จากกรณีที่เวลา 13.59 น. ตำรวจ สภ.พระแสง รับแจ้งเหตุพบคนคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ในพื้นที่ ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิง วัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นเหลนของผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บถูกมีดพร้าฟันเข้าที่บริเวณหลังและไหล่ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกฟันเข้าที่ลำคอ ได้แก่ นางสาวพิกุลแก้ว อายุ 25 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นหลานสะใภ้เลี้ยงของผู้ก่อเหตุ




ส่วนผู้ก่อเหตุมีชื่อว่านายประมวล อายุ 57 ปี หลังจากลงมือก่อเหตุ นายประมวลได้เดินถือมีดพร้าและอาวุธปืนยาว 1 กระบอก เดินไปเดินมาภายในสวนปาล์มน้ำมันใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ หลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมประมาณ 1.30 ชม. จึงสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ซึ่งทีมข่าวได้รับคลิปวินาทีที่ผู้ก่อเหตุมีอาการคุ้มคลั่งมาด้วยกันหลายคลิป ในคลิปจะเห็นผู้ก่อเหตุมีอาการโวยวาย พูดจาคนเดียวเดินไปเดินมาพร้อมกับถืออาวุธปืนยาวและมีดพร้าอยู่ในมือ


ล่าสุด วันที่ 25 ก.ค. 2567 เวลา 14.40 น. ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่าเจ้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ออกมาจากจุดเกิดเหตุ หลังจากสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจได้หิ้วตัวผู้ก่อเหตุออกมาขึ้นรถ แต่พบว่าเจ้าตัวยังมีอาการคุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาขึ้นท้ายรถกระบะแล้ว ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้พูดจาไม่รู้เรื่อง และมีการบอกกับนักข่าวว่า “ผมจะบอกกล่าวต่อนักข่าว อยากร้องเรียนกับนักข่าว ให้รับฟังชัดเจนพระบิดา ช่วยข้าเถิดพระเจ้า ช่วยคุ้มครองข้าเถิด”




จากนั้นผู้ก่อเหตุมีการสวดบทสวดอะไรบางอย่าง บอกว่า “ฮาเรรูยา ข้าไม่ผิด พระบิดาอย่าฆ่าปิดปากข้าเลย” หรือผู้ก่อเหตุมีการพูดและท่องคาถาด้วยกันหลายรอบอยู่ประมาณ 5 นาที ซึ่งทีมข่าวก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุกำลังจะสื่ออะไร ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพัก และเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยร่างของ น.ส.พิกุลแก้ว (ผู้เสียชีวิต) นอนเสียชีวิตบริเวณพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งลักษณะของบ้านหลังนี้เป็นบ้านปูนชั้นเดียวใกล้ ๆ กัน เป็นบ้านของพี่ชายของผู้ก่อเหตุ




ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายจิรวัฒน์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจสยามปู่อินทร์เคียนซา คนที่ไปช่วยเหลือเด็ก 2 คน ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อเวลา 13.59 น. มูลนิธิกู้ภัยตัวเองได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุการณ์ชายคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายญาติจนเสียชีวิตและได้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เมื่อตัวเองมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งโวยวายอยู่บริเวณสวนปาล์มด้านหลังบ้าน พร้อมกับมีการถือปืนยาวและมีดะร้าอยู่ในมือ จากนั้นตัวเองและเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกคนหนึ่งได้รอจังหวะที่ผู้ก่อเหตุเผลอ จึงเดินเข้าไปในบ้านก็เจอเด็กหญิงวัยประมาณ 2 ขวบ นั่งร้องไห้อยู่ในบ้าน ข้างกันตัวเองเห็นเด็กหญิงวัย 4 ขวบนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลจากการถูกฟันที่ท้ายทอยและไหล่ด้านซ้าย


จากนั้นตัวเองได้บอกเด็กหญิงคนหนึ่งกล่าวว่าให้เงียบ ๆ อย่าส่งเสียงดัง ก่อนที่ตัวเองจะได้อุ้มเด็กหญิงที่บาดเจ็บ (วัย 4 ขวบ) และเด็กหญิงวัยสองขวบ 2 ขวบ ออกมาจากบ้าน จนเด็กทั้งสองปลอดภัย จากนั้นตัวเองก็ได้พาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นยังมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บริเวณหลังบ้านอยู่ และตัวเองก็เหตุสังเกตเห็นศพของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ข้างบ้าน โดยตอนนั้นตัวเองเร่งรีบนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล และไม่ได้ถามเด็กถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเด็กยังอยู่ในอาการที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.พิศมัย อายุ 30 ปี ลูกสาวคนก่อเหตุ และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุที่บ้านหลังนี้มีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ได้แก่ นายประมวล (ผู้ก่อเหตุ) น.ส.พิกุล (ผู้เสียชีวิต) เด็กหญิงแก้มบุ๋ม (นามสมมติ) ผู้บาดเจ็บวัย 4 ขวบ และเด็ก 2 ขวบ ลูกของผู้เสียชีวิต รวมถึงตัวเอง


โดยตอนเกิดเหตุเด็กวัย 2 ขวบ ถูกผู้ก่อเหตุเอาถุงข้าวสารคลุมทั้งตัวและหายใจไม่ออกจึงร้องไห้ออกมา จากนั้นนางสาวพิกุล ผู้เสียชีวิต ได้มาเห็นลูกในสภาพถุงข้าวสารคลุมหัว จึงถามผู้ก่อเหตุว่า “เอาถุงมาคลุมลูกหนูทำไม” หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงตอบกลับไปว่า “ทีมึงทำลูกหลานกูล่ะ” จังหวะนั้นผู้เสียชีวิตพูดยังไม่ทันขาดคำ ผู้ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันไปบริเวณลำคอผู้เสียชีวิตพยายามที่จะวิ่งหนี แต่พ่อของตัวเองก็ได้วิ่งไปฟันซ้ำ ตัวเองได้วิ่งเข้าไปขวางแต่พ่อได้บอกกับตัวเองว่า “อย่าเข้ามายุ่ง...ถ้ายุ่งกูจะฆ่ามึงอีกศพ” หลังจากนั้นแม่ของตัวเองจึงดึงตัวเองออกไปจากบ้านหลังนี้ และรีบไปแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่เขาช่วยเหลือ




นางสาวพิศมัย บอกว่าอีกว่า ตัวเองไม่ทราบว่าสาเหตุที่พ่อตัดสินใจทำร้ายร่างกายนางสาวพิกุลจนเสียชีวิตมาจากอะไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันมาก่อน โดยผู้ตายมีศักดิ์เป็นหลานสะไภ้ของพ่อ และเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน ตัวเองเคยถูกผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นพ่อใช้มีดแทงเข้าที่เอวด้านซ้ายจนเป็นแผลเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนั้นไม่ได้มีการแจ้งความเพราะเห็นว่าเป็นพ่อ นางสาวพิศมัยก็ได้โชว์บาดแผลที่ถูกผู้ก่อเหตุแทงเมื่อหนึ่งเดือนก่อนให้กับทีมข่าวดูอีกด้วย


ทีมข่าวถามพิศมัยต่อว่า พ่อมีคลั่งลัทธิอะไรหรือไม่ พิศมัย ยอมรับว่า พ่อของตัวเองนับถือศาสนาคริสต์และชอบท่องบทสวดอะไรทำนองนี้มานานแล้ว อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังติดยาเสพติด เวลาที่เสพยาหนักมักจะมีอาการคลุ้มคลั่งแบบนี้เป็นประจำ ส่วนเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่ถูกผู้ก่อเหตุ เอาถุงข้าวสารคลุมทั้งตัวนั้น ตอนนี้น้องก็อาการปลอดภัยแล้วแต่ยังคงมีอาการตกใจกลัว ซึ่งบรรดาญาติก็ได้อุ้มน้องวัย 2 ขวบ เอาไว้พร้อมกับให้กำลังใจ ดูแลสภาพจิตใจเด็กคนดังกล่าว

 

สยองคลั่งสั่งตาย! น้าหลอนฆ่าหั่นคอญาติ เหลนถูกฟันปางตาย