หญิงวัย 50 ปี เข้าร้องตำรวจกองปราบฯ ช่วยตามคดีน้องชายอดีตสมาชิก อบต ถูกยิงเผานั่งยางกลางป่าอ้อย จังหวัดหนองบัวลำภู แต่ตำรวจเจ้าของคดี ระบุว่า ฆ่าตัวตายเอง

พันตำรวจโทวิวัฒน์ จิตโสภากุล รองผู้กับการ 3 กองบังคับการกองปราบปราม ลงพื้นที่บ้านหนองด้วง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู สอบปากคำนางสายสร้อย วิบูลย์กูล อายุ 50 ปี ภายหลังเข้าร้องทุกข์ไปที่กองบังคับการกองปราบปรามว่า น้องชาย คือ นายสุภาพ ดอนโคตรอายุ 46 ปี อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ถูกฆ่าเผาอำพราง กลางป่าอ้อย บ้านหนองด้วง

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2560 ข้างๆตัว มีปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ 1 กระบอก สภาพตามเนื้อตัวโดนไฟไหม้เกรียม ส่งกลิ่นเหม็น ผลการผ่าพิสูจน์ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ พบมีเศษกระสุนปืนฝังอยู่ในศีรษะกว่า 10 ชิ้น แต่ล่าสุดตำรวจเจ้าของคดี ระบุว่า เป็นเหตุฆ่าตัวตาย

นางสายสร้อย เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.นากลาง (เจ้าของคดี) ตั้งปมเหตุถูกฆ่า ไว้หลายเรื่อง ทั้งแค้นส่วนตัว ชู้สาว และ ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ในจุดเกิดเหตุก็พบร่องรอยหญ้าล้ม ลักษณะเป็นการต่อสู้ ซึ่งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บดีเอ็นเอ คนใกล้ชิดผู้ตายไปตรวจสอบ

แต่เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์มาแจ้งกับตนเองว่า ผลตรวจดีเอ็นเอ ของผู้ต้องสงสัยทั้ง 7 คน ตรวจไม่พบร่องรอยการฆ่าน้องชายตนเอง สรุปว่า น้องชายตนเองยิงตัวตาย ทำให้พูดไม่ออก เนื่องจากน้องชายเป็นคนร่าเริง ไม่มีเหตุจูงใจที่ต้องไปฆ่าตัวตายกลางป่าอ้อยไกลขนาดนั้น และถ้าน้องชายยิงตัวเอง จะเผาศพอำพรางคดีตนเองได้อย่างไร จึงกลัวว่า จะไม่รับความเป็นธรรม

เนื่องจากผู้ต้องสงสัย มีญาติเป็นตำรวจ และอีกคนเป็นผู้กว้างขวาง มีสาเหตุมาจากแค้นที่กิ๊กสาวมาติดพันน้องชาย ตนเองเชื่อว่า ต้องไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางไปร้องตำรวจกองปราบฯ ที่กรุงเทพฯ เพื่อให้มาช่วยมารื้อคดี ให้ความเป็นธรรมกับน้องชาย