ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เผย การฉีดวัคซีน mRNA ในวัยรุ่น 12-15 ปี เสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงถึง 10 เท่า ทั้งนี้การวินิจฉัยทำได้ค่อนข้างยาก เพราะอาการมีไม่มาก บางรายหายได้เอง แต่อย่างไรการได้รับวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญ ให้สิทธ์ผู้ปกครองตัดสินใจ

 

วันที่ 6 ก.พ. 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า วัคซีนโควิด- 19 การเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังให้วัคซีน mRNA ในวัยรุ่น

เป็นที่ทราบกันดีว่าวัคซีนมีความจำเป็น ในการป้องกันลดความรุนแรงของโรค covid 19 จากการศึกษาในอิสราเอล เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ หรือ NEJM (26 มกราคม 2565) เกี่ยวกับการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตามหลังการให้วัคซีน Pfizer ในวัยรุ่น อายุ 12-15 ปี จำนวนประมาณ 400,000 คน สำหรับเข็มแรก และประมาณ 320,000 สำหรับเข็มที่ 2 โดยเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายเล็กน้อย ข้อมูลที่ได้พบเช่นเดียวกับการศึกษาในอดีต คือการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเกือบทั้งหมด จะเกิดขึ้นในเข็มที่ 2 และพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงมาก

การเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล ในเด็กผู้ชาย หลังเข็ม 2 วัคซีน Pfizer จะพบ 1 ใน 12,361 ในการได้รับเข็ม 2 ส่วนเด็กผู้หญิง จะพบน้อยกว่ามาก พบในอัตรา 1 ใน 144,439 หรือน้อยกว่ากันเป็น 10 เท่า

การวินิจฉัยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะถูกแบ่งเป็น สงสัย น่าจะเป็น และยืนยันการเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในการยืนยันการเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะต้องอาศัย การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรือ การตรวจ echo ที่ชัดเจนมาก หรือ MRI หัวใจ หรือ การตรวจชิ้นเนื้อจากการใส่สายตัดมาตรวจ ดังนั้นข้อมูลที่แท้จริงถึงกับยืนยัน คงจะได้น้อยกว่าความเป็นจริง เพราะการเกิดการอักเสบ จำนวนมากมีอาการไม่มาก และหายได้เอง

ภาพที่แสดงการยืนยัน เป็นรูปที่ได้จากการตรวจเด็กไทยหลังได้รับวัคซีน pfizer และตรวจยืนยันว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะ echocardiogram และ MRI ภาพ echo จะเห็นนํ้าอยู่ ในเยื่อหุ้มหัวใจ (pericarditis)

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โรคโควิด-19 ยังคุกคามอย่างหนัก การให้เด็ก และวัยรุ่นได้รับวัคซีน ยังมีประโยชน์ในการป้องกันความรุนแรงของโรค
การตัดสินใจจะรับวัคซีนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองโดยชอบธรรมในการตัดสินใจ ที่ได้ข้อมูลครบถ้วน