จากกรณีชิงทรัพย์ที่กลายเป็นฆาตกรรมสุดโหด ว่าที่ ร้อยโทสุเทพ อายุ 48 ปี ที่มาขับแกร็บเป็นรายได้เสริม ก่อนถูกนายนิพิฐพนธ์ หรือ โอปอล อายุ 26 ปี ฆาตกรในคราบผู้โดยสารใจโหดฆ่าทิ้ง ก่อนเอาศพไปทิ้งเหว แล้วนำรถคนตายขับไปชิงทองภายในร้านทองแห่งหนึ่ง ที่ห้างชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ นั้น




ล่าสุดวันนี้ (12 กรกฎาคม 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปบ้านของนายโอปอลอีกครั้ง เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ที่หากตำรวจจะขอชำแหละถังน้ำมันรถของลูกชาย เพื่อตรวจหาทองอีก 7 เส้นที่หายไปว่า ทองถูกซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันหรือไม่ จากการสอบถาม นายมงคล (นามสมมติ) พ่อของนายโอปอล ผู้ก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองพร้อมให้ความร่วมกับตำรวจทุกอย่างเพื่อค้นหาทอง ซึ่งหากตำรวจจะขอชำแหละถังน้ำมันรถของลูกชาย ตนเองก็ไม่ติดขัด แต่มีข้อแม้ถึงตำรวจจะต้องหาถังน้ำมันมาเปลี่ยนให้ตนเอง และประกอบรถคืนเหมือนเดิมให้ด้วย




เนื่องจากรถของลูกชาย ตนเองและครอบครัวจะต้องเอากลับมาใช้งานหลังจากจบคดี ซึ่งหากตำรวจชำแหละถังน้ำมันรถหาทองจบ แล้วรถใช้งานไม่ได้ เพราะถังน้ำมันถูกชำแหละจนพัง ตนเองก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไรนัก เนื่องจากตอนนี้ปัญหาชีวิตครอบครัวถาโถมมามากเหลือเกิน หนี้สินก็เยอะมาก บ้านตอนนี้ก็ต้องเอาไปจำนอง รถก็ยังต้องผ่อน หากตำรวจเอารถไปชำแหละแล้วไม่ซ่อมคืน ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนไปซ่อมรถ นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ขอพ่อของนายโอปอลดูถังน้ำมันรถภายในบ้านทั้งหมด ว่า ลูกชายได้แอบนำทองไปซุกซ่อนหรือไม่ ซึ่งพ่อได้หยิบถังน้ำมันต่าง ๆ ออกมาจากบ้านให้ทีมข่าวของเราตรงจสอบด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์




ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามถึงเรื่องลูกชายว่า ลูกชายฝากบอกอะไร ตอนไปขอขมาหรือไม่ พ่อบอกว่า ครั้งสุดท้ายที่ตนเองเจอลูกชาย ลูกชายรู้สึกผิดมาก และฝากตนเองไปขอโทษครอบครัวคนตายแล้ว ลูกชายก่อเหตุไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนจำนวนเงินที่ลูกชายโอนให้ครอบครัวทั้งหมด รวม 150,000 บาท แบ่งเป็นโอนให้น้องสาว 50,000 บาท พ่อและแม่อีกคนละ 50,000 บาท ตอนแรกลูกชายอ้างว่า ตัวเองเทรดคริปโตได้ จึงโอนเงินให้น้องสาวก่อน แต่พอตนเองรู้จึงขอลูกชายบ้าง แซวว่า “แหม่ โอนให้น้อง ทำไมไม่โอนให้พ่อกับแม่บ้าง” ลูกจึงโอนให้พ่อแม่ตามหลัง ซึ่งในตอนนั้นตนเองไม่รู้จริง ๆ ว่า ลูกชายได้เงินมาจากการชิงทองและไปฆ่าคนมา ซึ่งตอนนี้ครอบครัวตนเองก็รู้สึกผิดมาก ๆ แทบไม่กล้าจะออกไปไหนมาไหนแล้ว


ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณทางขึ้นวัดดอยสุเทพ ถนนศรีวิชัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากครอบครัวของผู้เสีนชีวิตได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปมาทำพิธีสวดถอนเชิญวิญญาณให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี โดยนำเครื่องเซ่นไหว้ตามประเพณีของชาวล้านนามาจัดพิธีในจุดที่ ว่าที่ ร้อยโทสุเทพ ถูกยิงเสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า




ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระครูโสภิต พัฒนโชติ เจ้าคณะตำบลช่อแล (เจ้าอาวาสวัดช่อแลพระงาม) เป็นผู้นำพิธีกรรม บอกว่า ตามความเชื่อของชาวเหนือ และชาวล้านนาจำเป็นจะต้องมาทำพิธีสวดถอดถอนวิญญาณเพื่อให้วิญญาณไปสู่สุคติ จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอยู่จุดนี้ ซึ่งก่อนจะทำพิธีสวดถอดถอนวิญญาณ ตนเองได้ทำพิธีขอขมาเทวดา เจ้าที่แล้ว และเชื่อว่า ว่าที่ ร้อยโทสุเทพ คงรับรู้ และตามกลับไปยังวัดเพื่อทำพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.)




ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางสาวสุพัตรา วัย 48 ปี แฟนใหม่ของ ว่าที่ ร้อยโทสุเทพ ซึ่งคบหากันมา 4-5 ปี ได้เดินทางมาร่วมพิธีด้วย เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ก่อน เธอฝันว่าแฟนหนุ่มถูกยิงเสียชีวิต จึงรีบโทร. แจ้งเตือนเพราะส่วนใหญ่เวลาตนเองฝันไม่ดี จะตรงเกือบทุกครั้งแต่เมื่อเล่าเตือนแฟนหนุ่มให้รู้ แต่แฟนกลับมองโลกมนแง่ดีและบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเขาเป็นคนคิดบวก


เช่นเดียวกับเมื่อคืนนี้ ขณะที่เธอพักอยู่ที่บ้านของแฟนหนุ่มในอำเภอแม่แตง เธอรู้สึกว่าแฟนหนุ่มมานอนอยู่ข้าง ๆ และได้ยินเสียงหายใจแรง และรู้สึกเย็นบริเวณแขน เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าแฟนหนุ่มยังคงห่วงหาและอยู่ใกล้เธอเสมอ ซึ่งหากแฟนฟังเสียงของตนเองอยู่ก็อยากให้พี่สุเทพได้ไปสู่สุขคติ ให้ไปสบาย และไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ส่วนตัวผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายพี่จนเสียชีวิต อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และเชื่อว่ากรรมจะตามสนองเขาเอง




หลังจากนั้นทางครอบครัวยังได้เดินทางไปที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อเดินทางไปที่รถของ ว่าที่ ร้อยโทสุเทพ คันเกิดเหตุ ซึ่งถูกนำมาไว้ที่โรงพักชั่วคราว จากนั้นได้นิมนต์พระสงฆ์สวดถอดถอนดวงวิญญาณของคุณสุเทพที่อาจจะอยู่ภายในรถเช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากทำพิธีเสร็จ นางสาวสุพัตรา แฟนสาวของคุณสุเทพได้เดินไปที่รถ และใช้มือจับตามรถเพื่อบอกกล่าวให้แฟนหนุ่มเดินทางกลับบ้านของเรา หลังจากนั้นจู่ ๆ เธอได้ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ ซึ่งเป็นภาพที่น่าหดหู่เป็นอย่างมาก

 

พ่อ "โอปอล" ยินดีให้ชำแหละถังน้ำมันรถหาทองที่หายไป