมื่อทีมข่าวสอบถามว่าใช่ น.ส.กานต์ หรือไม่ ได้คำตอบว่า “ใช่ มีอะไรหรือเปล่า” แต่เมื่อพูดคุยสอบถามทราบว่าเป็นนักข่าว ด้าน น.ส.กานต์ จึงไม่ให้รายละเอียดและไม่ตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด ถามแค่ว่า “มากันได้อย่างไร” แล้วก็ปิดประตูเข้าห้อง เรียกก็ไม่ตอบอีกเลย


หลังจากนั้นทางทีมข่าวจึงเฝ้ารออยู่หน้าประตูห้อง และคอยเรียก น.ส.กานต์ และนายเจสซี่เป็นระยะ ๆ ทั้งพยายามเกลี้ยกล่อมทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด เมื่อทางด้านทีมข่าวพยายามเงี่ยหูฟังที่บริเวณห้อง ได้ยินเสียงผู้หญิงและผู้ชายคุยกัน ประมาณ 3 คน จึงคาดว่าอีก 2 คน น่าจะเป็น น.ส.พิมพ์ และนายเจสซี่หรือไม่




ทางทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง ลุงชัย (นามสมมติ) เจ้าของหอพัก เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า เมื่อประมาณวันที่ 20 น.ส.กานต์ ได้มาขอเช่าบริเวณห้องพักห้องนี้ เดินทางมาพร้อมเด็กผู้หญิงวัยรุ่นอายุประมาณ 16-17 ปี และเด็กผู้ชายวัยรุ่นอีก 1 คน หน้าตาออกลูกครึ่ง เมื่อทีมข่าวให้ดูรูปภาพว่าใช่นายเจสซี่หรือไม่ คุณลุงเจ้าของหอพักก็มั่นใจ ว่าใช่แน่นอน ลุงชัยมั่นใจว่าทั้งสามคนนี้อยู่ด้วยกัน บางวันก็มีเพื่อนวัยรุ่นผู้ชายเดินทางมาที่หอพัก เพื่อขนย้ายของมาไว้ที่ห้องเช่าบ้าง เมื่อวานลุงชัยยังเห็นว่า นายเจสซี่ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้า-ออกบริเวณหอพัก และมานอนอยู่กับ น.ส.กานต์ แต่วันนี้ไม่แน่ใจว่าอยู่ในห้องหรือไม่ เพราะมีเด็กผู้ชายอีกหนึ่งก็แวะเวียนมาด้วย ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของ น.ส.พิมพ์




ขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดมุมที่ 1 เวลา 19.56 น. 29 พ.ค. 2567 ซึ่งเป็นหลักฐานว่านายเจสซี่และน.ส.กานต์อยู่ด้วยกัน โดยในคลิปจะเห็นว่าทั้งคู่ได้ออกจากหอพักแห่งใหม่ ขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อออกไปซื้อของด้วยกัน


ทั้งนี้ ทีมข่าวช่อง 8 เกาะติดสถานการณ์ และเฝ้าหน้าห้องของ น.ส.กานต์ อย่างต่อเนื่อง พยายามเคาะเรียกประตูและเกลี้ยกล่อมหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ทางด้าน น.ส.กานต์ ยังคงนิ่งเงียบ และไม่ยอมเปิดประตูออกมาคุยเลย แม้ทีมข่าวจะชี้แจงว่า ให้ด้าน น.ส.กานต์ ออกมาพูด ในแง่มุมของตัวเองเพื่อที่สังคมจะได้รับรู้ข่าวสารสองฝ่าย แต่น.ส.กานต์ ก็ยังคงนิ่งเงียบ


ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงประสานไปยังลุงชัยเจ้าของหอพักให้มาช่วยเคาะเรียกที่ประตูห้องให้ ลุงชัยจึงพยายามเกลี้ยกล่อม น.ส.กานต์ ให้ออกมาเปิดประตู บอกว่ามีอะไรให้ออกมาคุยกันจะได้หาทางช่วยเหลือถูก ด้าน น.ส.กานต์ จึงยอมเปิดประตูออกมา ทางทีมข่าวจึงพยายามสอบถามอีกครั้งว่าน้องเจสซี่ได้อยู่ในห้องด้วยหรือไม่ แต่กลับได้คำตอบจาก น.ส.กานต์ ว่า “ไม่ได้อยู่ เลิกรากันไปนานแล้ว” หลังจากนั้นก็ปิดประตูล็อกห้องเช่นเดิม ซึ่งจากคำตอบของ น.ส.กานต์ นั้นค่อนข้างที่จะขัดแย้ง กับข้อมูลของลุงชัยเจ้าของหอพัก ที่เปิดเผยว่า น.ส.กานต์ อยู่ที่นี่กับนายเจสซี่ตั้งแต่วันแรก และยังเห็นนายเจสซี่อยู่เมื่อวานนี้




ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. น.ส.กานต์ น.ส.พิมพ์ และชายวัยรุ่นอีก 1 คน เดินทางออกมาจากห้องพักห้องดังกล่าว สวมเสื้อฮู้ดและแมสก์ปิดบังใบหน้าทั้ง 3 คน อีกทั้งพยายามหลบหนีทีมข่าว และเดินแยกสลับทางกัน เพื่อให้ทีมข่าวสับสน คล้ายว่ามีการวางแผนมาก่อนแล้วล่วงหน้าก่อนที่จะออกมา อีกคนแยกไปทางหนึ่ง อีกคนแยกไปอีกทาง และเดินมาบรรจบหน้าประตูใหญ่ ซึ่งสองคนที่เดินออกไปคือ น.ส.พิมพ์ และวัยรุ่นชายอีก 1 คน ซึ่งตอนแรกคาดว่าคือนายเจสซี่ แต่เพื่อนสนิทบอกว่า คือแฟนใหม่น.ส.พิมพ์ โดยทั้งสองคนเดินออกจากหน้าประตูใหญ่แล้วรีบวิ่งหลบหนีทีมข่าวออกไป




ทางทีมข่าวจึงพยายามเกาะติด น.ส.กานต์ เพราะเจ้าตัวต้องเดินมาเอามอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ ทางทีมข่าวจึงวิ่งสอบถามนางกานต์ ว่า “น.ส.กานต์นั้นได้หลอกเงินจากนายเจสซี่ไปกว่าหนึ่งล้านบาทจริงหรือไม่ และตอนนี้นายเจสซี่อยู่ที่ไหน และน.ส.กานต์นั้นมีอะไรจะชี้แจงกับสังคมขณะนี้หรือไม่” ทีมข่าวพยายามสอบถาม แต่ น.ส.กานต์ ก็นิ่งเงียบตลอดเวลา พยายามสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ออกไป ไม่ตอบคำถามทีมข่าวแม้แต่คำถามเดียว หลังจากนั้น น.ส.กานต์ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีไป ทีมข่าวพยายามตามแล้ว แต่ด้วยหนีไปอย่างรวดเร็วจึงไม่สามารถตามได้




ทางทีมข่าวจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ว่าทางด้านทีมข่าวนั้นได้เจอตัวของ น.ส.กานต์ แล้ว เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มาติดตามตัวต่อไป ในข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่ทางด้านตำรวจระบุว่า ทางด้านครอบครัวของนายเจสซี่นั้นยังไม่ได้แจ้งความ ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว แจ้งความเพียงแค่ในส่วนของการยักยอกทรัพย์เท่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยังไม่สามารถจะจับกุมตัวของ น.ส.กานต์ ทำได้เพียงแค่เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเจรจากัน


ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังสำนักงานทนายคู่ใจ ของทนายรณรงค์ แก้วเพชร์ เพื่อติดตามกรณีการหายออกจากบ้านของนายเจสซี่ และได้พบกับ นางกุ้ง แม่ของเจสซี่ และนายดีแลน อายุ 20 ปี พี่ชายของเจสซี่ ซึ่งนางกุ้ง ได้เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า หลังจากที่มีโอกาสพูดคุยกับลูกชายผ่านรายการโหนกระแส ก็รู้สึกได้ทันทีว่าไม่ใช่ลูกชายคนเดียวกันกับที่ตัวเองเลี้ยงดูมา เพราะปกติลูกชายตน นิสัยดีอะไรก็ได้ และไม่เคยมีนิสัยก้าวร้าว หรือพูดจาวกไปวนมาแบบนี้เลย ซึ่งภายในรายการทางตนก็พยามจะพูดเรียกสติลูกให้กลับมา แต่ก็ไม่สำเร็จลูกชายตนไม่ยอมฟังอะไรที่ทางตนพูดกล่อมเลย และในรายการที่ทางลูกชายตนบอกว่ายังไม่พร้อมกลับบ้าน กับคำนี้ที่ลูกชายพูดมาตนรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจอย่างมาก เพราะเชื่อว่าใจของลูกชายคงมอบให้ทางฝั่งโน้นมากกว่าทางฝั่งครอบครัวตัวเองไปแล้ว




โดยเรื่องที่ น.ส.กานต์ จะเป็นคนคอยบงการให้ลูกชายตนพูดอะไรไปในรายการนั้น ทางตนก็ไม่อยากปรักปรำใคร เพราะทางลูกชายบอกว่าตัวเองอยู่คนเดียว ไม่ได้มีใครอยู่ด้วย แต่ตนก็เชื่อว่ายังไงก็ต้องมีคนคอยสั่งการให้ลูกตนพูดออกไปแบบนั้นแน่นอน เพราะสิ่งที่ลูกพูดไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลยแม้แต่น้อย และตอนนั้นได้เจอกับลูกชายครั้งสุดท้ายและเป็นวันที่ลูกชายหายออกจากบ้านนั่นคือวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยทางลูกชายมาที่บ้านพร้อมกับนางโดยเข้ามาเอาเอกสารต่าง ๆ ออกไป และหายออกจากบ้านไปโดยไม่สามารถติดต่อได้เลย ส่วนตอนนั้นก็มีโอกาสได้เจอกับ น.ส.กานต์ เพียงแค่ครั้งเดียว คือครั้งที่ น.ส.กานต์ พาลูกชายตนไปเที่ยวกับครอบครัว และครั้งนั้นทางลูกชายตนได้มีการพูดคุยเชิงชู้สาวกับนางว่า “ขอบคุณที่มาส่งนะครับแม่” ก่อนต่างคนต่างแยกย้ายกันไป




สุดท้ายตนก็อยากให้ลูกชายกลับมาอยู่ในอ้อมอกของครอบครัว ถึงแม้จะรู้ดีว่าลูกชายตนคงไม่อยากให้กลับมาเป็นแบบเดิมและอยากจะอยู่กับทางกานต์ และขอโทษที่วันนี้อาจจะมีน้ำตาออกสื่อไปแต่น้ำตาที่ออกมานั้นคือน้ำตาที่เป็นความรู้สึกของตนที่มีต่อลูกชาย สุดท้ายหากนางกานต์ได้ยินสิ่งที่ตนพูด ตนก็อยากบอกนางกานต์ว่า


“คุณก็เป็นคนหนึ่งที่มีลูก แล้วคุณจะมากักตัวลูกฉันไปทำเพื่ออะไร ฉันเชื่อว่าที่คุณทำกับลูกชายฉันแบบนี้ไม่ใช่เพื่อบำเรอความสุขส่วนตัวของคุณหรอก แต่เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเองมากกว่า หลังจากนี้ขอให้เขามีอนาคตเถอะ และขอแค่ให้ลูกชายได้มีโอกาสไปโรงเรียนเหมือนลูกของคุณเท่านั้นเพื่อเขาจะได้มีอนาคตที่ดีต่อไป แต่ถ้าหากลูกชายยังคงดึงดันที่จะอยู่กับคุณต่อไป แล้วไม่พร้อมจะกลับมา ฉันก็คงต้องทำใจ”


และล่าสุดที่เพจเฟสบุ๊กของทนายรณรงค์ แก้วเพชร ได้มีการโพสต์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เอาไว้ว่า “ข่าวดีเจสซี่ ติดต่อมาว่าจะกลับมาหาแม่แล้วแต่มีเงื่อนไขทุกอย่างต้องจบ?”




วิมานรักระเบิด! ช่อง 8 บุกเจอ "เจสซี่" ทิ้งลูกไปคบแม่ ช็อกหนักเจอกัน 3 คน