สาวจ.เลย โวย โดนสวมสิทธิฉีดวัคซีนโควิด พบเป็นต่างด้าวอาศัยใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ สวมสิทธิบัตรประชาชน ด้านจนท.เผย เร่งขยายผลจับกุมขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พิชัย บังเมฆ พงส.สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีหญิงสวมบัตรมาฉีดวัคซีน จึงรายงานให้พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.ฝาง พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ตงศิริ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.พิบูลย์พันธ์ สุขุมานนท์ สว.ธุรการช่วยราชการงานสืบสวน จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ฝาง ติดตามจับกุม นางยา ไม่ทราบนามสกุล หลังมีการแจ้งความที่ จ.เลย ใช้บัตรประชาชนสวมสิทธิ์เข้าฉีดวัคซีน astrazeneca เข็มที่ 1 ตรงกัน 2 เข็ม ในวันที่ 4 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา

โดย จนท.เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งให้มีตรวจสอบหลังมีการ เข้าฉีดวัคซีน astrazeneca เข็มที่ 1 ในวันที่ 4 พ.ย. 2564 จำนวน 2 เข็ม พบข้อมูลพร้อมกันใน 2 พื้นที่ โดยที่ผู้เสียหายเข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเอราวัณ จ.เลย และมีชื่อและนามสกุล เดียวกันเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 astrazeneca ที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการติดต่อไปยังผู้เสียหายตามชื่อ นามสกุล และบัตรประชาชน ทางผู้เสียหายนางเบญจวรรณ ทรายเพชร อายุ 28 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เอราวัณ ต.ผาอินทร์แปลง อ.วังสะพุง จ.เลย ในวันที่ 11 พ.ย. 2564 โดยระบุว่า ไม่เคยมาในพื้นที่อ.ฝาง และได้เข้าไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งทางสภ.เอราวัณ เพื่อให้ประสานสภ.ฝางในการติดตาม

ต่อมาทางสภ.ฝาง ได้ติดตามข้อมูลของหญิงดังกล่าว ทราบว่าทางรพ.ฝาง ได้มีการนัดผู้ที่ฉีดวัคastrazeneca ในวันที่ 4 พ.ย. 2554 เข็มที่ 1 ให้กลับมาฉีดวัคซีน astrazeneca เข็มที่ 2 ที่จุดฉีดวัคซีน รพ. สต. แม่งอน อ.ฝาง ในวันที่ 2 ธ.ค. 2564 ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยังจุดฉีดวัคซีน พื้นที่ต.แม่งอน และเข้าทำการจับกุมนางยาได้ในระหว่างที่ทำการยื่นเอกสารเพื่อทำการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ. ฝางได้นำตัวนางยามาทำการสอบสวนถึงที่มาของบัตรว่าได้มาอย่างไร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และจะได้ทำการสอบสวนสืบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในการได้มาของบัตร

โดยนางยา ระบุว่าได้บัตรประชาชนชื่อของผู้เสียหายมาในปี 2560 ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาโดยก่อนหน้านี้ใช้พาสปอร์ตในการทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งพ่อของนางยาเป็นคนที่ติดต่อทำบัตรเสียเงินในการทำบัตรครั้งนี้ให้ประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งไม่ทราบว่าทำที่ไหนและได้มาอย่างไร เพราะหลังจากทางพ่อไปทำบัตรใหม่มาให้ใช้ก็ทิ้งบัตรเก่าไปโดยไม่รู้ที่มาของการติดต่อทำบัตรที่ได้มา ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านดงปัญจะ ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หลังจากนี้ จนท.จะได้ทำการขยายติดตามขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในการสวมบัตรต่อไป