เป็นพระนางเคมีใหม่ที่น่าจับตามอง สำหรับพระเอก "อินดี้-อินทัช" และนางเอกสาว "จูน-ชลฤดี" ล่าสุดทั้งคู่โคจรมาพบกันในละคร "สูตรเล่ห์เสน่หา" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8

มีคิวลงจอแล้ว ในวันที่ 1 พฤจิกายนนี้ เวลา 19.00 น. ทางหน้าจอช่อง 8 เรียกได้ว่าทำเอาทั้งคู่ตื่นเต้น ขออ้อนแฟนละคร อยากให้รับชมกัน เพราะนอกจากเป็นละครที่ฟีลกู๊ด นัมเบอร์วันกันแบบขั้นสุดแล้ว  ทั้งคู่ยังเผยถึงวีรกรรมย้อนไปถึงตอนถ่ายทำว่าเป็นละคร คอมเมดี้เรื่องแรกที่ตอนถ่ายทำต้องจิกเล็บ กลั้นขำจนเนื้อแทบหลุด จริงเท็จประการใดไปฟังจากปากสองพระเอก นางเอกกันได้เลย

อินดี้ เผยว่า “เรื่องนี้ผมรับบทเป็น “อนวัช” หรือ “ไวน์” ละครเรื่องนี้ เป็นละครคอมเมดี้ เรื่องแรกของผมเลย ปกติผมจะได้รับบท ดราม่า กับดราม่าสุดๆเท่านั้น ซึ่งผมเองก็เกิดจากบทดราม่า ซึ่งบทคอมเมดี้เรื่องนี้ถือว่า เป็นบทที่ท้าทายอย่างหนึ่งของผมในฐานะนักแสดง จากคนที่ไม่เคยเล่นคอมเมดี้เลย ขอพูดตรงๆว่าเป็นเรื่องแรกที่คอมเมดี้สุดทางขนาดนี้เลยครับ ที่สำคัญ ต้องขอออกตัวแรงๆเลยว่า ละครเรื่องนี้เป็นละครสนุกที่สุด ตั้งแต่เคยเล่นละครมา อินดี้กล้าพูดเลยว่า ไม่เคยพูดประโยคนี้กับใคร ไม่ใช่ว่าเราอวยละครเรื่องนี้ แต่ด้วยอายุ หรือวัยของนักแสดงทุกคนมันใกล้เคียงกันมาก ต่อให้เป็นนักแสดงอาวุโส ทุกคนเขามีความสุขในการเล่นมากๆเลยครับ แล้วบทสนุกมาก เราเองเล่นยังสนุกขนาดนี้คนดูต้องรู้สึกไม่ต่างกันแน่นอน ดังนั้นห้ามพลาด”

ด้านจูน-ชลฤดี เสริมต่อว่า “เรื่องนี้รับบทเป็น “ปอฝ้าย” คาแรคเตอร์คือจะเป็นสาวแก่นมาก ๆ ไม่ยอมคน ถึงไหนถึงกัน เป็นไม้เบื่อไม้เมากับไวน์ ตลอดเวลา แล้วเรื่องนี้ เป็นการเล่นกับพี่อินดี้ เรื่องแรก ได้เจอคนเก่ง ๆ หลายคนมากตัวพ่อตัวแม่ ของคอมเมดี้ทั้งนั้น แล้วเราเองก็จะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารด้วย หลาย ๆ อย่างไม่เคยทำมาก่อนแล้วได้มาทำในละครเรื่องนี้ จูนยอมรับตามตรงว่า ต้องใช้สมาธิในการเล่นสูงมาก เพราะมันขำจริง ๆ แล้วเราเองเป็นคนบ้าจี้ ชอบหลุดขำอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้ตายเลย แล้วแต่ละคนชอบเล่นมุขสด ๆ อย่างเช่นฉากที่เราต้องเจอพี่ใบเฟิร์น ยั่วโมโห เทกะเพราไก่ของเราลงถังขยะ เพราะความหึงผู้ชาย ตอนซ้อมพี่เค้าเล่นแบบนึงเราก็เตรียมใจมาแล้ว พอเอาจริงพี่เค้าเพิ่มอีกแบบแล้วหน้าตากล้ามเนื้อหน้าทุกส่วนเค้าทำงานได้ดีมาก อารมณ์ความฮาขึ้นสุดลงสุด เราเห็นเองก็คือหลุดขำหลายรอบมาก อยากจะให้ทุกคนได้ดูจริง ๆ จูนเชื่อว่าช่วงที่เครียด ๆ กับหลาย ๆ เหตุการณ์แบบนี้ ละครเรื่องนี้จะเป็นตัวช่วยได้ดีสำหรับทุกคนแน่นอน ที่สำคัญสนุกจุใจแบบ 2 ชั่วโมงเต็มๆเลยค่ะ”