จากกรณีการหายตัว ออกจากบ้านของ ด.ญ.รุ่งทิพย์ หรือน้องขวัญ อายุ 11 ปี ซึ่งปกติจะ พักอาศัยอยู่ที่ ร้านรับซื้อของ ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ โดยน้องขวัญได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเมื่อวาน (1 มิ.ย. 67) เวลาประมาณ 7.50 น.

ในวันนี้ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าวเพื่อติดตามความคืบหน้าการหายตัวไปของน้องขวัญ

ระหว่างที่ทีมข่าวอยู่ระหว่างการติดตามค้นหาตัวของน้องขวัญ ทางด้านแม่ของน้องขวัญก็ได้โทรเข้ามาแจ้งกับทีมกู้ภัยว่าในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2567 ได้พบตัวของน้องขวัญที่บ้านซึ่งเป็นร้านขายร้านขายของเก่า โดยน้องขวัญได้เข้ามาพบที่บริเวณหลังบ้าน ทีมข่าวจึงรีบเดินทางไปยังที่บ้านร้านขายของเก่าซึ่งเป็นที่พักอาศัยของน้องขวัญ และพบว่าทางด้าน นางศิริพร ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของน้องหวานนั้นอยู่ระหว่างพูดคุยกับน้องขวัญพร้อมกับทีมกู้ภัย มูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่ โดยน้องขวัญได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า

“ในช่วงเมื่อวานหลังจากที่น้องขวัญได้เดินเอาตะกร้ามะม่วงไปวางไว้ที่เล้าหมูได้มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณหลังบ้านและมาเรียกน้องขวัญ ให้ออกไปพูดคุยด้วย น้องขวัญจึงได้ปีนข้ามกำแพงแล้วออกไปหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวจึงได้ใช้ผ้าคลุมศีรษะของน้องขวัญ และอุ้มน้องขวัญขึ้นรถ จากนั้นจึงจึงขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป โดยระหว่างทางได้มีการใช้ผ้าคลุมหัวน้องขวัญ ด้วยความกลัวน้องขวัญจึงไม่ได้ขัดขืนหรือต่อสู้อะไร โดยหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้นำน้องขวัญไปทิ้งไว้ที่กระท่อมหลังหนึ่งภายในป่า ซึ่งน้องขวัญก็ไม่ทราบว่าที่ไหนโดยไม่ได้ให้น้องขวัญกินข้าวแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้มีการทำร้าย หรือมีการกระทำอะไรกับตัวน้องขวัญ

จนกระทั่งถึงช่วงหัวค่ำในวันนี้ชายคนดังกล่าวก็ได้บอกให้น้องขวัญขึ้นรถจักรยานยนต์ออกมากับเขาโดยใช้ผ้าคลุมศีรษะมาเช่นเดิมและนำมาส่งไว้ยังจุดที่รับไปในช่วงเมื่อวาน หลังจากนั้นน้องขวัญจึงได้ขึ้นมาหาแม่ ”

ทั้งนี้ตัวน้องขวัญเองนั้นอยู่ในอาการที่ตกใจและอิดโรย โดยหลังจากที่พูดคุยกันเสร็จทางด้านแม่บุญธรรมของน้องขวัญจึงได้ป้อนข้าวให้กับน้องขวัญโดยน้องขวัญได้ร้องไห้และก้มลงไปกอดที่ขาแม่ ซึ่งต่างคนก็ต่างดีใจที่น้องขวัญกลับมาอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นทางด้านกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขจึงได้นำรถพยาบาลมายังที่บ้าน และได้รับตัวน้องขวัญเข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จังหวัดกระบี่

หลังจากที่ทราบข้อมูลมาว่ากลุ่มเด็กดังกล่าวได้กระโดดขึ้นรถของพ่อค้าขายปลาทีมข่าวจึงได้ ตามหาพ่อค้าขายปลาคนดังกล่าวจึงได้พบกับ นายประยุทธ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายปลาคนที่ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างตามภาพวงจรปิด โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ ในช่วงเมื่อวานเวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปรับปลามาขายที่แพ้ปลา โดยขากลับจึงได้ผ่านบริเวณจุดปากทางเข้า มายังหมู่บ้านและได้เห็นเด็กกลุ่มดังกล่าวซึ่งมีสี่คนซึ่งเป็นผู้หญิงสองคนและผู้ชายสองคน โดยอายุประมาณ 10 ขวบ ได้กระโดดขึ้นมาที่รถของตนเพราะตนได้ขับรถช้า หลังจากนั้นก็บอกว่าจะขอติดรถไปลงที่วัดคลองใหญ่

ตนจึงได้ขับรถมาตามเส้นทาง โดยเด็กดังกล่าวก็มีการพูดคุยกันตามประสาเด็กซึ่งตนก็ไม่ได้เห็นหน้าเด็กทั้งสี่คนเพราะตนมัวแต่ขับรถ หลังจากนั้นเมื่อถึงบริเวณวัดคลองใหญ่เด็กทั้งสี่คนก็ได้กระโดดลงรถไปโดยบอกว่าจะไปเล่นน้ำที่คลองยางไทร ซึ่งจากการดูรูปที่ผู้สื่อข่าวให้ดูนั้นตนคิดว่ารูปร่างและสีผิวของเด็กน่าจะใกล้เคียงกับเด็กคนที่หายออกจากบ้านแต่ลักษณะผมดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่ ตนจึงไม่มั่นใจว่าจะใช่คนเดียวกันหรือไม่