บทประพันธ์ ยาขอบ บทโทรทัศน์ วิโรจน์ ศรีสิทธ์เสรีอมร ดำเนินงานโดย บริษัท ศรีคำรุ้ง โปรดักชั่น จำกัด

ณ   เวิ้งแม่น้ำอิรวดี  ดินแดนพุกามประเทศ  เมื่อพุทธศักราช  2073  “ เมงกะยินโย ”  ตั้งตนเป็นกษัตริย์  ทรงพระนาม “ พระเจ้ามหาสิริชัยะสุระ ”  ยกเศวตฉัตรขึ้น  ณ  เมืองตองอู  ทรงมีพระราชธิดาและพระราชบุตรพระนามว่า  “ จันทรา ” และ  “ มังตรา ”  มี “ นางเลาชี ” เป็นพระนม  และนางเองก็มีบุตรชายชื่อว่า  “ จะเด็ด ”  เด็กทั้งสามจึงดื่มนมร่วมอกเดียวกัน

ครั้นเจริญวัย จะเด็ดเกิดความรักขึ้นกับตะละแม่จันทราทั้งสองจึงถูกพรากให้จากกัน  จะเด็ดไปเป็นพนักงานให้  “ ชุนวังทกะยอดิน ” ซึ่งมีบุตรสาวชื่อ  “ มังฉงาย ”  เมื่อพระเจ้ามหาสิริชัยะสุระสิ้นพระชนม์  มังตราราชบุตรก็ขึ้นครองบัลลังก์แทน  ทรงพระนาม  “ พระเจ้าตะเบงชเวตี้ ”  และอภิเษกกับนันทวดี

“ พระเจ้านระบดี ”  แห่งแปรนั้นโปรดปรานจะเด็ดมากโดยมิได้ระแวงว่าเป็นไส้ศึก  จึงให้เข้ามารับราชการอยู่ในวังโดยให้เป็นมโหรีหลวงสอน  “ ตะละแม่กุสุมา ”  ราชธิดาเล่นพิณ  13  สาย  “ รานอง ”  เห็นจะเด็ดก็จำได้  จึงวาแผนให้พระเจ้านระบดีบังคับจะเด็ดแต่งงานกับตะละแม่กุสุมาออเพื่อผูกมัดตองอูไม่ให้เกิดศึกกับแปร  มังตรารู้ข่าว  เข้าใจว่าจะเด็ดทรยศจึงยกทัพมาตีแปร  แต่ถูกพระเจ้าระบดีซ้อนกลจุดไฟเผาค่ายจึงพ่ายแพ้กลับไป

กองทัพโมนยินของ  “ พระเจ้าโสหันพวา ”  รู้ว่าแปรกำลังอ่อนแอ  จึงยกทัพมาตีกระหนาบซ้ำ  “  สอพินยา ”  พระคู่หมั้นอเทตยา หลานหลวง  ซึ่งริษยาจะเด็ดเพราะหลงรักกุสุมาเช่นกัน  จึงวาแผนให้พวกโนยินบุดเข้าเผาทำลายเมืองแล้วพากุสุมาหนีไปหงสาวดี กุสุมาเสียรู้  ตกเป็นมเหสีสอพินยาส่วนจะเด็ดได้รับการช่วยเหลือจาก  “ กันทิมา ”  ตีฝ่าวงล้อมกองทัพโมนยินกลับไปตองอูได้

มังตรายังโกรธแค้นจะเด็ดอยู่  ถึงกับคิดจะประหาร  แต่ “ มหาเถรโสดอ ”  ได้มาห้ามไว้  จะเด็ดขอแก้ตัวโดยำกองทัพตองอูบุกไปตีแปรเป็นการล้างแค้น...

ศึกครั้งนี้ของจะเด็ดจะเป็นเช่นไร   แล้วทำไมจะเด็ดถึงได้ชื่อว่าเป็น  “ ผู้ชนะสิบทิศ ”  ต้องไปติดตามในละครฟอร์มยักษ์  “ ผู้ชนะสิบทิศ ”