จากกรณีกระแสดราม่าในโซเชียล หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวของลูกสาวคนหนึ่ง ได้ทิ้งอัฐิเถ้ากระดูกของพ่อวัย 78 ปี ไว้ให้สัปเหร่อจัดการ อ้างติดขัดเรื่องศาสนา ว่า "ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร แต่ความคิดมันต้องมีกันทุกคนไหม #นี่พ่อนะครับ ยกโลงยังไม่ช่วยกันเลย อ้างว่าศาสนาไม่ให้ยก เก็บกระดูกก็ไม่มา แถมให้เราเอากระดูกพ่อตัวเองไปไหนก็ได้ เดี๋ยวผมขออนุญาต เอากระดูกพ่อไปลอยให้นะครับ" ตามที่ข่าวนำเสนอไป นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ก.ค. 2567 ที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง นายอัศนี อายุ 26 ปี สัปเหร่อ พร้อมด้วย นายเฉลิมเกียรติ อายุ 47 ปี หรือ แมนสะพานบุญบ้านเพ เจ้าของโพสต์ได้ลงเรือไปกลางทะเล เพื่อลอยอังคารอัฐิเถ้ากระดูก ชายอายุ 78 ปี หลังมีกระแสดราม่านั้น

โดยหลังจากเรือแล่นถึงจุดเหมาะสมในทะเล สัปเหร่อได้จุดธูป ท่องคาถา โรยดอกไม้ ลงบนอัฐิเถ้ากระดูก จากนั้น แมนสะพานบุญบ้านเพ เป็นผู้นำอัฐิเถ้ากระดูกลอยอังคารลงในทะเล ด้วยการอำลาครั้งสุดท้ายที่ช่วยเหลือตั้งแต่ช่วยหาเงินค่าทำศพ จัดงานศพ ฌาปนกิจยันลอยอังคาร โดยปราศจากลูกสาวของชายผู้ล่วงลับดังกล่าว ด้วยการอ้างว่านับถือต่างศาสนาจึงไม่สามารถทำพิธีให้บุพการีได้ จากนั้นเรือได้แล่นวนจุดลอยอังคาร 3 รอบเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้นำอัฐิเถ้ากระดูกของคุณตาวัย 78 ปี มาลอยอังคารเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใจบุญให้ใช้เรือเร็วฟรีในการลอยอังคารอัฐิเถ้ากระดูกครั้งนี้ สำหรับตนก็เป็นคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ล่วงลับ แต่ก็ช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายทำให้ดีที่สุด ตนคิดว่าการที่จะให้ตนเอาอัฐิเถ้ากระดูกไปฝังดินตามที่ลูกสาวผู้ล่วงลับบอก เราทำใจไม่ได้ก็ต้องนำมาลอยอังคารซึ่งถูกต้องตามจารีตประเพณีชาวพุทธแบบนี้ สำหรับตนคิดว่าไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาไหน ถ้าเป็นบุพการีตนคิดว่าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกแล้ว

ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง เพื่อติดตามสอบถามข้อมูลที่เท็จจริง กับนายอัศนี สัปเหร่อที่ทำพิธีให้กับผู้ล่วงลับ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จริง โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ทำพิธีฌาปนกิจชายผู้ล่วงลับ ตนเองก็ดูแลจัดการทำพิธีจนจบ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือแปลธาตุ หรือเก็บอัฐิเถ้ากระดูกไปประกอบพิธี ต่อมาทางญาติผู้ล่วงลับได้ติดต่อมาว่าไม่สะดวกเดินทางมา ให้ตนเองจัดการได้เลย ตนเองจึงเก็บอัฐิให้พระสวดบังสกุลแล้วนำห่อผ้าขาวไว้ กระทั่งวันนี้ (25 ก.ค.) จะนำไปไปลอยอังคารทำบุญเป็นครั้งสุดท้ายให้กับผู้ล่วงลับ โดยหลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว มาทราบข้อมูลภายหลังจากญาติผู้ล่วงลับว่า เขานับถือต่างศาสนา ซึ่งเขาอาจจะมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่สามารถมาเก็บอัฐิผู้ล่วงลับไปประกอบพิธีได้ ตนเองจึงจัดการให้เรียบร้อยก็คิดว่าเขาก็ญาติเราคนหนึ่ง