ทำเอาแฟน ๆ อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อทราบข่าวว่า นางเอกชื่อดัง ยุ้ย-จีรนันท์ พร้อมสามี ธันน์-ธนากร ติดโควิด-19 ซึ่งทั้งสองก็ได้รีบเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที
ล่าสุดตอนนี้สาวยุ้ย หายจากอาการป่วยดังกล่าวและเดินทางกลับไปกักตัวต่อที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้สาวยุ้ยจึงออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าว พร้อมยังบอกอีกว่า ถึงตัวเองจะป่วยนอนโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทิ้งงาน เลยถือโอกาสนี้ เฝ้าจอเช็คกระแสละคร “ร่านดอกงิ้ว” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง8 ที่กำลังออกอากาศทุกวันจันทร์ -พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. อยู่ตลอด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปฟังจากปากสาวยุ้ยกัน
ประสบการณ์ป่วยโควิดเป็นอย่างไรบ้าง?
น่าจะเป็นเชื้อโอไมคอน เป็นไข้ 1 วัน เจ็บคอมากหน่อยไม่เป็นอะไรมากค่ะ มีไอ น้ำมูกนิดหน่อย มีทานยา3-4วัน และ5 วันเชื้อก็เริ่มหมด มีอาการอะไรคุณหมอก็ให้ทานยาตามอาการ และกักตัวต่อ10กว่าวันค่ะ
ดูแลตัวเองอย่างไร?
ทานยาตามที่คุณหมอให้ครบโดส ดูแลตัวเอง และป้องกันตัวเองการ์ดอย่าตก ถึงแม้เราจะเป็นแล้ว ภูมิจะสูง เราก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะคุณหมอบอกว่า เราไม่ติด แต่เราก็อาจเป็นพาหะเอาเชื้อมาปล่อยได้ ก็ต้องดู และป้องกันตัวเองเป็นพิเศษมากขึ้น เพื่อคนรอบข้าง ก็คงต้องบำรุงตัวเอง ทานวิตามินต่างๆ พักผ่อนให้เพียงพอค่ะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกความเป็นห่วงให้กับยุ้ยกับธันน์ อยากให้ทุกคนต้องดูแลตัวเองให้มาก ระบาดหนักมากจริงๆช่วงนี้ ถึงแม้เราจะป้องกันตัวเอง เพราะเราเองต้องออกจากบ้านทำงาน เจอคนมาก เราก็ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ยิ่งตอนนี้ยุ้ยเป็นห่วงคุณแม่มาก เพราะคุณแม่มีโรคประจำตัว กลัวจะเป็นพาหะมาให้คุณแม่ ดังนั้นต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าเดิมค่ะ
เป็นโรคที่ต้องอยู่คนเดียว ใครเยี่ยมไม่ได้ เหงาไหม?
จริงๆถ้าอยู่คนเดียวเหงามากแน่ๆ แต่เราโชคดีที่อยู่กับธันน์ เพราะเป็นด้วยกัน นอนพักห้องเดียวกัน แต่เหงามาก เราไม่อยากมานอนอยู่แบบนี้เป็น10วัน เหงาจริงๆ แต่เพื่อนๆส่งของกิน ของเยี่ยมมาให้เยอะมาก เราก็ต้องฝากขอบคุณตรงนี้ด้วย จริงๆเราคิดถึงคุณแม่ สุนัขที่เราเลี้ยงมากๆ แต่ก็มีสิ่งดีในระหว่างเรารักษาตัว ยุ้ยก็ได้มีโอกาสดูละครเช็คกระแสต่าง ๆ มากขึ้น ทางช่อง 8 ก็จะมีไลฟ์สดทางเพจเราก็เข้าไปทักทายพูดคุยกับ ๆ แฟน ๆ ก็ได้เห็นฟีดแบควันนั้นในทันที ก็ถือว่าเป็นการทักทายแฟน ๆ และทำให้เค้ารู้สึกอินไปกับละครมากขึ้น ต้องขอบคุณแฟนๆที่ให้การตอบรับละครร่านดอกงิ้วเป็นอย่างดี ยุ้ยเองดีใจมากที่แฟนๆชื่นชอบ ถามว่าบทนี้ยากสำหรับยุ้ยไหม ก็ยากค่ะ เพราะว่ายุ้ยต้องเล่นตั้งแต่ช่วงที่เป็นเด็ก แล้วก็ต้องเก็บทุกอย่าง เรื่องนี้เป็นดราม่าที่หนักมากๆ ดราม่าตั้งแต่ถ่ายทำวันแรกจนวันสุดท้าย แล้วยากตรงที่ บทมันค่อนข้างเก็บกด แล้วเราต้องแสดงออกถึงความรัก และโกรธแค้น ชิงชัง รวมถึงอารมณ์รักที่แสดงออกไม่ได้ หลายๆอย่างรวมอยู่ในตัวสร้อยสนทั้งหมด ท้าทายมากค่ะ ด้วยอายุของยุ้ยตอนนี้ จะมาให้เราเล่นเป็นลูกสาวกำนัน หรือบทใสๆก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นบทที่ยุ้ยได้รับแต่ละเรื่อง มันจะค่อนข้างท้าทาย แต่ถามว่ามีความสุขไหม ยุ้ยมีความสุขที่จะเล่นนะ ถ้าบทไม่มีอะไรเลย ยุ้ยก็ไม่เล่นเหมือนกัน ยิ่งบทยาก เราก็ยิ่งมีการพัฒนามากขึ้น
กลัวคนแยกแยะไม่ได้ ติดภาพจำเราในบทแรงๆแบบนี้หรือเปล่า?
ถ้ากลัวคนจะจำภาพหรือไปทางลบยุ้ยว่าไม่นะ ยุ้ยเชื่อว่าคนดูอาจจะว้าวกับละครเรื่องนี้ ด้วยความที่ยุ้ยอาจจะไม่เคยเล่นละครที่แรง หรือไม่เคยได้เล่นอะไรขนาดนี้ เพราะเชื่อว่าคนดูสมัยนี้ เขาจะอินกับบทละครมากกว่า แต่ก็อาจจะตกใจนิดหน่อยว่า บทเรื่องนี้มันแรงขนาดนี้เลยหรอ แต่ยุ้ยเชื่อว่าคนก็ต้องชอบ เพราะมันไม่ได้สื่อไปเรื่องนั้นอย่างเดียว แต่มันสื่อไปในหลายๆเหตุผลที่มีในทุกตัวละคร ซึ่งเป็นตัวอย่าง และแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมโดยเฉพาะเรื่องของความรัก ความแค้น การชอบเอาชนะ ครอบครัว และความเลื่อมล้ำกันในสังคม ซึ่งยุ้ยเองมองว่า บางครั้งเรื่องในละครก็มาจากเหตุการณ์จริงก็มี ดังนั้นดูละครย้อนดูตัวเอง ให้ละครเป็นครูสอนเราดีกว่า อยากจะให้ทุกคนได้ชม อย่างที่บอกว่าคุ้มค่าแน่นอน นอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้ว ยังจะได้สาระ ได้แง่คิด ได้คำสอนจากทุกๆตัวละคร ที่เราแฝงเอาไว้ ในทุกๆฉากด้วยค่ะ