บก.ปคบ.ผู้บริโภค เตือนภัยระวังถูกพ่อค้าหัวใสย้อมเเมว ผสมไก่กับหมู หลอกขายตามตลาด หลังราคาหมูพุ่งสูง พร้อมเเนะ 5 วิธีเเยกง่าย ๆ 
 
 
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พบปัญหาเรื่องราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น จากต้นทุนประกอบการที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ยารักษาโรค และโรคระบาดหมู ส่งผลให้หมูในระบบมีปริมาณลดลง ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงมีราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันการที่ภาคบริการ การท่องเที่ยว ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้มากขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคหมูโดยรวม กลับมาเพิ่มมากขึ้น นั้น
 
วันที่ 4 ม.ค. 2565 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เผยเเพร่เนื้อหาเตือนภัย โดยพบว่า ขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งเข้ามาในประเทศไทย โดยสำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าชนิดอื่น มีการจัดจำหน่ายทั้งแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลักลอบมาจากต่างประเทศ และกระจายสินค้าเพื่อจำหน่ายปะปนกับเนื้อสุกรไทย เรื่องนี้ถือเป็นการบ่อนทำลายภาคอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของประเทศ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องรวมแล้วกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี และเสี่ยงเรื่องโรคสุกรที่อาจติดมากับผลิตภัณฑ์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งไม่มีใบขออนุญาตนำเข้าซากสัตว์ และไม่ผ่านการกักตรวจโรคก่อนนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 รวมถึงความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสารเร่งเนื้อแดงที่ถือเป็นสารต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 เนื้อสุกรแช่แข็งที่ลักลอบนำเข้ามานี้จึงถือเป็น “มหันตภัย” ต่อผู้บริโภคชาวไทย ต่อพี่น้องเกษตรกร และทำลายเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง
 
อีกทั้งยังมีพ่อค้าหัวใสแอบนำเศษเนื้อไก่หนังไก่บดมาผสมเนื้อหมู หลอกขายเป็นเนื้อหมูบดตามท้องตลาดโดยนำหมูบดมาขายในราคากิโลกรัมละแค่ 80-100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปอย่างมาก เมื่อดูเผิน ๆ ก็เหมือนเนื้อหมูบดทั่วไป โดยมีทั้งสีแบบเนื้อแดงและสีขาวออกแบบมันหมู แต่เมื่อตักใส่ลงในน้ำร้อนเนื้อทั้ง 2 ชนิดกลับแยกจากกัน โดยเนื้อที่เห็นคล้ายมันหมูจะแตกออก แล้วลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ พบว่าเป็นหนังไก่บ้าง เป็นมันไก่บ้าง หรือแม้แต่เอ็นไก่ก็มี ส่วนเนื้อที่จมอยู่มีบางส่วนกลายเป็นสีขาวพบว่าเป็นเนื้อไก่ บางส่วนยังแดงอยู่เป็นเนื้อหมู ซึ่งเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
 
ข้อแนะนำวิธีการแยกระหว่างเนื้อหมู และเนื้อไก่ง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้จริง ดังนี้
 
1.สังเกตที่สีของเนื้อ ซึ่งเนื้อหมูจะมีสีจะมีสีชมพูไม่ซีดเกินไป และสีไม่แดงจนเกินไป ต่างจากเนื้อไก่ที่จะมีสีส้มแดงระเรื่อ
 
2.สังเกตจากเส้นใยของเนื้อ โดยเนื้อไก่จะมีเส้นใยเนื้อเป็นริ้วลึกตามแนวยาว สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะที่เนื้อหมูจะมีริ้วน้อย และเนื้อจะเรียบกว่า ซึ่งเวลาหั่นเนื้อจะเห็นได้ชัด
 
3.สังเกตจากไขมัน โดยไขมันหมูจะชุ่มและแทรกกระจายเข้าไปในเนื้อ ขณะที่เนื้อไก่จะไม่มีมันแทรกในเนื้อ
 
4.การต้ม เนื้อไก่บดจะมีความเหลวกว่า และขาดได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับเนื้อหมูบด ซึ่งหากว่าเนื้อบดที่เราซื้อมามีเนื้อไก่ผสมอยู่นั้น เวลาต้มแล้วจะมีลักษณะเหลวจับตัวเป็นก้อนได้ยากกว่าหมูบดทั่วไป
 
5.เลือกซื้อเนื้อหมู และเนื้อไก่จากร้านที่มีใบรับรองปศุสัตว์โอเค หรือ ป้ายเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ป้าย Q
 
เพิ่มเติม : เครื่องหมายรับรอง Q หมายถึง เครื่องหมายรับรองที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศใช้เพื่อแสดงถึงการให้การรับรองสินค้าเกษตรและอาหาร ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่ประกาศโดยหรือได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ในด้านความปลอดภัยอาหาร (food safety) และด้านคุณภาพที่จำเป็น (essential quality)
 
ในกรณีที่พบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามความผิดที่พบ เช่น
 
ความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 47 ผู้กระทำผิดมีเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 มาตรา 38 จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มิได้รับรองให้จำหน่าย โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง โทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ทั้งนี้หากพบเบาะแสที่เข้าข่ายการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถแจ้งเรื่องผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือกรมปศุสัตว์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง