จากกรณีที่ “เอก สายเต๊าะ” มีพฤติกรรมก่อกวนลูกบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านซอยเทิดราชัน 17 เขตดอนเมือง เนื่องจากไม่พอใจหลังถูกดีดออกจากกลุ่มไลน์ของหมู่บ้าน โดยเอาคืนด้วยการจอดรถทางเข้า-ออก และส่งเสียงดังในหมู่บ้านยามวิกาล อีกทั้งยังมีวีรกรรมอีกเพียบรวมถึงคลิปทำท่าเตะนักข่าว จนกระทั่งเพื่อนบ้านจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 คน รวมตัวกันเพื่อนำป้าย “ประกาศขายบ้านด่วน” 15 แผ่นป้าย มาติดไว้ที่หน้าบ้านของตัวเอง เนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของ เอก สายเต๊าะ รวมไปถึงไม่พอใจกับการแก้ปัญหาของนิติบุคคลและโครงการหมู่บ้าน




โดยต่อมา เอก สายเต๊าะ เดินออกมาจากบ้าน มาเผชิญหน้ากับคนในหมู่บ้านพร้อมกับถือกล้อง live สดไปด้วย พร้อมกับบอกว่า “ถ้าอยากให้ออกจากบ้านหลังนี้ก็มารับซื้อเลย 15 ล้านบาท” ทำให้ชาวบ้านตะโกนโห่ไล่จนทำให้ เอก สายเต๊าะ เดินเลี่ยงหนีออกไป พร้อมกับหันมายิ้มเยาะเย้ยให้กับลูกบ้านคนอื่น ๆ แล้วกลับบ้านไป


ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา วันที่ 19 ก.ค. 2567 เอก สายเต๊าะ ยังได้มีการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะการเดินพูดคนเดียว และโวยวายทักทายคนอื่น ๆ ภายในหมู่บ้านไปที่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน และในระหว่างที่ได้ทำการไลฟ์สดนั้นได้มีการนำอาวุธมีดออกมาโชว์ ในไลฟ์สดดังกล่าว และยังมีการพกพามีดเดินไปภายในหมู่บ้าน จึงทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวหวาดกลัว




จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านดังกล่าวและเข้าไปพบกับ นายเอก สายเต๊าะ โดยทีมข่าวได้พูดคุยในกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงเมื่อวาน โดยนายเอกได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ผู้ที่พักอาศัยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านส่วนหนึ่ง ได้ออกไปรวมตัวในกรณีที่ตนไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ที่พักอาศัยภายในหมู่บ้าน ซึ่งจากกรณีดังกล่าวนั้นที่ตนทำไปทั้งหมด ก็เพราะอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด


โดยในเงื่อนไขของผู้พักอาศัยที่ออกไปร้องเรียนนั้นต้องการที่จะให้ตนย้ายออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ ตนก็ได้ยื่นเงื่อนไขไปว่าถ้าต้องการให้ตนย้ายออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ต้องมาซื้อบ้านตนในราคา 15 ล้านบาท หรือถ้าบ้านไหนย้ายออกแล้วขายในราคาหลังละ 1,000,000 บาท ตนเป็นผู้ซื้อไว้เองทั้งหมด โดยในช่วงที่มีการรวมตัวกันและมีคนเข้าไปร้องเรียนที่นิตินิติบุคคลนั้น ตนเองได้เดินไปบริเวณดังกล่าวแต่ก็ไม่มีใครพูดคุยอะไรกับตนสักคน ซึ่งตนก็ได้พยายามสอบถามแล้ว




ในส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ของโครงการหมู่บ้านเข้ามาพูดคุยกับตนนั้น เขาก็รับข้อเสนอและเงื่อนไขเพียงเท่านั้น เนื่องจากนิติบุคคลที่ดูแลหมู่บ้านของตนพูดจาไม่ดีกับตน และทำดีกับตนไว้หลายหลายเรื่อง ซึ่งในส่วนที่ตนทำลงไปตนก็ต้องการให้ทางหมู่บ้านเข้ามาพูดคุยกับตน โดยในตอนนี้อย่างแรกที่เห็นได้ชัดก็คือ ตั้งแต่ที่ตนได้ยื่นข้อเสนอไปก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านเพิ่มขึ้น


ทั้งนี้สิ่งที่ตนต้องการอีกหลายส่วนก็คือในเรื่องคีย์การ์ดการเข้าหมู่บ้าน เรื่องสุนัขจรจัดที่เข้ามาในหมู่บ้านและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่เลี้ยงสุนัข และเรื่องแสงสว่างภายในหมู่บ้านที่ไม่เพียงพอและอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง ในส่วนที่ตนได้เรียกร้องไปนั้นตนก็รอดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้ที่รับปากไปก็ต้องมีสัจจะ และจะต้องทำตามที่รับปากไว้ให้ได้ ซึ่งถ้าหากทุกอย่างที่ตนได้เสนอไปดีขึ้น ตนก็ยินดีที่จะปรับปรุงตัวและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก ซึ่งตนยืนยันคำเดิมว่าในสิ่งที่ตนทำไปนั้นเพราะต้องการจะให้ทุกอย่างมันดีขึ้น เป็นลักษณะการติเพื่อก่อ




ทว่า หลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จได้มีชายคนหนึ่งแต่งตัวครึ่งท่อนคล้ายทหาร ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บริเวณหน้าบ้านของเอก สายเต๊าะ โดยหลังจากนั้นนายเอกจึงได้ตะโกนทักทายและถามว่า “สวัสดีครับมาทำอะไรครับพี่” ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ตะโกนตอบกลับมาว่า “เรื่องของกู” หลังจากนั้นจึงทำให้นายเอกเริ่มโมโหและโวยวายให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่บริเวณหน้าบ้านของตนได้ติดตามชายคนดังกล่าวไป จากนั้นนายเอกจึงได้ขับรถออกจากบ้านของเขาเพื่อไปทำธุระ




ซึ่งในระหว่างออกจากหมู่บ้านได้มีการลงไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ถึงชายคนดังกล่าวที่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา และหลังจากนั้นจึงได้เดินขึ้นรถยนต์ของเขา และได้ขับออกจากหมู่บ้าน ซึ่งระหว่างทางออกจากหมู่บ้าน นายเอกได้ขับรถสวนกลับชายคนเดิมที่ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปหาที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งชายคนดังกล่าวนั้นแต่งตัวคล้ายทหารโดยใส่กางเกงสีเขียวและใส่เสื้อซาฟารี โดยนายเอกได้ลงจากรถมาขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวก็จอดรถรถจักรยานยนต์ และลงจากรถไปประจันหน้ากับนายเอกเช่นกัน ในระหว่างนั้นทีมข่าวได้พยายามลงไปติดตามสถานการณ์ ซึ่งนายเอกก็ได้สอบถามว่า “มีอะไรกับผมหรือเปล่า”


โดยชายคนดังกล่าวก็ได้ตอบว่า “แล้วมึงมาสร้างความเดือดร้อนให้หมู่บ้านกูทำไม” โดยหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้พยายามที่จะบอกสื่อมวลชนที่อยู่ในบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้ถ่ายภาพและนำไปออกอากาศ และหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในหมู่บ้าน จึงเป็นการแยกย้ายการประจันหน้าระหว่างนายเอกกับชายคนดังกล่าว


จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากนายเก้า (นามสมมติ) ญาติของนายเอก บอกว่า ตอนนี้ทางครอบครัวเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นและกลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะระแวงนายเอกจะกลับมาก่อกวนคนที่บ้าน เนื่องจากระยะหลังนายเอกมีพฤติกรรมรุนแรง เคยไม่พอใจคนที่บ้านและเข้ามาอาระวาดทำลายของในบ้าน ยืนยันพฤติกรรมนายเอกเปลี่ยนไปเริ่มมีพฤติกรรมรุรแรงตั้งแต่ต้นปีนี้ เพราะเจ้าตัวประสบวิกฤติปัญหาชีวิตที่เจอเหตุการณ์สะเทือนจิตใจ 5 เหตุการณ์




1. เมื่อ 2-3 ปีก่อน ดำเนินถูกธุรกิจส่วนตัวเป็นหุ้นส่วนระหว่างนายเอกกับภรรยาเก่า ต่อมาถูกยึดร้าน 2. หลังจากนั้นถูกหลอกให้ลงทุน 1 ล้าน หลังคนที่ชวนลงทุนอ้างว่าหากร่วมลงทุนด้วยจะแบ่งปันผลให้ แต่ปรากฎว่าถูกหักหลัง และสูญเงิน 1 ล้าน 3. ลูกสาวถูกพรากผู้เยาว์ 4. ประสบภาวะมะเร็งลำไส้ขั้น 3 และ 5. มีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน โดยขัดแย้งกันเรื่องซื้อปืน


ภายหลังประสบปัญหาดังกล่าว นายเอกก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก้าวร้าวมากขึ้น ญาติเชื่อว่าเกิดจากแรงกดดันของตัวเองที่สร้างชีวิตจากศูนย์ จนกระทั่งมีเงินแล้วต่อมาก็ประสบปัญหาล้มเหลวทำให้เกิดความเครียดสะสม และยืนยันอีกว่านายเอกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเพียงแต่เสพกัญชาอย่างเดียวเท่านั้น ภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่คนในหมู่บ้านรวมตัวกันต่อต้านนายเอก คนในครอบครัวเปิดเผยเพียงว่า ไม่อยากยุ่งและอยากให้ดำเนินการตามกฎหมาย

 

"เอก สายเต๊าะ" ลั่น! อยากให้ไปจ่ายมา 15 ล้าน