จากประเด็นคลิปว่อนจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในโลกโซเชียล เหตุเกิดที่ซอยนาคนิวาส 53 ย่านลาดพร้าว หลังหนุ่มถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะขี่รถมอเตอร์ไซต์กลับจากที่ทำงานส่งของ มุ่งหน้ากลับบ้านที่ซอยนาคนิวาส 45 พร้อมแฟนสาว ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. 17 มิถุนายน 67 มีเจ้าหน้าตำรวจเข้าเรียกตรวจค้นวัยรุ่นชาย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และพกบุหรี่ไฟฟ้า โดยวัยรุ่นชายที่อยู่ในคลิปสงสัยว่า ทำไมตำรวจไม่ตั้งด่านถึงเข้ามาจับกุมได้ และเกิดถกเถียงกันไปมา จนถึงขั้นล็อกคอ

 

ทราบชื่อวัยรุ่นชายในคลิปวิดีโอดังกล่าว คือ นายแวน นนทกร ทำงานเป็นพนักงานส่งของ ปกติแล้วนายแวนจะทำงานทุกวันและขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านช่วงเวลาประมาณหนึ่งถึงสามทุ่มเกือบทุกวันเป็นประจำอยู่แล้ว จนกระทั่งเมื่อคืนเกิดเหตุตามคลิปวิดีโอวิดีโอดังกล่าวก็ขี่รถกลับบ้านตามปกติ ซึ่งวันนี้ทางทีมข่าวพยายามติดต่อนายแวนทุกช่องทาง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ทางทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณซอยนาคนิวาส 53 พบว่าบริเวณจุดดังกล่าวนั้น ห่างจากบ้านของนายแวนประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณจุดเกิดเหตุตั้งอยู่หน้าร้านเช่าชุดแห่งหนึ่ง หน้าซอยนาคนิวาส 53 เป็นแหล่งสัญจรไปมา มีผู้คนพลุกพล่าน

 

ล่าสุดทางทีมข่าวช่องแปดจึงเดินทางไปยังสน. โชคชัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงประเด็นที่เป็นคลิปบนโซเชียลที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ชายคนดังกล่าวสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเรียกตรวจแบบนี้ได้จริงหรือ ต้องมีการตั้งด่านก่อนหรือไม่ถึงจะเรียกตรวจได้?

 

พ.ต.ท.พลกฤต ทิพยทัศนัน รอง ผกก.ป.สน.โชคชัย เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวก่อนที่จะมีการถ่ายคลิปวีดีโอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นรถผู้ต้องสงสัยตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งในพื้นที่นี้มีเหตุรถจักรยานยนต์หายบ่อย โดยได้มีการเรียกขอดูบัตรประชาชนเจ้าของรถ และได้ทำการตรวจสอบชื่อ

 

ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 2 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องขอตรวจปัสสาวะ และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการขอตรวจปัสสาวะ ผู้ต้องสงสัยเองก็มีทีท่าขัดขืน และพยายามนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพ จนกลายเป็นยังคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียล

 

ซึ่งตามกฎหมายแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่มีอำนาจขอตรวจปัสสาวะผู้ต้องสงสัยได้หากพบว่ามีเหตุต้องสงสัยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การตั้งด่านตรวจ ขณะที่ตัวผู้ถูกตรวจเองก็มีสิทธิปฏิเสธการตรวจได้ ในกรณีที่ไม่พบอุปกรณ์การเสพหรือเหตุที่ทำให้เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยใช้สารเสพติดจริง

 

ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไป เนื่องจากได้มีการแสดงโชว์แผ่นป้ายทะเบียน และสำเนารถถูกต้อง จึงได้ทำการว่ากล่าวตักเตือน

 

นอกจากนี้จากการได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปลงพื้นที่ในเหตุการณ์กล่าว และตรวจเช็คกล้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการทุจริต หรือเรียกเก็บเงิน ส่วย หรือทรัพย์สินจากชายคนดังกล่าวเลย เพียงแต่เรียกตรวจตามหน้าที่ เพราะรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนตามกฎหมาย

 

และการนำคลิปไปโพสต์นั้น ทางตำรวจเองอาจจะมีการพิจารณาในการดำเนินคดีเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิด เป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้

 

ทั้งนี้ทางทีมข่าวช่องแปด พยายามติดต่อนายแวนทุกช่องทางทั้งเบอร์โทรศัพท์ และช่องทางโซเชียล แต่ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ทางทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 17 ซอยนาคนิวาส 45 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ของนายแวน นนทกร เมื่อไปถึงพบว่านายแวนไม่อยู่ที่บ้าน ออกไปทำงานส่งของข้างนอก

 

ทางทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง ลุงเชิด ซึ่งเป็นลุงของนายแวน นนทกร เล่าให้ทางทีมข่าวช่องแปดฟังว่า ปกติแล้วนายแฟนมีอาชีพขับรถส่งของของบริษัทแห่งหนึ่ง จะออกไปทำงานทุกวัน และเดินทางกลับบ้านช่วงเวลาประมาณหนึ่งถึงสามทุ่มเป็นประจำ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

 

จนกระทั่งเมื่อคืนนั้นนายแวนขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านพร้อมแฟนตามปกติ เมื่อมาถึงบริเวณซอยนาคนิวาส 53 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด และจะตรวจค้น อ้างว่านายแวนนั้นไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ ซึ่งตนก็เห็นมาตลอดเรื่องแผ่นป้ายทะเบียนรถนั้น นายแวนก็ไม่ได้ติดแผ่นป้ายจริงๆ เก็บไว้ใต้เบาะรถ เพราะนายแวนเคยบอกว่าหาอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดแผ่นป้ายทะเบียนไม่เจอ

 

ในส่วนประเด็นที่ทำให้นายแวนฉุน ถึงขั้นถ่ายคลิปลงโซเชียลนั้นเป็นเพราะนายแวนไม่พอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกคอ พร้อมกับมีการเรียกตรวจ โดยไม่ได้มีการตั้งด่านแต่อย่างใด ซึ่งเท่าที่ตนเห็นนั้นตนก็รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำไม่ถูกต้อง ถ้าจะมีการเรียกตรวจก็ควรตั้งด่านก่อน บริเวณพื้นที่แถวนี้ก็ไม่เคยพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านเลย จึงคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินไป

 

เหตุการณ์เมื่อคืนนั้นสิ่งที่ตนและนายแวนกลัวมากที่สุดคือ กลัวว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการยัดยาเสพติดให้นายแวน เนื่องด้วยนายแวนนั้นเคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดจริง แต่ปัจจุบันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแล้ว

 

หลังจากเกิดเหตุเมื่อคืนนายแวนได้โทรเรียกตนและแม่ไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อไปรับทราบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวตักเตือน ขณะที่ไปถึงนั้นก็พบว่าเหตุการณ์สงบลงแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลพร้อมกับตักเตือนเรื่องแผ่นป้ายทะเบียนส่วนเรื่องการตรวจฉี่นั้น นายแวนขัดขืนจึงไม่ได้มีการตรวจฉี่แต่อย่างใด

 

ตนอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหากจะมีการเรียกตรวจหรือเรียกค้นก็ควรให้มีการตั้งด่านก่อน เพื่อประชาชนจะได้ไม่ต้องมาตั้งคำถามแบบนี้อีก

โจ๋โวยสนั่นถูกตำรวจบีบคอ หนังคนละม้วนเจอแฉกลับหายจ้อย