"คัลแลน-พี่จอง" โพสต์คลิปพาเที่ยวเกาะปันหยี มีดราม่าตามมา เมื่อทั้งคู่ไปของที่ระลึก เพราะชาวเน็ต พากันข้องใจว่า แพงไปไหม และของแถมที่แม่ค้าบอก ทำไมมาคิดราคาด้วย

คลิปเที่ยวล่าสุด ของ 2 หนุ่มยูทูบเบอร์เกาหลีหัวใจไทย " คัลแลน และ พี่จอง " เป็นประเด็นดราม่าอีกแล้ว เพราะช่วงที่ 2 หนุ่ม พาเที่ยวเกาะปันหยี จังหวัดพังงา จังหวะที่ไปเจอร้านขายของที่ระลึก แล้วถูกใจเปลือกหอยมุก และสร้อยข้อมือ จึงเลือกซื้อ พร้อมถามราคา

แม่ค้า บอกว่า เปลือกหอยมุก 500 บาท สร้อยข้อมือ 300 บาท รวมเป็นราคา 800 บาท ในคลิปพี่จองได้ขอลดราคา แต่แม่ค้ากลับหยิบสร้อยขึ้นมาอีก 1 เส้น แล้วบอก แถมให้ 1 อัน แต่กลับคิดราคารวมทั้งหมดเป็น 1,000 บาท จนเป็นประเด็นที่ชาวเน็ต วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราคาสินค้า และ พฤติกรรมของแม่ค้า พร้อมพูดถึงค่าเรือไปเกาะ 1,000 บาทนั้น แพงไปไหม อีกส่วนก็มาเห็นด้วยบอกแพงตั้งแต่ที่พัก ยันอาหารด้วย

 

 

จากนั้น มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาเล่าประสบการณ์แย่ๆ ถึงเกาะนี้อย่างดุเดือด บอกว่า เป็นสถานที่ เกลียดมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ควรมีใครไปเที่ยวอีก เพราะเคยโดนคนขับเรือ หลอกว่าจะพาไปส่งฟรี ไปถึงกลับพาไปร้านอาหารของพี่สาวตัวเอง และ เจอค่าอาการสุดโหด ปลากะพงแห้ง ๆ ตัวเล็ก ๆ ไม่จัดจานใด ๆ 1,600 บาท กุ้งชุบแป้งทอด ที่มีกุ้งจิ๋ว ๆ 3 ตัว มีแต่ผักทอด จำราคาไม่ได้แต่แพงมาก น้ำปั่น ใส่แก้วพลาสติกบ้งๆ แก้วละ 100 บาท พอขากลับ คนขับเรือ กลับมาขอทิป 500-800 บาท พร้อมพูดถึงห้องน้ำด้วยว่า ต้องเสียค่าเข้า 20 บาท แต่สภาพสกปรกมา และของทุกอย่างโคตรแพง เหมือนอย่างที่ คัลแลน และ พี่จองเจอ โดยมีคนเข้ามา เห็นด้วย และแชร์ประสบการณ์แย่ๆ จำนวนมาก

ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถาม นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี ถึงดราม่าที่เกิดขึ้น นายประสิทธิ์ บอกว่า ได้ยินข่าวแล้วไม่สบายใจ จึงไปถามข้อมูลผู้เกี่ยวข้อง พบว่า ค่าเรือ 1,000 บาท ใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่ง และ รับกลับอีกวัน ก็เป็นราคาปกติ ส่วนเรื่องราคาของฝาก 2 ชิ้น 800 บาท และ แถมสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น คิดเพิ่มเป็น 1,000 บาทนั้น ไม่ได้ยัดเยียดขาย แต่เป็นการลดราคาให้

นายประสิทธิ์ บอกด้วยว่า เกาะปันหยี มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคนได้ ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา เรื่องของกินต่างๆ ก็ราคาไม่ต่างจากในเมือง ตนไม่อยากจะแก้ตัว กับกระแสดราม่า ถือเป็นบทเรียน และน้อมรับในข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล

ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่จริง ทำเพื่อเรียกยอดไลก์ และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราอาจพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป