ซีอีโอ "โมเดอร์นา" เผย มีเหตุผลให้น่าคิดว่า "วิกฤตโควิด-19" อาจจะมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว เดินหน้าขยายบริษัทมาฝั่งเอเชีย ด้านผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ชี้ "มันยังไม่ใกล้เลย อาจมีสายพันธุ์ใหม่โผล่อีก"

 

17 ก.พ. 2565 สำนักข่าว CNBC รายงานผ่านเว็บไซต์ว่า ประธานกรรมการบริหารบริษัทโมเดอร์นา "สเตฟาน บ็องเซล กล่าวว่า มีเหตุผลที่ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า วิกฤตโรคระบาดนี้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว ฉันคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีเหตุมีผล" เขาบอกกับ Asia Squawk Box รายการข่าวธุรกิจโทรทัศน์ในสำนักข่าว CNBC Asia 

และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับมุมมอง ถึงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 อาจจะเดินทางมางช่วงสุดท้ายแล้วหรือยัง สเตฟาน กล่าวว่า "มันมีโอกาสถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการวิวัฒนาการของโอไมครอน หรือไวรัสซาร์ส-โควี-2 และความรุนแรงของเชื้อไวรัสลดน้อยลง"  "ยังมีอีก 20 เปอร์เซนต์ ที่เราอาจจะได้เห็นการกลายพันธุ์ใหม่ต่อไป ซึ่งมีความรุนแรงยิ่งกว่าโอไมครอน ทั้งนี้ ผมคิดว่า โลกของเราโชคดีมาก ที่โอไมครอนไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงเห็นคนเป็นพัน ๆ ที่เสียชีวิตจากโอไมครอนอยู่ทั่วทุกมุมโลก" เขากล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ องค์กรอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกในรอบ 7 วัน กว่า 15.47 ล้านราย และในขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตกว่า 73,162 ราย บางการศึกษา พบว่า ได้มีการติดต่อของเชื้อมากขึ้น ในระหว่างที่โอไมครอนกำลังระบาด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยเท่ากับสายพันธุ์เดลตา ในขณะที่สาธารณสุขเน้นว่า โอไมครอนอาจจะกำลังค่อย ๆ หายไป

ด้าน ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเตือนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า "มันอันตรายที่จะคาดการณ์ว่า วิกฤตการณ์โรคระบาดนี้กำลังจะจบลง ในความเป็นจริง มันไม่ใกล้เลย" และยังได้เตือนอีกว่า "สายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอย่างโอไมครอนอาจจะโผล่มาอีกได้"

ส่วน นพ.แอนโทนี เฟาชี (Anthony Fauci) หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังได้กล่าวว่า "ยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบว่า โอไมครอน ได้มาถึงช่วงสุดท้ายของการระบาดแล้ว"

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัท โมเดอร์นา ประกาศว่า ได้เริ่มทำการวิจัยทางคลินิก เพื่อที่จะศึกษาด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่มีเป้าหมายเพื่อสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ ซึ่งผู้เข้าร่วมการทดลองคนแรกได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับโอไมครอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านบริษัท คาดหวังที่จะเปิดให้ลงทะเบียน 600 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ อายุ 18 ปี และอายุ 18 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายบริษัทมาทางฝั่งทวีปเอเชีย "เหตุผลที่เราต้องการขยายบริษัทมาที่ทวีปเอเชีย เนื่องจากความสำคัญของภูมิภาคนี้" เขาเผยกับสำนักข่าว CNBC "ซึ่งความจริงนั้น ไวรัสชนิดนี้ไม่มีทางหายไปได้ ตามที่เราได้เคยพูดเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ไวรัสชนิดนี้จะอยู่กับมวลมนุษยชนตลอดไป เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ และเราก็ต้องอาศัยอยู่กับมัน" บ็องเซล กล่าวว่า "การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียนั้นน่าตื่นเต้นมาก ๆ และทางบริษัทตั้งใจที่จะเปิดบริษัทในเครือใหม่ในประเทศมาเลเซีย, ไต้หวัน และฮ่องกง
วัคซีน mRNA ของโมเดอร์นา ยังไม่สามารถใช้การได้ในฮ่องกง ซึ่งทำให้เห็นการติดเชื้อเป็นจำนวนมาก" บ็องเซลกล่าวว่า "ขณะนี้กำลังทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้รับการอนุมัติ"