กรณี รพ.กระทุ่มแบน ส่งมอบทารกสลับตัว ล่าสุดทั้ง 2 ครอบครัวพอใจ รพ.ให้สิทธิรักษาทุกโรคทุกกรณีจนกว่าเด็กทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ พร้อมมอบเงินเยียวยาจิตใจครอบครัวละ 1 แสนบาท

วันที่ 16 กันยายน 2567 เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ เรื่อง เหตุการณ์ส่งมอบทารกผิดมารดา โดยในแถลงการณ์ระบุว่า "ตามที่ โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับเรื่องจากบิดา (ชาวไทย) ซึ่งมาติดต่อที่หออภิบาลทารกป่วย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 เวลา 07.00 น. พร้อมทารกแรกเกิด เพื่อขอตรวจ DNA เนื่องจากไม่มั่นใจว่าเป็นบุตรของตนเองจริง พร้อมนำภาพถ่ายของทารกขณะที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาเป็นหลักฐานนั้น โรงพยาบาลกระทุ่มแบนได้เร่งตรวจสอบข้อมูลทันที เบื้องต้นจากการตรวจสอบหมู่เลือด พบว่าน่าจะเกิดการสลับทารกจริง จึงได้ติดตามทารกของอีกครอบครัว (ชาวพม่า) ที่คาดว่าน่าจะสลับกัน มาดำเนินการตรวจสอบ DNA ของทั้งสองครอบครัวเพื่อยืนยันความถูกต้อง ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันเดียวกัน พร้อมทั้งส่งคืนทารกที่ถูกต้องให้กับแต่ละครอบครัว ซึ่งทั้งสองครอบครัวขอรอผล DNA ก่อนที่จะเจรจาเพื่อการเยียวยา โดยระหว่างนี้ได้ให้การดูแลสุขภาพของมารดาและทารกทั้งสองครอบครัวอย่างต่อเนื่อง จนมีการแจ้งยืนยันผล DNA เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา และนัดหมาย ดำเนินการเจรจาเพื่อการเยียวยาในวันนี้ (16 ก.ย.67) โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นร่วมกันว่า โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จะติดตาม ดูแลสุขภาพทารกของทั้งสองครอบครัวอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานทางการแพทย์ และจะเร่งดำเนินการเรื่องการขอรับเงินเยียวยาต่อไป ทั้งนี้โรงพยาบาลกระทุ่มแบนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องขออภัยต่อคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวของทารกทั้งสองรายไว้ ณ ที่นี้ด้วย ทางโรงพยาบาลฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทำการวิเคราะห์ทบทวนหาสาเหตุความผิดพลาด และปรับปรุงมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก รวมทั้งจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อดูแลพี่น้อง ประชาชนชาวกระทุ่มแบนอย่างเต็มที่"

ต่อมาในเวลา 13.00 น. โรงพยาบาลกระทุ่มแบน โดย นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน นพ.สาธารณสุขอำเภอ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลฯ และหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล ได้เชิญคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวของผู้เสียหายทั้ง 2 ครอบครัวมาเจรจาและรับทราบถึงความชัดเจนในการเยียวยาจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของตำบลหนองนกไข่ ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งก็ได้ใช้เวลาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวประมาณ 30 นาที สร้างความเข้าใจอันดีต่อกันทุกฝ่าย ยุติปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบลงได้ด้วยดี

นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่ทราบกันถึงเหตุการณ์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบนก็ยอมรับผิดทุกอย่าง และพร้อมที่จะรับผิดชอบในการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายตามที่ได้มีการพูดคุยถึงข้อร้องขอกันไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในส่วนของการให้บริการทางด้านการแพทย์หรือการดูแลด้านสาธารณสุขนั้น ก็จะให้สิทธิในการรักษาทุกโรคทุกกรณีไปจนกว่าเด็กทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ (20 ปี) ส่วนเรื่องของการมอบเงินเยียวยาจิตใจ ทางโรงพยาบาลฯ ได้จัดมอบให้แก่ทั้ง 2 ครอบครัวด้วยเช่นกัน ครอบครัวละ 1 แสนบาท และยังจะได้ติดตามอาการของเด็กทั้งสองคนอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่พบอาการผิดปกติใดๆ ทารกทั้งสองคนกลับไปอยู่กับครอบครัวด้วยสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี ขณะที่ การป้องกันก็ได้มีการวางมาตรการที่เข้มขึ้นและได้เพิ่มเรื่องของการติดตั้งกล้องวงจรปิดเข้าไปอีกด้วย นอกจากนี้ เรื่องของการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว

นพ.สุรวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับการหารือพูดคุยกันในวันนี้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้เสียหายทั้ง 2 ครอบครัวอย่างเสมอภาค และก็นับได้ว่ายุติปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบลงด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน และทางโรงพยาบาลฯ ก็ยินดีรับในข้อร้องขอที่ทางผู้เสียหายได้ร้องขอมา รวมถึงเรื่องของการปรับปรุงระบบการทำงาน และมาตรการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อีก

ส่วนทางด้านพ่อของเด็กไทย เปิดใจว่า การเจรจาในวันนี้ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร แต่รู้สึกพอใจที่ข้อหารือจากการพูดคุยกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เป็นไปตามที่ร้องขอไว้ ซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีที่จะดูแลเด็กๆ ทั้งสองคนอย่างต่อเนื่อง และการเยียวยาจิตใจทั้งสองครอบครัวในวันนี้ก็ถือว่าจบลงด้วยดี และยังมั่นใจในการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ซึ่งตนเองและครอบครัวรวมถึงลูกสาวก็จะยังคงมาหาหมอที่โรงพยาบาลนี้เหมือนเดิม เพราะเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ๆ อยู่ใกล้บ้านที่สุด