รพ.ธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ ยอมรับผิด ปมลืมผ้าก๊อซในมดลูกผู้ป่วย พร้อมเยียวยา-ป้องกันเหตุซ้ำรอย

จากกรณีที่บุตรชาย พามารดาเข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยมะเร็งที่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยหลังรับการรักษาไปแล้ว ทำให้มารดามีอาการทรุดลง และปรากฏว่าเมื่อมารดามีอาการไอ ทำให้มีผ้าก๊อซหลุดออกมาจากช่องคลอด และเกิดอาการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ล่าสุด รพ.ธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่ปรากฏ ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ได้รับการรักษาโดยการฉายรังสีและใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ซึ่งทีมแพทย์ได้ใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่เข้าไปในช่องคลอด พร้อมใส่ผ้าซับโลหิต ชนิดก๊อซแบบม้วน เพื่อให้เครื่องใส่แร่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและลดปริมาณรังสีที่มีผลต่ออวัยวะข้างเคียง

หลังจากนั้นผู้ป่วยมีปัญหาในการติดเชื้อ ทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมหาแนวทางดูแลผู้ป่วยและญาติในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีข้อสรุปดังต่อไปนี้ 1. การใส่เครื่องใส่แร่พร้อมผ้าก๊อซแบบม้วนจนเสร็จสิ้นกระบวนการได้มีการนำอุปกรณ์และผ้าก๊อซออก แต่ขาดการตรวจสอบความยาวของผ้าก๊อซ ซึ่งโรงพยาบาลได้เน้นย้ำมาตรการให้เข้มงวดขึ้น ดังนี้

1.1 ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด บันทึกอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนและหลังทำหัตถการ การตรวจภายในซ้ำ เพื่อตรวจสอบสิ่งตกค้าง รวมไปถึงการตรวจสอบซ้ำ จากเจ้าหน้าที่อีกคนก่อนเสร็จสิ้นหัตถการ

1.2 ตรวจสอบและบันทึกความยาวของผ้าก๊อซทุกครั้งก่อนและหลังการทำหัตถการ
1.3 เปลี่ยนผ้าก๊อซแบบม้วนปกติเป็นชนิดพิเศษที่มีแถบรังสี เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้จากการถ่ายภาพรังสี กรณีที่ความยาวของผ้าก๊อซไม่ครบ

2. การไม่ได้รับการอนุมัติสิทธิการรักษาอื่นนอกเหนือจากสิทธิการรักษามะเร็งที่ผู้ป่วยได้รับ เกิดจากการประเมินที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ทบทวนให้ความรู้เจ้าหน้าที่และเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับแพทย์ผู้ให้การรักษา

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริงดังกล่าว โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเสียใจและพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การรักษาพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยหายเป็นปกติ พร้อมเร่งดำเนินการเยียวยาและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเน้นย้ำมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

ด้านนายขวัญชัย จิตบรรจง อายุ 37ปี บุตรชายเปิดเผยว่า อาการแม่ดีขึ้นตามลำดับหลังได้รับการรักษา อีกทั้งทางผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้อธิบายและยกมือขอโทษว่าเป็นอุบัติเหตุ ทำให้ครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความแล้ว