'ไพบูลย์' แจงขับ 21 ส.ส.ก๊วน 'ธรรมนัส' พ้น พปชร.เป็น วิวัฒนาการใหม่ ทำพรรคสูง มั่นคง มีเสถียรภาพกว่าเดิม ปัดตอบปมต่อรอง 'ล้มประยุทธ์-ทวงเก้าอี้ รมต.' ยังแทงกั๊ก คนนั่งเก้าอี้เลขาฯ ใหม่
วันที่ 20 ม.ค. 2565 นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐมีมติด้วยเสียง 63 เสียง จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 78 คน ซึ่งเกิน 3 ใน 4 ของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมตามกฎหมาย เพื่อขับ 21 ส.ส.ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ได้มีการเคลื่อนไหวขอปรับโครงสร้างพรรค ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงและพรรคไม่สามารถปฏิบัติตามได้ แต่กลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส ก็ยังคงขู่ว่าจะดำเนินการอะไรบางอย่าง ทำให้เกิดปัญหา และเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ จนส่งผลต่อเสถียรภาพของพรรคได้ ดังนั้น จึงมีมติขับทั้ง 21 คนออกจากพรรค
ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องการขอเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น นายไพบูลย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้ โดยระบุเพียงว่า ไม่ทราบ แต่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเหตุร้ายแรงที่กระทบต่อเสถียรภาพและอุดมการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องความขัดแย้งภายในพรรค และเชื่อว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องยุบสภาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แม้ไม่มี ร.อ.ธรรมนัสแล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐก็ยังแข็งแรงอยู่ เพราะยังเหลือ ส.ส.อีกร้อยคน ซึ่งจำนวน ส.ส.ไม่สำคัญ เท่ากับความมั่นคงและความสามัคคีในพรรค และเชื่อว่า ส.ส.ที่เหลืออยู่ ยังมีสปริตเพียงพอ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ พร้อมไม่กังวลเรื่องสภาล่ม เพราะยังไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้น ส่วนกลุ่มที่ออกจากพรรคแล้ว จะสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่นั้น ก็ให้ไปถามเอาเอง ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเสียงของรัฐบาล
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่า พลเอกประวิตรไม่สบายใจ และคิดว่า การเคลื่อนไหวปรับโครงสร้างพรรคเป็นเหตุร้ายแรง จึงเป็นเหตุผลของการขับสมาชิกพรรค ซึ่งหลังจากนี้ พลเอกประวิตรให้เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคในการดำเนินการ
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนใหม่ ต้องรอประชุมเพื่อเลือกตัวบุคคลอีกครั้ง แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า การประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐเพื่อเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่จะมีขึ้นเมื่อไหร่ และยังไม่ทราบว่ามีคนใดจะมาแทน ร.อ.ธรรมนัส แต่มั่นใจว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ จะทำให้พรรคมีเอกภาพ มั่นคง และมีเสถียรภาพทางการเมืองมากขึ้น
ส่วนเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ถือเป็นวิวัฒนาการของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่จุดแตกหักสักทีเดียว แต่เป็นจุดที่ต้องตัดสินใจของพรรค พร้อมยืนยันว่า พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค ยังเป็นสมาชิกอยู่ และไม่ตอบว่า จะมีการตั้งพรรคใหม่หรือไม่เพื่อรองรับทั้ง 21 คนหรือไม่
สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ พรรคจะเตรียมเอกสารส่งไปยัง กกต. ซึ่งตามกฎหมายนั้น ทั้ง 21 ส.ส.จะต้องหาพรรคใหม่สังกัดให้ได้ภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้น จะพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ทันที ดังนั้น ในเวลานี้ ทั้ง 21 ส.ส.ยังถือว่า มีสมาชิกภาพ ส.ส.อยู่ จนกว่าจะครบ 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้มีทั้งหมด 475 คนที่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ โดยมี ส.ส.ฝั่งรัฐบาล 267 คน ฝ่ายค้าน 208 คน องค์ประชุมจะต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งหรือเท่ากับ 238 คน ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากพรรคพลังประชารัฐเรื่องการขับ ส.ส.ออก 21 คน ทำให้ยังไม่ลบชื่อทั้ง 21 คนออกจาก ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้