โผล่อีก! หนุ่มร้อง "ทนายรณณรงค์" หลังสอบเข้าราชการผ่าน แต่ถูกปฏิเสธ อ้างวุฒิไม่ตรงตามคุณสมบัติ

วันนี้ 22 ก.ย. ที่ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จ.นนทบุรี นายสุรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพด้านพ่อบ้าน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรณีที่สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าคุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์

โดยนายสุรินทร์ เล่าว่า ตนได้ไปสมัครสอบหลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ประกาศสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) จำนวน 221 อัตรา แต่ภายหลังประกาศรับเพิ่มเป็น 700 อัตรา ซึ่งมีจำนวนผู้สมัครสอบทั้งหมด 4,609 คน โดยตนเองได้สอบเลือกไว้ 4 อันดับ

อันดับที่ 1 คือ เรือนจำกลางนครปฐม
อันดับที่ 2 เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
อันดับที่ 3 เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี
อันดับที่ 4 เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี

จากนั้นได้มีการสอบข้อเขียนภาค ก. (การสอบเพื่อวัดความสามารถทั่วไป) และภาค ข. (การสอบภาคความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) ในวันที่ 27 มกรา 2567 และสอบ ภาค ค. วันที่ 10-11 มีนาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประกาศผลสอบ 4 เมษายน 2567 ซึ่งก็สอบผ่านได้ลำดับที่ 153 จะได้บรรจุที่เรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งเป็นลำดับที่หนึ่งตามที่ยื่นสมัครสอบไป

ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ได้มีการเรียกรายงานตัว ที่กรมราชทัณฑ์จังหวัดนนทบุรี และนัดให้ไปรับหนังสือรายงานตัวที่กรมราชทัณฑ์ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 แต่ปรากฏว่าวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายสรรหาและบรรจุ ชื่อนายฉัตรมงคล (สงวนนามสกุล) โทรศัพท์มาแจ้งว่าวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร คือต้องจบการศึกษาระดับอนุปริญญาตรี หลักสูตร 2 ปี ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าวุฒิการศึกษาของตนเองตรงตามหลักเกณฑ์ในการสอบ คือ ประกาศนียบัตรวิชาการการศึกษาชั้นสูง หรือ .กศ.สูง ซึ่งเป็นระดับเดียวกับอนุปริญญา จากนั้นก็ได้นำหนังสือรับรองจาก มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ไปยื่นยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรกลับมา

จากกรณีที่เกิดขึ้นทำให้ตนได้รับผลกระทบเนื่องจาก หลังจากทราบว่าสอบผ่านทุกอย่างแล้ว ก็ได้ไปทำเรื่องลาออกกับทางกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พอสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าจะเยียวยาตนอย่างไรได้บ้าง ก็ได้รับคำตอบว่าจะประสานให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม หากมีตำแหน่งว่างจะแจ้งให้ไปสอบคัดเลือก พนักงานราชการหรือจ้างเหมา เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องกลายเป็นคนตกงาน สูญเสียโอกาส ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ได้มาเป็นพนักงานของ อบต. แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ได้รับเงินเดือน 9,500 บาทแทน จึงมาร้องกับมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อหาหนทางช่วยเหลือ

เบื้องต้น นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่นายสุรินทร์ โดยเห็นว่าทางกรมราชทัณฑ์ควรตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้ละเอียดก่อนจะให้มีการสอบ ซึ่งในกรณีนี้วุฒิการศึกษาเข้าหลักเกณฑ์ แต่กลับไม่ได้รับการบรรจุ