ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุเด็กหญิง วัย 3 ขวบ ทราบชื่อ คือ เด็กหญิง อลิส (นามสมมติ) จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ระยะทางจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปยังจุดเกิดเหตุ ประมาณ 800 เมตร ซึ่งทางพ่อ แม่ ญาติพี่น้องของน้องอลิส ที่จมน้ำเสียชีวิตติดใจการเสียชีวิต

 

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน 256 ที่ห้องประชุมวิชิต โพธิปักษ์ ชั้น 4 โรงพยาบาลศรีสะเกษ นายแพทย์ ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.โรงพยาบาลศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายแพทย์อังกูรย์ แก่นจำปา หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช แถลงข่าวผลการชันสูตรร่างของน้องอลิส เด็กหญิง วัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอยู่ภายในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายปริญญา มณีวงษ์ และนางสาวพุทธมาลย์ นามจุมจัง พ่อและแม่ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ของน้องอลิส ตลอดจน ตำรวจ.สภ.ยางชุมน้อย ร่วมฟัง การแถลงข่าวผลการชันสูตร

 

นายแพทย์อังกูรย์ แก่นจำปา หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช กล่าวว่า จากผลการชันสูตรร่างของน้องอลิส พบลักษณะของเหลวภายในจมูก ปอดบวมน้ำ ในกระเพาะมีของเหลวปนอาหารย่อยบางส่วนซึ่งอาหารมีลักษณะเป็นเส้น ซึ่งจากการตรวจตามร่างกายไม่พบบาดแผลและร่องรอยการทำร้ายตามร่างกาย และผลของการตรวจอวัยวะเพศ ไม่พบร่องรอยการฉีดขาดของเยื่อพรหมจารีแต่อย่างใด ซึ่งทางแพทย์ก็ให้ผลสรุปเบื้องต้นว่า น้องเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจขณะจมน้ำ การเสียชีวิตลักษณะนี้ คือ น้องยังมีชีวิตอยู่ขณะจมน้ำ เพราะมีการสำลักเอาน้ำเข้าไปในปอด ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 2 ชั่วโมง

 

นายแพทย์ ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.โรงพยาบาลศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคดีที่เป็นที่น่าสนใจจากประชาชน ซึ่งผลของการชันสูตรก็ต้องทำอย่างละเอียดที่สุดและตรงไปตรงมา มากที่สุด ซึ่งหากทางญาติของน้องอลิส ยังไม่สบายใจ ก็สามารถนำร่างของน้อง ส่งไปตรวจยังโรงพยาบาลอื่นๆ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของญาติที่สามารถทำได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

 

นายปริญญา พ่อของน้องอลิส เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรขัดแย้งกับความคิดของตน ไม่เหมือนกับที่ตนสงสัย ซึ่งตนจะส่งร่างของน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป และถ้าผลเป็นอย่างไร ตนก็จะหมดข้อสงสัยในจุดนี้ ในส่วนของคดีนั้น ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ตนยังไม่ทราบความคืบหน้าของคดี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้ติดต่อแจ้งให้ทราบในเรื่องนี้ แต่อย่างใด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า หลังจากมีการแถลงผลการชันสูตรร่างกายของน้องอลิสเสร็จสิ้น ได้มีทางญาติของน้องอลิส สอบถามความคืบหน้าในการสืบสวนการทำงานของตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ว่ามีขั้นตอนการสอบสวน ถึงขั้นไหน อย่างไรแล้ว ซึ่งทางผู้แทน จาก ตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ได้ให้ข้อมูลกับทางครอบครัวน้องอลิสว่า ตนไม่มีหน้าที่ให้ข้อมูล เพราะในส่วนของตนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งในส่วนของการให้ข้อมูลข่าว เป็นหน้าที่ของทางผู้กำกับ ซึ่งในส่วนของความคืบหน้าทางคดีนั้น ทางตำรวจก็ได้มีการแจ้งให้ทางญาติทราบตลอด ว่าเบื้องต้นการสืบสวนคดีเป็นอย่างไร ทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน จากทางแพทย์ พยานบุคคล และพยานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เพื่อมาสรุป และนำเสนอทางผู้บังคับบัญชา ซึ่งขออนุญาตไม่ให้ข่าวในตอนนี้

 

ต่อมา เวลา 17.30 น. ได้มีคณะผู้บริหารของ อบต.คอนกาม ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมได้นำปลาสดๆ ที่พึ่งสูบจากหนองส่วนตัว มามอบให้ เพื่อเป็นกับข้าว ดูแล เลี้ยง ผู้ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจในทุกๆ วัน ไปพลางก่อน พร้อมได้มี คุณครูหนุ่ย ครูน้อย ผช.ครูพี่เลี้ยง เป้ และแม่ครัวศูนย์เด็ก แม่ครัวนิ่ม ทั้ง 4 คน เดินทางมาที่บ้านของพ่อแม่ ยาย ของน้องอลิสเพื่อกราบขอขมา ในการดูแลน้องในศูนย์ไม่ดี จนทำให้น้องอลิส เสียชีวิต ไปอย่างไม่มีวันกลับ กับความสงสัยของทุกคน ว่า น้องจะเดินไปไกลขนาดนั้น ก่อนไปจมน้ำตายได้อย่างไร แม้ผลของการผ่าพิสูจน์ร่างของน้องอลิส จะออกมาแล้วว่า สาเหตุของการเสียชีวิต คือ จมน้ำตาย แต่ด้วยความที่น้องอลิส อายุเพียง 3 ขวบ กับการเดินทางไกลไป ราว 800 เมตร กับคันคูนา ผ่านคลอง ทุ่งกว้าง น่าจะเกินความสามารถของเด็ก จนทำให้วันนี้พ่อแม่ ขอส่งร่างน้องอลิส ไปตรวจพิสูจน์อีกรอบที่ รพ.ตำรวจ โดยในคืนนี้เวลา 19.00 น. ออกเดินทางแล้ว

 

คุณครูหนุ่ย ครูน้อย ผช.ครูพี่เลี้ยง เป้ และแม่ครัวศูนย์เด็ก แม่ครัวนิ่ม ทั้ง 4 คน ได้นำพานสีทอง ที่ใส่ดอกไม้ พร้อมกับซอง ที่ใส่เงินสดไว้ จำนวน 30000 บาท นำมากราบขอขมากับคุณยายทองทิพย์ คุณยายของน้องอลิส พร้อมกล่าวว่า วันนี้มาขอขมาทุกอย่างในบางครั้งอาจจะบกพร่องในหน้าที่ จึงขอนำเงินส่วนนี้มาช่วยเยียวยา คุณครูขอแสดงความเสียใจอย่างมาก ที่บางครั้งอาจบกพร่องในหน้าที่ ต่อไปนี้ก็จะไม่ให้มีอีกขออโหสิกรรม ขอโทษ ขออภัยมาอย่างยิ่ง

 

ซึ่งคุณยายทองทิพย์ ไม่ได้รับพานในการขอขมา ด้วยเหตุที่เกิดขึ้น มันหนักเกินที่จะยอมรับได้ กับความไว้วางใจของผู้ปกครองทุกคน ซึ่งตนเองก็เหมือนแม่คนหนึ่ง เพราะลูกไปทำงานต่างจังหวัด ตนได้ดูแลน้องอลิส มาโดยตลอด รักมากกว่าลูกตนเสียอีก จึงรับไม่ได้ และยังบอกด้วยว่า ดอกไม้พร้อมเงินในครั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นค่าสินไหมแต่อย่างใด และยังขอให้เป็นไปตามคดีความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และยังกล่าวว่า ครูก็เหมือนเป็นแม่คนที่สอง คุณต้องดูแลอย่างดีเหมือนกับลูกของตนเอง เพราะว่าผู้ปกครองก็ให้ความไว้วางใจ ถ้าไม่ไว้วางใจก็ไม่เอาลูกไปเข้าศูนย์ฯ หรอก ครูก็ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้

 

ขณะที่ครูน้อย กับครูเป้ ที่เป็นคนไปพบร่างของน้องอลิส จมน้ำเสียชีวิตที่หนองน้ำที่ห่างไกลออกไป ราว 800 เมตร กล่าวย้ำว่า ตัวพี่เป็นครูมาตั้งแต่ปี 2543 ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน นี้เป็นครั้งแรกเสียใจมาก เพราะน้องไม่เคยไปตรงสะพานนั้นสักที จะเล่นแต่ข้างสนาม น้องอลิสชอบเล่นชิงช้าก็จะอยู่แค่บริเวณนั้น ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไร หรืออะไรดลใจ ทำให้น้องไปตรงนั้น ตอนแรกที่หาน้องก็ไม่เอะใจ แต่ก็อยากวิ่งไปให้สุดเพราะว่าตรงนั้นมีสระน้ำอยู่ คือเราหาบริเวณนี้ทั่วแล้วไม่เจอ ก็เลยตัดสินใจไปดูที่สระน้ำตรงนั้นไม่คิดว่าจะไปเจอน้อง

 

ทีมข่าวช่อง 8 พบเจ้าของรองเท้าคู่ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นของน้องพริกแกง อายุ 2 ขวบ และเป็นเด็กนักเรียนที่ศูนย์เด็กเล็ก โดยรองเท้าที่พบมีขนาดเล็กว่ารองเท้าของน้องอลิสเล็กน้อย

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณย่าหนู ย่าของน้องพริกแกง เล่าว่า ปกติย่าจะเป็นคนถอดรองเท้า และสวมรองเท้าให้น้องพริกแกงทุกครั้ง เมื่อไปถึงที่ศูนย์เด็กเล็ก ย่าจะถอดแล้วนำไปวางไว้ที่หน้าห้อง กระทั่งตอนมารับกลับบ้านก็จะเป็นคนใส่รองเท้าให้น้องพริกแกง รวมถึงผู้ปกครองเด็กๆ ทุกคนก็จะใส่รองเท้าให้ลูกหลานกันทุกคน

 

ตนเองยังรู้สึกแปลกใจ ที่รองเท้าของหลานไปตกอยู่ที่จุดเกิดเหตุ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเพิ่งรู้ว่าที่ศูนย์เด็กเล็กไม่มีวงจรปิด รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และอยากจะหาที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ให้หลาน

 

ทีมข่าวได้จำลองเหตุการณ์ ให้หนูน้อย 3 ขวบ เดินลงบันไดไม้ แต่น้องไม่กล้าลง ทีมข่าวจึงอุ้มน้องลงมา ซึ่งน้องไม่ได้ร้อง หรือโวยวายอะไร จากนั้นก็ปล่อยน้องลง จากนั้นน้องก็ลงเดินและวิ่งไปตามทางเดิน เป็นไม้ไผ่วางพาด น้องวิ่งผ่านไปโดยใช้เวลา 3 วินาที จากนั้นก็เดินขึ้นเนินประมาณ 5 วินาที ก็เดินลงร่องน้ำที่เป็นปูน จากนั้นวิ่งย้อนกลับมาหาแม่ แต่แม่บอกให้เดินต่อไป โดยใช้เวลาประมาณ 15 วินาที ซึ่งทีมข่าวได้ใช้มืออังๆ ที่พื้นรู้สึกได้ถึงไอร้อน ในช่วงเย็น อุณหภูมิน่าจะประมาณ 30 กว่าองศา แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันคาดว่าน่าจะร้อนมากกว่านี้

 

จากนั้นทีมข่าวได้จำลองเหตุการณ์ว่าถ้าเด็กจมน้ำจะมีดินโคลนติดซอกเล็บหรือไม่ โดยการเดินลงไปในคลองและดำลงไปในน้ำ ใช้มือตะกุยดินข้างล่าง ซึ่งพบว่าเป็นดินแข็ง มีเศษใบไม้และดิน ก่อนจะขึ้นมาพบว่ามีเศษดินติดตามซอกเล็บ จากนั้นได้ขึ้นมาจากน้ำจะมีดินติดเท้าด้วย

 

ด้านนายวิทยา ชาวบ้าน ซึ่งเป็นคนที่ลงไปอุ้มร่างน้องอลิสขึ้นมาจากสระน้ำ วันนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำ ที่ สภ.ยางชุมน้อย หลังให้ปากคำเสร็จ ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนที่ตนเองไปถึงที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นเพียงครูน้อยอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนครูปูเป้ตนเองไม่เห็น ส่วนครูหนุ่ย ตนเองเจออยู่ที่ศูนย์เด็กเล็ก ก่อนที่ตนเองจะตามผู้ใหญ่บ้านมาที่สระน้ำ หลังจากนั้น ผู้ใหญ่ก็บอกให้ตนนำร่างเด็กขึ้นมา ตนเองจึงลงไปอุ้มเด็กขึ้นมา โดยที่ไม่ได้พูดคุยกับใคร

 

เท่าที่จำได้ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ มีผู้ใหญ่บ้าน ครูน้อย แฟนผู้ใหญ่ และพ่อเด็ก จากนั้นแม่เด็กจึงตามมา ยอมรับว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนบอกว่าพบเด็ก เพราะเสียงอยู่ไกลเกือบ 400 เมตร จึงทำให้ไม่มั่นใจว่าเป็นใคร ส่วนสิ่งของต่างๆ ของเด็กไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ถูกวางไว้บนฝั่ง ห่างจากสระน้ำไปประมาณ 4 เมตร โดยวางเรียงเอาไว้ รวมถึงกางเกงของน้องอลิสด้วย

 

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพูดคุยกับ นางสาวพุทธมาลย์ อายุ 23 ปี แม่ของน้องอลิส เปิดใจกับทีมข่าวว่า น้องอลิส ไม่เคยเดินไปไหนไกลๆ เพียงลำพัง ขนาดเดินไปบ้านย่าทวดซึ่งอยู่ถัดจากบ้านตัวเอง ยังต้องมีแม่ และญาติๆ ยืนดูอยู่ด้วยเสมอ

 

ส่วนกรณีที่มีคนแปลกหน้ามาชวนน้องไปไหน หรือมาขออุ้ม น้องอลิสก็จะไม่ไปเพราะกลัว แล้วจะเดินหนีทันที จึงทำให้ตนเองเชื่อว่าลูกไม่สามารถเดินไปไหนเองได้และไม่ไปที่สระน้ำคนเดียวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบันไดไม้หลังโรงเรียน น้องอลิสจะไม่เดินไปเอง เพราะกลัว ขนาดตนเองยังรู้สึกกลัว

 

ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเป็นกังวล โดยเฉพาะเรื่องคนร้าย เพราะมั่นใจว่าลูกไม่น่าจะไปที่จุดเกิดเหตุเองได้ จะต้องมีคนพาไปอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็อยากให้เวลาตำรวจได้ทำหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทำอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แม้ว่าทั้งครอบครัวจะรู้สึกร้อนใจ

 

เปิดผลชันสูตร "อลิส" จมน้ำดับไม่มีรอยทำร้าย