เหล่าศิษยานุศิษย์โพสต์อาลัย หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา หลังมรณภาพอย่างสงบเช้านี้ (9 ม.ค. 2565) สิริอายุ 85 ปี

 

(9 ม.ค. 2565) พระปลัดตรีพรหมรักษาการณ์ เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.30 น. พระครูวิชัยกิจจารักษ์ (หลวงพ่ออุดมอุตฺตมปญฺโญ) เกจิสายพัฒนา ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ หลังจากมีอาการป่วยโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคไต ต้องฟอกไตอย่างต่อเนื่อง และรักษาตัวในโรงพยาบาล ก่อนกลับมาพักที่กุฏิภายในวัดพิชัยสงคราม โดยช่วงเวลา 06.30 น. พยาบาลที่เฝ้าดูอาการได้มาเรียกหลวงพ่ออุดมเพื่อให้ฉันภัตตาหารเช้า แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้เขย่าตัวพบว่าหลวงพ่ออุดมได้ละสังขารแล้ว จึงแจ้งรักษาการเจ้าอาวาส

สำหรับพระครูวิชัยกิจจารักษ์ ได้บรรพชาเป็นสามเณรกับพระครูศีลกิตตุคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติการาม เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2494 โดยสามเณรอุดมได้ศึกษาหาความรู้และศึกษาพระกัมมัฏฐานกับท่านอาจารย์จาบสุวรรณ วัดประดู่ทรงธรรม ต่อมา เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ สามเณรอุดมได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2499 โดยมีพระครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการทองดำปิยกโร วัดพิชัยสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เฉลิม เขมทสฺสี วัดพระญาติการาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "อุตตมปญฺโญ" แปลว่า ผู้อุดมไปด้วยสติปัญญา กระทั่งวันที่ 24 ก.ย. 2511 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ได้รับพระราชทานนาม 'พระครูวิชัยกิจจารักษ์' ด้วยความเมตตา ความเอื้ออาทรช่วยเหลือชาวบ้านทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จึงมีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากราบไหว้เป็นประจำ

หลวงพ่ออุดม ยังได้พัฒนาศาสนสถานต่าง ๆ ในวัด อาทิ งานบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ งานสร้างถนนเข้าวัด เมรุเผาศพ เทพื้นรอบอุโบสถ สร้างศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิ ศาลาอเนกประสงค์ หอฉัน โรงเรียนพระปริยัติธรรม รั้วกำแพงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตำหนักพระเจ้าตากสิน ศาลวีรชน เขื่อนกั้นน้ำ และถาวรวัตถุอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และคุมสอบธรรมศึกษา ตั้งทุนสนับสนุนพระภิกษุสามเณรในการศึกษาธรรม เนื่องจากเป็นเณรอยู่มา 3 พรรษา หลังจากนั้นจึงได้บวชเป็นพระรวม 66 พรรษา และยังเป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ให้ความรู้ธรรมะแก่เยาวชน

ขณะที่ลูกศิษย์หลวงพ่ออุดม กล่าวว่า ก่อนหน้าที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ช่วงประมาณ 03.00 น. ฝันว่าหลวงปู่มาเรียก และบอกว่า "จะไปแล้วนะ" และจะไม่อยู่ พอมารุ่งเช้าก็พบว่าหลวงปู่มรณภาพแล้ว รวมทั้งลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คืนก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพนั้น นอนไม่หลับ เมื่อมาทราบข่าวช่วงเช้าว่าหลวงพ่อมรณภาพ จึงรีบเดินทางมา

อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป หากจะเดินทางมายังวัด ขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนวันนี้ยังไม่มีการรดน้ำศพ เนื่องจากต้องรอการเตรียมการจากเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล โดยจะมีการรดน้ำศพหลวงพ่ออุดม ในช่วงเย็นพรุ่งนี้ (10 ม.ค. 2565)