"ไพบูลย์" ซัดคนดิ้นให้ยุบสภาฯ บอกทนไม่ไหว ก็ลาออกไปก่อน ชี้แพ้เลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร แค่เขตเดียว จะนำมาตัดสินคะแนนนิยม พปชร. -นายกฯ ไม่ได้ มั่นใจเวลาที่เหลือปีกว่า ส.ส.พรรค เข้าไปอยู่ในใจประชาชนได้แน่นอน

 

วันที่ 2 ก.พ.2565  นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร ที่พรรคพลังประชารัฐแพ้ราบคาบ ถือว่าคะแนนนิยมของพรรคและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลดลงแล้วใช่หรือไม่ ว่าการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร เป็นเพียง 1 เขตเลือกตั้ง ใน 400 เขตเท่านั้น ดังนั้น เขตเดียว จะมาตัดสินอีก 399 เขต ไม่ได้ อีกทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังมี ส.ส.อีก 11 คน ซึ่งมั่นใจในส่วนนี้ ประกอบกับบริบทของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตก็แตกต่างกัน แต่ก็ยอมรับว่า เขตหลักสี่-จตุจักร จะเป็นข้อมูลให้พรรคต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดูแลประชาชน โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องรอไปอีกปีกว่า ซึ่งก็จะทำให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ มีเวลาเข้าไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าจะสามารถใช้เวลาที่เหลือเข้าไปอยู่ในใจของประชาชนได้อย่างแน่นอน

นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พลประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภา ว่า "ก็เห็นเรียกร้องกันมา 3 ปีแล้ว และก็คงจะเรียกร้องต่อไปจนถึงปีที่ 4 แต่ยืนยันพรรคพลังประชารัฐ สามารถเดินหน้าต่อไปได้อยู่แล้ว ขณะที่ปัญหาย่อมมีเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าพรรคจะแตก พร้อมมองว่า พรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม ยอมเป็นปฏิปักษ์กับเราอยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่าหากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ปรับเปลี่ยนการทำงาน การเลือกตั้งครั้งถัดไป จะได้ ส.ส.ต่ำกว่า 50 คน ก็เป็นการพูดให้ร้ายคู่แข่ง เป็นการดิสเครดิตกันเท่านั้น"


"ก็บอกแล้วครับ พรรคการเมืองมีการแข่งขันกัน ก็จะพูดจาให้ร้ายกับพรรคที่ตัวเองคิดว่าจะเป็นคู่แข่งที่มีความสามารถ ก็เป็นการดิสเครดิตกันทางสื่อ พูดกันไป แต่พรรคพลังประชารัฐ เราไม่ทำแบบนั้น เราก็เน้นการทำงานจริงจังให้กับประชาชน... ส่วนผู้ที่เรียกร้องให้ยุบสภาผมเห็นใจ เรียกร้องมาตั้งแต่ปีแรกแล้ว ผมหวงว่าท่านจะอึดอัด จนกระทั่งทนไม่ไหว แต่ถ้าทนไม่ได้จริง ๆ ก็ลาออกไปก็ได้ ไม่เป็นไร"

 

ส่วนกรณีที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน” จะมีความกังวลหรือไม่ว่า ส.ส.ทั้ง 21 คนจะไม่อยู่ฝั่งเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าไปคิดเยอะ เพราะเป็นเรื่องของการเมือง ก็พูดกันไปไม่มีสาระที่จะเอามาเป็นประเด็น พรรคพลังประชารัฐ มีงานอีกเยอะที่จะต้องทำพร้อมมั่นใจว่า ไม่กระทบต่อเสถียรภาพของพรรค