"เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม" ภูมิใจนำเสนอ "ซอมทาง" ผลงานเพลงแรกในชีวิตที่แต่งเอง ร้องเอง กำกับเอ็มวีเอง

เป็นศิลปินมากความสามารถที่สร้างสรรค์ผลงานมามากมาย ทั้งร้องเพลง สวมบทพิธีกร เล่นละคร แสดงภาพยนตร์ หรือรับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ไอคอนโมเดิร์นอีสาน "เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม" (อาทิตย์ สมน้อย) ได้โชว์ฝีมือการเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอเพลง "ซอมทาง" ซิงเกิลล่าสุดที่ทั้งแต่งเองร้องเองในภาษาอีสาน

ซึ่งหมายถึงการมองรอคอยความหวังที่อยู่ปลายทาง ด้วยความภูมิใจนำเสนอมุมของลูกอีสานที่ไปสู้งานในต่างถิ่น และไม่ได้เจอพ่อแม่พี่น้อง ยิ่งในสภาวการณ์โรคโควิด-19 ที่ทำให้ต้องห่างไกล ในอารมณ์ความรักที่แตกต่างไปจากชายหนุ่มหญิงสาว หากแต่เป็นความคิดถึงความห่วงใยของคนในครอบครัว โดย “หนุ่มเบิ้ล” ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทใหม่ในครั้งนี้ว่า

เล่าเรื่องราวใน MV ซอมทาง?

“ผมผสมผสานเรื่องราวของตัวเองในชีวิตจริงเข้าไปในเอ็มวีด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นความขยันของพ่อ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการดูแลครอบครัว ชีวิตที่ไม่ได้สบายในตอนเด็ก รวมถึงซีนที่มีสร้อยทองที่แม่มอบให้ อันนั้นก็เอามาจากชีวิตจริง แล้วก็ซีนที่ปูหนีบเราฟ้องแม่ เหมือนผมจะกำลังจะสื่อสารว่าตอนเป็นเด็กนี่นิดๆ หน่อยๆ เราจะบอกแม่ตลอด แต่พอโตมาเจอปัญหาที่ใหญ่เราไม่เคยบอกเพราะเรากลัวท่านคิดมาก”

ในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ ได้นำเสนออะไรใน MV ซอมทาง ที่คิดว่าแตกต่างจากเพลงที่ผ่านๆ มา?

“ในฐานะผู้กำกับมือใหม่ที่ได้ทำงานกับ อาร์สยาม ผมใส่อะไรไปในเอ็มวีเยอะมากครับ ด้วยความที่เราอยู่เบื้องหลังในการทำหนังภาพยนตร์มา 2-3 ปี ผมก็ใส่ความเป็นภาพยนตร์ ใส่ซีนความเป็นชีวิตมนุษย์ ความ Real คุณจะเห็นความเป็นธรรมชาติของชีวิตแม่ลูกและครอบครัว รวมถึงตัวของคุณพ่อด้วยครับ การสูญเสียคุณพ่อตั้งแต่เด็กมันคือการที่ผมต้องการขยี้ให้พระเอกมีความสนิทสนมกับแม่ให้มากขึ้น คุณจะเห็นความทุกข์ความสุขรอยยิ้ม และเสียงทรมานหัวใจของตัวละคร ผมนำเสนอไล่ไปทีละนิดๆ ตามความรู้สึกในความเป็นจริง”

เล่าถึงบรรยากาศการถ่ายทำ MV ที่ใช้เวลาถึง 2 วัน?

“บรรยากาศการถ่ายทำสองวันผ่านไปด้วยดีครับ เพราะว่าผมคิดเรื่องมาจนจบแล้ว ในวันถ่ายผมก็เลยถ่ายสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้น แล้วเก็บเผื่อไว้ประมาณ 10 ซีน เวลาการทำงานก็เลยลงตัว ผมสามารถทำงานด้วยความตื่นสายได้ ทำงานแบบสบายไม่กดดันทีมงาน มีแต่รอยยิ้ม และยังควบคุมการตัดต่อเอง ทำเองทุกอย่างครับไม่ว่าจะเป็นนั่งคัดภาพ หรือวางตัวละครให้ตรงกับจังหวะของเพลงเสียน้ำตาต่างๆ”