คืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของชายและหญิงอยู่ภายในรถเก๋ง ซึ่งจอดอยู่ปากซอยพัฒนาการ 12 โดยที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาวยี่ห้อมาสด้า พบร่างของนางสาวนุ่นหรือนางสาววิไลพร อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นแดนเซอร์ของร้านอาหารใกล้จุดเกิดเหตุ นั่งอยู่เบาะคนขับ ขณะที่ร่างของฝ่ายชายนั่งอยู่ฝั่งคนโดยสาร ทราบชื่อคือนายเท่ หรือนายวิโรจน์ อายุ 28 ปี นั้น

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่าแพทย์เวรและรวมถึงตำรวจที่สุดหลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบรถที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถเก๋งสีขาวยี่ห้อมาสด้า ซึ่งเป็นรถของนายพูน อายุ 56 ปี พ่อของฝ่ายหญิง เป็นเจ้าของรถ

จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบ เตาอั้งโล่ หรือวัสดุที่จะบ่งบอกว่ามีการฆ่าตัวตาย และไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ สภาพศพลักษณะนอนหลับปกติ โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบของตำรวจทราบว่า รถคันดังกล่าว มีการสตาร์ทเครื่องนอน จนกระทั่งน้ำมันหมด และดับ รวมทั้งอาจมีการเปิดระบบหมุนเวียนในรถซึ่งลืมปิด ระบบกรองไอเสียจากด้านนอก จึงทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากนอกรถเข้ามาภายในรถ อาจเป็นสาเหตุทำให้ทั้งคู่นอนหลับสนิทจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อเครื่องยนต์ดับ

ด้าน นายพูน อายุ 56 ปี พ่อของฝ่ายหญิงคนตาย เผยว่า ตัวเองติดต่อลูกสาวไม่ได้ตั้งแต่ 07:00 น. ตอนเช้า และให้พี่ชายออกตามหา แต่ก็ไม่เจอเบาะแส มีเพียงรถที่จอดอยู่ใกล้กับที่ทำงาน และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเข้าใจว่าน่าจะยังไม่เลิกงานหรือไปที่อื่นต่อ จนกระทั่งตอนเย็นเดินมาดูรถก็พบว่าพบศพทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่ แต่โดยเบื้องต้นตนเองยังไม่ทราบสาเหตุว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร แต่ไม่พบร่องรอยของการทำร้ายกันและไม่พบอุปกรณ์ฆ่าตัวตาย เบื้องต้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าทั้งคู่น่าจะมีการเพลียจากการทำงานและเลิกดึก จึงขึ้นมาบนรถและสตาร์ทเครื่องนอน แล้วเผลอหลับ ก่อนน้ำมันหมด และทั้งคู่หลับสนิทจนกระทั่งเสียชีวิตคารถ

สำหรับตัวของนางสาวนุ่นลูกสาวของตนเองนั้น ไม่มีพฤติกรรมว่าจะทำร้ายตัวเองหรือคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะตัวของลูกสาวตั้งใจทำงานเก็บเงินและทำงานที่นี่มานานแล้ว ไม่เคยมีความเครียด และไม่เคยคิดจะก่อเหตุ มีความสุขกับการใช้ใช้ชีวิตดี จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นจากอุบัติเหตุเรื่องของการสตาร์ทเครื่องหลับ ขณะที่นายเท่ฝ่ายชายที่นอนเสียชีวิตอยู่ในรถด้วยกันนั้นตนเองไม่ทราบว่าทั้งคู่เพื่อนร่วมงานกันหรือคบหากัน เพราะลูกสาวยังไม่เคยเล่าให้ฟัง