สลด! ลิฟต์อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ทับคนงานขณะกำลังซ่อม เสียชีวิต 1 คน

สลด! ลิฟต์อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ทับคนงานขณะกำลังซ่อมดับ1

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุสลดขึ้นภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีลิฟต์ที่ใช้สำหรับพนักงานและเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน เกิดหล่นลงมาทับช่างซ่อมลิฟต์ 1 คน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของทางสนามบิน ต้องนำแผ่นป้ายมาปิดกั้นพื้นที่

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณช่องลิฟต์ชั้นที่ 1 ของอาคารเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารในสนามบิน ซึ่งพื้นที่เฉพาะของพนักงานและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในสนามบิน จากการไปตรวจสอบที่ช่องลิฟต์ดังกล่าว พบนายวิเศษรัตน์ อายุ 23 ปี ช่างเทคนิคของบริษัทแห่งหนึ่ง เสียชีวิต

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ขณะทำการซ่อมลิฟต์โดยสารฝั่งที่หนึ่ง แต่ในจังหวะนั้นผู้ตายทำประแจซ่อมลิฟต์หล่นไปในช่องลิฟต์อีกฝั่ง จึงพยายามก้มไปหยิบประแจ แต่เป็นจังหวะที่ ลูกตุ้มตัวถ่วงน้ำหนักด้านหลังลิฟต์นั้น ซึ่งยังคงทำงานขึ้นลงตามปกติ ได้เลื่อนลงมาด้านล่าง ทำให้ทับศีรษะของนายวิเศษรัตน์พอดี โดยมีรายงานว่าลูกตุ้มดังกล่าวนั้นมีน้ำหนักสูงถึง 2 ตัน

อย่างไรก็ดี ทางด้านพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวเพื่อนร่วมงาน ไปสอบปากคำอย่างละเอียด โดยสาเหตุคาดมาจากอุบัติเหตุในระหว่างที่ช่างซ่อมบำรุงลิฟต์ตัวนี้

ส่วนร่างของนายวิเศษรัตน์ เจ้าหน้าที่ได้นำส่งชันสูตร ที่โรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดต่อไป

ทอท.ชี้แจงลิฟต์ทับคนงานดับ ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร

ขณะที่ นาย กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งติดราชการต่างประเทศ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าว ตนเองได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องไปสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ ยื่นยันไม่ใช่ลิฟต์ขาดแล้วตกลงมาใส่พนักงานแต่อย่างใด

"เราขอยืนยันว่าลิฟต์ภายในสนามบินทุกตัว มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน และขอย้ำว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผล กระทบต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการลิฟต์ภายในสายการบิน เนื่องจากเป็นลิฟต์ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นลิฟต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณอาคารสำนักงาน" นายกีรติ กล่าว

โดย ทสภ.ปิดกั้นบริเวณพื้นที่เกิดเหตุชั่วคราวเพื่อสอบสวน ทั้งนี้ ทสภ.ขอยืนยันว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดในการทำงานของลิฟต์ในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด

ทสภ. ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและยืนยันว่าจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ทสภ. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยในการทำงานทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต