จากกรณีการหายตัวไปของ นายศักดิ์สุริยา หรือ นกรา อายุ 38 ปี หลังมีญาติเข้าแจ้งความ สภ.กงหรา จ.พัทลุง ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคนใช้รถ 3-4 คันบุกอุ้มขึ้นรถหายไปตั้งแต่เวลา 22.00 น. คืนวันที่ 24 ก.ค. โดยเหตุเกิดที่บ้านเพื่อนของนายนกรา จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ต่อมามีกระแสข่าวในทำนองที่ว่านายนกราแอบไปยุ่งกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งสามีติดคุก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ถูกอุ้มหายสาบสูญไป นั้น




ล่าสุด (26 ก.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ เมื่อเวลา 22.18 น. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงกำลังเกิดเหตุ จะเห็นรถเก๋งต้องสงสัย 2 คัน ได้ขับผ่านมายังบริเวณหน้าบ้านเช่าของนายนกรา จากนั้น 1 นาทีต่อมา เวลา 22.19 น. จะเห็นภาพรถเก๋งต้องสงสัยอีก 2 คันขับตามไป รวมทั้งหมด 4 คัน




ต่อมาเวลา 22.25 น. จะเห็นภาพรถต้องสงสัยจำนวน 4 คัน มีรถเก๋งสีดำนำหน้าและรถเก๋งสีขาว 3 คัน ขับตามหลังได้ขับรถออกมาจากทางบ้านเช่าของนายนกรา มุ่งหน้าออกถนนเส้นเพชรเกษม ฝั่งขาเข้าเมืองพัทลุง และหากกลับรถจะสามารถมุ่งหน้าไปยังอำเภอรัตนภูมิ มุ่งหน้าไปยังเมืองสงขลาได้




สำหรับความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้น มีรายงานว่าทางตำรวจ ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบสวนที่ สภ.กงหรา ตั้งแต่ช่วงเช้าซึ่งผู้ต้องสงสัยรายนี้ทางตำรวจให้ข้อมูลว่าอาจเป็น 1 ใน 2 คน ที่ได้ลงจากรถแล้วขึ้นไปอุ้มนายนกราลงมาจากขนำ ก่อนพาตัวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ โดยทางพนักงานสอบสวนทำการสอบเครียดพร้อมกับทนายส่วนตัวกว่า 5 ชม. แล้วยังไม่มีวี่แววจะแล้วเสร็จ โดยจากการสังเกตทีมข่าว พบว่า ในช่วงแรกทางชายคนดังกล่าวได้สวมเสื้อสีเหลืองระหว่างการสอบ แต่อีกชั่วโมงผ่านไป ได้ทำการถอดเสื้อเปลี่ยนใส่เป็นสีดำแทน โดยที่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไปเพื่ออะไร




ขณะเดียวกันจากการสอบถามกับทาง พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ผกก. สภ.กงหรา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกรณีที่ญาติมีการตั้งข้อสงสัยไปที่เรื่องชู้สาว เนื่องจากพบว่าตัวนางสาวอร (นามสมมติ) ซึ่งเป็นแฟนเก่าของนายนกรา เคยมีอดีตสามีซึ่งเคยถูกจำคุกดำเนินคดีนั้น ทางตำรวจได้ตรวจสอบ อดีตสามีคนดังกล่าวไปแล้ว และพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเช่าของรายนกรา พบว่ามีรถมาจอดหน้าบ้านเช่าจริงจำนวน 4 คัน แต่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบจากชุดสืบสวน ว่ามีการลงจากรถและมีการทำอะไรหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ขอให้ทางคุณสืบสวนทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนถึงจะสามารถให้ข้อมูลได้




จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ลองเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบสวนยางหลังห้องเช่าของนายนกรา พร้อมกับทางญาติ ๆ ของนายนกรา พบว่า ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่นายนกราจะวิ่งมายังจุดนี้ และจะไม่กลับบ้านมา เนื่องบริเวณหลังบ้านเช่าเป็นเพียงสวนยางเล็ก ๆ และถัดจากสวนยางก็เป็นถนนใหญ่และบ้านเรือนของชาวบ้านแล้ว


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายอาสัญ อายุ 42 ปี พี่ชายของนายนกรา ผู้สูญหาย โดยนายอาสัญ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ทางตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด และหลังจากที่ทราบข่าวว่าน้องชายถูกอุ้มหายก็ได้ลางานยาว เพื่อมาตามหาน้องชายโดยเฉพาะตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยช่วงเช้าทางตนได้เดินทางไปที่ห้องเช่าของน้องชาย ก่อนพบกับตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.กงหรา โดยตนได้ถามความคืบหน้าคดีจากตำรวจ ได้ความว่าตอนนี้สามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 1 ราย ได้แล้ว คือ 1 ใน 2 ของคนที่ขึ้นไปหิ้วปีกนายนกรา น้องชายตนจากบนขนำ โดยชายคนดังกล่าวตำรวจเผยว่าไปได้ตัวมาจาก จ.สงขลา และอ้างกับตำรวจว่าในวันเกิดเหตุถูกจ้างมา และได้พาตัวนายนกรามาที่บ้านเช่าของตัวเอง เพื่อถามอะไรบางอย่าง ก่อนที่นายนกราจะขัดขืน และวิ่งหนีออกไปบริเวณหลังบ้านเช่าเข้าไปในป่าสวนยางแล้วหายไปเลย




แต่จากการสอบถามแม่ค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับบ้านเช่าของน้องชาย เผยว่า ทางตำรวจให้ดูกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าบ้านเช่าของน้องชาย มีรถมาจอดจำนวน 4 คันจริง แต่ให้ดูแค่นั้นไม่ได้ให้ดูอะไรมาก และตนก็ถามแม่ค้าต่อว่าในคืนนี้ได้ยินเสียงคนวิ่งบ้างมั้ย แม่ค้าเผยว่าคืนนั้นไม่แม้แต่จะได้เสียงของการทะเลาะหรือเสียงคนวิ่ง แต่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เสียงดังมาจากทางหลังบ้านเช่าของน้องชายที่เป็นสวนยาง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงมาจากไหนอย่างไร


ส่วนเรื่องปมปัญหาตอนนี้มองเรื่องเดียวเลยคือเรื่องของชู้สาว ที่อาจจะมีประเด็นที่แฟนสาวมีคนคบอยู่ และมาคบกับน้องชายตนอีก อีกทั้งก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน น้องชายของตนก็เคยบอกญาติ ๆ เอาไว้ว่าตัวเองจะโดนอุ้มอย่างแน่นอน และก็โดนจริง ๆ ตอนนี้อยากฝากทางตำรวจอยากให้เร่งนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ และตามหาน้องชายของตนให้เจอเพราะตอนนี้ยังหวังว่าน้องชายยังคงปลอดภัยดีอยู่




ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับนางอร (นามสมมติ) อายุ 38 ปี อดีตแฟนเก่าของนายนกรา โดยนางอร เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนได้เลิกรากับนายนกราไปประมาณปีกว่าแล้ว เนื่องจากนายนกรามีปัญหาเรื่องยาเสพติดทำให้ครอบครัวตนไม่ชอบใจ โดยหลังจากที่เลิกราตนก็ได้ย้ายออกจากบ้านเช่าหลังนี้ และกลับไปอยู่ที่จังหวัดสงขลาซึ่งเป็นภูมิลำเนา แต่ว่าจะแวะเวียนกลับมาที่บ้านเช่าหลังนี้บ้างเดือนละประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อกลับมาดูแลแมว 7 ตัว ที่เป็นแมวของตนและนายนกราเลี้ยงเอาไว้ในช่วงที่คบหากัน และครั้งล่าสุดที่ตนกลับมาที่บ้านเช่าดังกล่าว คือวันเกิดเหตุวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา และได้กลับออกไปจากบ้านเช่าเมื่อช่วงเย็นของวันดังกล่าว ส่วนตัวตนเองก็พยายามจะติดต่อนายนกราตั้งแต่ทราบข่าวว่าหายตัวไป โดยโทร. ไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน ซึ่งโทร. ติดแต่ไม่มีคนรับสายและหลังจากนั้นก็ปิดเครื่องไป


ซึ่งหลังจากทราบเรื่องว่านายนกราถูกอุ้มหายไป ตนก็ได้กลับมาดูที่บ้านเช่า และพบว่าที่บ้านเช่าไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้ และแมวทั้ง 7 ตัวก็ยังอยู่ครบ ส่วนที่มีข้อมูลว่าหลังจากเกิดเหตุคนร้ายได้พานายนกรากลับมาที่บ้านเช่า ก่อนที่นายนกราจะวิ่งหนีคนร้ายเข้าไปในสวนยางพาราด้านหลังนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะข้างหลังเป็นทั้งบ้านญาติและ หากหลบหนีไปทางนั้นจริง ก็น่าจะหลบไปที่บ้านของญาติหรือกลับเข้ามาที่บ้านแล้ว




ส่วนกรณีที่ญาติมีการตั้งข้อสงสัย ว่าปมเหตุที่นายนกราถูกอุ้มหายจะเป็นเรื่องชู้สาว ซึ่งอาจจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับตน เนื่องจากว่าตนเคยมีอดีตสามีซึ่งเคยอยู่ในเรือนจำ และเมื่ออกมาจากเรือนจำคงมาตามราวีนายนกรา ตนยอมรับว่าอดีตสามีของตนเคยถูกจำคุกดำเนินคดีจริง ซึ่งได้พ้นโทษออกมาแล้ว แต่หลังจากออกมาจากเรือนจำก็ไม่ได้ติดต่อมาหาตน และตนเองเพิ่งมารู้ทีหลังว่าอีกฝ่ายมีลูกเมียในระหว่างที่คบกับตนอยู่แล้ว ทำให้หลังจากที่อดีตสามีออกมาจากเรือนจำ ตนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย


พร้อมทั้งยืนยันอีกว่าตอนนี้ตนเองก็ยังไม่ได้มีการคบหากับใครเลย จึงมั่นใจว่าหากเป็นปมเรื่องชู้สาวก็ไม่เกี่ยวข้องกับตนอย่างแน่นอน แต่ในส่วนที่นายนกราจะไปมีคนใหม่หลังจากที่เลิกรากับตนหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบเพราะว่าไม่ได้ไปถามไถ่อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากเลิกกันแล้ว อีกทั้งปกตินายนกราก็จะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ได้เล่าอะไรหรือบอกอะไรให้ฟัง


ส่วนปมการถูกอุ้มหายในครั้งนี้น่าจะเกี่ยวกับเรื่องอะไร ตนก็ไม่มั่นใจ แต่อาจจะเป็นเรื่องของยาเสพติด เพราะตั้งแต่คบหากันมานายนกราก็เสพยาเสพติดตลอด จนเป็นเหตุให้เลิกกัน ส่วนปมเรื่องอื่น ๆ ตนไม่ทราบ และคิดไม่ออกว่าจะเป็นเรื่องอะไร และตอนนี้ตนก็ยังเชื่อมั่นว่านายนกรายังปลอดภัยดี เพราะตนมีลางสังหรณ์แบบนั้น




ล่าสุดทีมข่าวได้ทำการตรวจสอบจนพบว่า ชายที่ตำรวจนำตัวมาสอบสวนที่โรงพักในวันนี้คือ “นายเต้” ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางสาวอร (นามสมมติ) อดีตแฟนสาวของนายนกรา โดยทางตำรวจได้สอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ โดยนายเต้ ซึ่งบอกว่าเป็นแฟนของนางสาวอร พร้อมเปิดใจว่า เดินทางมาพบกับตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยตนมีความสัมพันธ์เป็นแฟนหนุ่มของนางสาวอร โดยเคยคบหากันมานานแล้วแต่ได้แยกทางกันไปก่อนจะกลับมาคบหากันใหม่และมีสถานะเป็นแฟนในปัจจุบัน ส่วนที่ก่อนหน้านี้นางสาวอรได้พูดว่าไม่มีแฟนละเป็นโสดนั้น ตนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรและยืนยันว่าตนเป็นแฟนนางสาวอรจริง ๆ


สำหรับนายนกรานั้น ตนไม่ทราบมาก่อนว่าเคยคบหากับนางสาวอร รู้เพียงแค่ว่าเป็นลูกน้องที่มาคอยเปลี่ยนอาหารให้ข้าวให้น้ำแมว ภายในห้องเช่าหลังดังกล่าว จนกระทั่งตนได้ยินชาวบ้านพูดกันหนาหูว่านายนกรามักจะเข้าไปให้น้ำและอาหารแมวในช่วงกลางดึก ขณะที่นางสาวอรยู่ภายในห้องเช่าด้วย ตนเกรงว่าจะเกิดข้อครหาจึงตั้งใจจะนัดนายนกราเพื่อพูดคุยให้เปลี่ยนเวลาเข้าไปให้อาหารแมวที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว


จนกระทั่งในวันเกิดเหตุที่นายนกราถูกอุ้มหาย นางสาวอรเป็นคนกลางนัดหมายให้ตนไปพบกับนายนกราซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนัด แต่รู้ผ่านทางนางสาวอรว่านัดให้ตนเข้าไปคุยที่บ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนที่กำลังจะเดินทางไปนั้นพวกตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่ชายหาดกับกลุ่มเพื่อน ต่อมานางสาวอรบอกว่าปวดหัว ตนจึงเปลี่ยนใจจะไม่ไปกัน แต่ฝ่ายนางอรบอกว่าไหน ๆ ก็มากันแล้วกลัวจะเสียเที่ยวก็เลยเป็นคนกลางนัดให้ตนเข้าไปหานายนกราที่บ้านเกิดเหตุ เพราะรู้ยังไงนายนกราก็ต้องมาที่บ้านดังกล่าวอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็ไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน โดยกลุ่มเพื่อน ๆ ล่วงหน้าไปก่อน ส่วนตนได้ขับรถเก๋งสีดำของนางสาวอรเข้าไป




เมื่อเข้าไปรอบแรกก็ยังไม่พบ จนกระทั่งเข้าไปรอบที่สองได้พบกับนายนกราและมีการพูดคุยกันก่อนที่ตนจะออกมา โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการอุ้มนายนกราแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่นายนกราหายตัวไป ยืนยันว่าตนก็ไม่รู้เรื่องและตอนนี้ตนก็อยากรู้ว่านายนกราหายไปไหน พร้อมประกาศหากใครหาตัวนายนกราเจอตนก็จะมีเงินรางวัลให้ 100,000 บาทไปเลย


ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูลกับทางตำรวจ เบื้องต้นพบว่าจากการสอบสวนนายเต้ได้ให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้ไปพบกับนายนกราที่บ้านหลังเกิดเหตุจริง และได้พาตัวนายนกราไปด้วยกัน แต่อ้างว่าเป็นการไปโดยยินยอมพร้อมใจ แต่ว่าระหว่างทางนายนกราได้หลบหนีไป และหายไปที่ไหนไม่รู้ และทางนายเต้เองยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นทางตำรวจจึงได้มีการตั้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ก่อน จากนั้นทางตำรวจได้ปล่อยตัวออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่ได้มีการออกหมายจับ ก่อนที่จะมีการนัดพบกันที่ศาลในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) พร้อมกับตั้งหลักทรัพย์ประกันตัวไว้ที่วงเงิน 200,000 บาท

 

ใครโกหก?! 1 ในแก๊งอุ้มสารภาพที่แท้เป็นคนรักแฟนเก่า "นกรา"