ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อโซเซียล เพจดังแฉครูผู้ช่วย กู้ 1 หมื่น ใช้คืนตลอด โดนแก๊งเงินกู้โหด "เจ๊ฟ้า ราชบุรี" พาสามี คือ สารวัตรเต๊ก โอนไว หรือนายเต๊ก (เป็นฉายา ไม่ใช่สารวัตรจริง ๆ) ไปทำร้ายร่างกาย เอารูปปะจาน ล่าสุดครูผู้ช่วยโดนไล่ออก ขณะนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโซเชียล เมื่อทางด้านเจ้าหนี้ เจ๊ฟ้า ยังคงโพสต์แซะอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุให้นายเต๊ก สามี บุกไปทำร้ายร่างกายครูสาวผู้เป็นลูกหนี้ ก่อนถ่ายคลิปประจานลงโซเชียล จนเกิดทัวร์ลง คอมเมนต์ด่าถึงความไม่รู้สำนึกของเจ๊ฟ้า ด้านเจ๊ฟ้า ก็ยังคงตอบคอมเมนต์ ด้วยถ้อยคำหยาบคายและท้าทาย แต่ด้วยเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่าอย่างหนัก ล่าสุดเจ้าตัวปิดเฟซฯ หนีไปแล้ว




ล่าสุดวันที่ 1 มิ.ย. 2567 นางสาวพัชรี อายุ 38 ปี ครูผู้ช่วย ผู้เสียหาย นำหลักฐานคลิปภาพถ่ายที่ถูกเจ๊ฟ้าเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบในจังหวัดราชบุรี พาสามีและพวกมาทำร้ายร่างกาย และนำไปโพสต์ลงในสตอรี่เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย ซึ่งเงินเป็นหนี้ที่กู้มาจำนวน 10,000 บาท และได้ทยอยใช้หนี้มาโดยตลอด ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ถูกไล่ออกจากงาน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจึงร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมาไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อเรียกร้องความเป็นความเป็นธรรม เพราะการกระทำของผู้ก่อเหตุไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย




ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 พบภาพวงจรปิดขณะที่ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ เจ๊ฟ้า นายเต๊ก เจ๊นุ๊ก และเพื่อน ขับรถมาจอดรวมกันบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อรอให้นางสาวพัชรี ผู้เสียหาย เดินทางออกมาจากโรงเรียน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุเดินตรงปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายนางสาวพัชรี ก่อเหตุเรียบร้อยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดก็เดินกลับขึ้นรถ ก่อนที่ด้านนางสาวพัชรีจะวิ่งตามรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพราะทางด้านกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นได้ยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของนางสาวพัชรีไป


โดยวงจรปิดมุมที่ 1 วันที่ 30 พ.ค. 2567 เวลา 10.24 น. ขณะเจ๊ฟ้า และนายเต๊ก ขับรถมาจุดเกิดเหตุ หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง จากนั้นเวลา 10.26 น. ขณะที่รถปาเจโร่ของเจ๊นุ๊ก ผู้ร่วมก่อเหตุ มาถึงเลี้ยวเข้าไปกลับรถแล้วมาจอดสมทบ รถลูกน้องขับตามมาจอดด้วย




จากนั้นภาพวงจรปิดมุมที่ 4 เวลา 10.27 น. ขณะที่รถผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คันมาจอดรวมกันหมด และเดินลงจากรถมาพูดคุยกัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุทั้งหมดเดินไปก่อเหตุ ส่วนภาพวงจรปิดมุมที่ 7 เวลา 10.43 น. ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้งหมดเดินกลับขึ้นรถ พร้อมผู้เสียหายวิ่งไล่ตามรถผู้ก่อเหตุ เพราะผู้ก่อเหตุเอาโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายไป


นางสาวพัชรี ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตัวเองได้ไปกู้กับเจ๊ฟ้าเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ต้องคืนทั้งต้นและดอกจำนวนหนึ่ง 16,800 บาท คิดเป็นร้อยละ 30 ต่อเดือน ต้องส่งรายวันละ 280 บาทต่อวัน ตัวเองได้ส่งใช้หนี้ดีมาตลอด แต่ต่อมาเกิดปัญหาเงินหมุนไม่พอจึงไปขอกู้เป็นทองสองสลึงจากเจ๊ฟ้า เป็นจำนวนเงิน 25,800 บาท และกำหนดต้องใช้อาทิตย์ละ 2,150 บาท ซึ่งตัวเองผ่อนจ่ายไปแล้วจำนวน 4 อาทิตย์ ยังคงเหลือยอดหนี้ทองเป็นจำนวนเงิน 8,700 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองยังเคยมีหนี้สินที่เคยไปกู้นางสาวนุ๊กผู้ที่ปรากฏในคลิปผมทองทำร้ายร่างกายตัวเองด้วย


โดยในไลน์ของนางสาวนุ๊ก ตัวเองได้กู้มาเป็นเงินจำนวน 6,000 บาท โดยต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 1,200 บาท เนื่องจากเป็นเงินฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องส่งไปจนกว่าจะมีเงินต้น 6,000 บาทไปคืน โดยก่อนหน้านี้ได้ผ่อนหลายเดือนแล้วมีจำนวนเงินเกินยอดหนี้ไปแล้ว แต่ระยะหลังไม่สามารถหาเงินจ่ายหนี้ได้




ด้านนางสาวนุ๊กก็เลยแนะนำให้กู้ผ่อนทองคำ 1 บาท จากนางสาวนุ๊ก เป็นจำนวนเงินกว่า 40,000 บาท ซึ่งได้มีการถ่ายรูป ก่อนที่นางสาวนุ๊กจะหักเงินสดทันที 30,000 บาท ด้านผู้เสียหายเหลือเงิน 10,000 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยทองคำวันละ 1,260 บาท เป็นเวลา 60 วัน รวมต้องจ่ายหนี้ก่อนนี้ทั้งหมด 69,600 บาท


กระทั่งช่วงสายของวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้ฟ้าและนางสาวนุ๊ก พาพวก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 คน โดยหนึ่งในนั้นมีสามีของเจ๊ฟ้า ได้มาที่หน้าโรงเรียนในตัวเมืองราชบุรีที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ ก่อนเรียกให้ออกมาเจรจากัน พอมาถึงไม่มีการพูดคุยอะไรกัน โดยเจ๊ฟ้าปรี่เข้ามาตบ ซึ่งนางสาวนุ๊กก็เข้ามารุมตบด้วย ระหว่างนั้นมีผู้ชายคุมเชิง 2 คน และผู้หญิงทำหน้าที่ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ผู้เสียหายได้ยกมือไหว้ขอร้องอย่าทำร้ายร่างกายและจะผ่อนชำระหนี้ที่เหลือให้ ซึ่งระหว่างนั้นเจ๊ฟ้าพูดว่าจะถ่ายคลิปวีดีโอเอาไปประจาน หากยังไม่จ่ายหนี้ พร้อมยังบอกกับผู้เสียหายด้วยว่า "มึงรู้จักกูน้อยไป" จนกระทั่งมีภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายปรากฏในโซเชียล ซึ่งตอนนี้กังวลเรื่องความปลอดภัยไม่กล้าไปแจ้งความดำเนินคดี จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด




ล่าสุดเวลา 15.30 น. ทางด้านทีมเพจสายไหมต้องรอดและ น.ส.พัชรี เดินทางมาที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ เจ๊ฟ้า และนายเต๊ก เบื้องต้นในข้อหาทำร้ายร่างกาย และวันนี้ ทางทีมข่าวช่อง 8 สอบถามไปยังพ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ว่า สำหรับข่าวที่ปรากฏไปทางโซเชียลมีเดีย ในส่วนนี้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี รวมทั้งกองบังคับการจังหวัดราชบุรี ร่วมมือกันเพื่อเร่งพิสูจน์เรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนทุกมิติ




โดยในส่วนนี้มีทั้งกองสืบภาคและกองสืบจังหวัดร่วมกัน จึงต้องการให้ประชาชนคลายความกังวลลงได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนจะทำงานตรวจสอบอย่างเต็มที่และครบถ้วนที่สุด โดยวันนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเจ๊ฟ้าและนายเต๊กมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ในส่วนของผู้เสียหายนั้นกำลังเดินทางมาเพื่อให้ข้อเท็จจริงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของเรื่องทำร้ายร่างกายตามภาพที่ปรากฏไปนั้น คงต้องรอให้ทางด้านผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพราะขณะนี้ทางด้านผู้เสียหายยังไม่เข้ามาแจ้งความและยังไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด


เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเหตุจึงรีบประสานไปยังผู้เสียหาย ในส่วนของพฤติการณ์การทำร้ายร่างกายกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวเจ๊ฟ้า เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม ในประเด็นการผ่อนทองคำจากทางคู่กรณีและไม่ได้มีการชำระค่าใช้จ่ายตามสัญญาที่ตกลงกัน จนกระทั่งฝ่ายเจ๊ฟ้าผู้ก่อเหตุได้มีการติดตามทวงถามและถึงขั้นลงไม้ลงมือตามภาพคลิปที่ปรากฏออกไป ทางด้านเจ๊ฟ้า นายเต๊ก ผู้ก่อเหตุก็ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ส่วนเจ๊นุ๊กจะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้ โดยประเด็นการกู้เงินนั้น ทางด้านเจ๊ฟ้ายอมรับว่า นางพัชรี ได้มีการมากู้เงินและทองจากตนเองจริง แต่ไม่ได้มีการผ่อนชำระตามงวดที่กำหนดจึงได้มีการติดตามทวงถาม และก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


ทั้งนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยัง เจ๊ฟ้า เปิดเผยกับทางช่อง 8 ว่า นางพัชรีได้มีการกู้ยืมเงินจากตนไป ตนได้ติดตามทวงถามมาตลอดระยะเวลาของการกู้ยืมเงิน 12 งวดรายสัปดาห์ แต่ส่งตนเองมาแค่ 4 งวด ก็หายไปเลยติดต่อไม่ได้ บางครั้งก็ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งตามที่ตกลงกันไว้นางพัชรีจะต้องส่งเงินให้ครบตามยอด 12 งวดภายในวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็เลื่อนนัดตนมาเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม แทน ซึ่งยอดค้างคงเหลือทั้งหมดอยู่ที่ 17,000 บาท ด้านนางพัชรีจึงขอเลื่อนส่งเงินภายในสิ้นเดือนนี้แทน




โดยให้ข้อตกลงว่าถ้าเกิดนางพัชรีไม่สามารถส่งเงินภายในสิ้นเดือนนี้ได้ จะยินยอมให้ทางด้านเจ๊ฟ้าทำร้ายร่างกายได้ ตนมีแชตหลักฐานทุกอย่างที่ยืนยันได้ว่านางพัชรียินยอมจริง ตนจึงเดินทางไปหาทางด้านนางพัชรีที่โรงเรียนที่นางพัชรีนั้นได้ทำการสอนอยู่ เมื่อเดินทางไปถึงตนจึงทวงถามว่านางพัชรีนั้นมีเงินเดือนเพียงแค่ 7,000 บาท จะมาส่งเงิน 17,000 ให้ตนได้เช่นไร ตนพยายามเรียกให้นางพัชรีเดินออกมาจากในโรงเรียนเพื่อมาหาตน แต่นางพัชรีนั้นก็มีท่าทีเหมือนจะหลีกเลี่ยง ไม่ยอมออกมาพบตน ตนจึงได้มีการฉุดกระชากลากดึงออกมา ซึ่งนางพัชรีนั้นยินยอมและเป็นคนท้าทายให้ตนทำร้ายร่างกายเอง


ขณะนั้นนางพัชรีก็ไม่ได้ว่าอะไรตน มิหนำซ้ำหลังจากที่ตนทำร้ายร่างกายนางพัชรีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้มีการนั่งคุยตกลงกันว่านางพัชรีจะไปแจ้งความหรือไม่ ถ้าจะไปแจ้งก็จะได้ไกล่เกลี่ยเรื่องยอดที่ค้างชำระที่เหลืออยู่ให้เรียบร้อย แต่นางพัชรีไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะบอกว่ามีเจ้าหนี้อีกเยอะ โดยขณะที่ตนทำร้ายร่างกายนางพัชรีนั้น มีทั้งการตบ ตี ตนตั้งใจที่จะไปโกนหัวนางพัชรีจริง แต่แบตเตอรี่ของตนหมด ซึ่งทั้งหมดที่ตนทำไปนั้น เกิดจากการท้าทายของนางพัชรีทั้งสิ้น ตนยอมรับความผิดทุกอย่าง


ส่วนประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลนั้น ตนอยากจะปกป้องตัวเอง ขอให้ทุกคนเข้าใจในส่วนของเจ้าหนี้ด้วย เวลาที่เดือดร้อนมาขอยืมเงิน ตนก็ช่วยไป แต่เมื่อถึงเวลาคืน ก็ขอให้คืนตามกำหนด หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ก็แค่บอก ตกลงกันไม่ใช่หลบหนี หรือมาท้าทายแบบนี้ เพราะถ้าไม่ท้าตน ตนก็ไม่ทำ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนทำร้ายแบบนี้




โดยวันนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้นำตัวนายเต๊กและเจ๊ฟ้า เข้าห้องขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นตั้งข้อหาปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่วนข้อหาการทำร้ายร่างกายนั้นต้องตรวจสอบจากผู้เสียหายก่อน ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งสองคนเข้าห้องขังนั้น พบว่าทางด้านเจ๊ฟ้าไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัว เคร่งเครียด หรือสำนึกผิดแต่อย่างใด ยังคงยิ้มแย้มและหัวเราะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายเต๊กเข้าห้องขังนั้น ทางทีมข่าวช่อง 8 พยายามสอบถาม ว่านายเต๊กนั้นได้ปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริงหรือไม่ ทางด้านนายเต๊กตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า “ไม่ได้ทำครับ”




ทั้งนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยังป้าหน่อย (นามสมมติ) ชาวบ้านหนึ่งในลูกหนี้ของเจ๊ฟ้า เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักเรื่องของการปล่อยเงินกู้ในเมืองราชบุรี โดยทั้งสองคนมีการปล่อยเงินในจำนวนดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีลูกน้องหลายคน ปล่อยเงินจำนวนไม่เยอะมาก แต่ดอกเบี้ยเยอะมากหลายเท่าตัว โดยทั้งสองสามีภรรยานี้จะไม่ปล่อยใครให้หลุดมือไปเลย จะมีลูกน้องคอยติดตามเฝ้าดูตลอด ทุกครั้งที่ใครมีเรื่องเดือดร้อนและมาขอกู้เงิน ทางด้านเจ๊ฟ้าจะส่งลูกน้องมาคอยติดตามถึงแหล่งที่อยู่ และติดตามข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลก่อนทุกครั้งที่เขามาทวงเงิน แล้วมีคนเบี้ยวไม่คืน ก็จะถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ลงมือตบตี ตลอด ผู้คนรับรู้กันทั่ว ตนยืนยันได้ ตนเองก็เคยเดือดร้อน เคยกู้ยืมเงินมาเช่นกัน กู้มา 5,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นหมื่น ตนก็เคยโดนติดตามทวงถาม แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายแบบนี้ เคยไปร้องเรียนรู้ที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล

 

เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด "ตบทวงหนี้"  ด้านเจ๊ฟ้าโต้เป็นข้องตกลงในสัญญากู้