ครม. อนุมัติวงเงิน 150.69 ล้านบาท แก้โควิด -19 ในเรือนจำทั่วประเทศ ขณะที่ราชทัณฑ์รายงาน พบผู้ติดเชื้อใหม่ 31 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 23 ลุยฉีดวัคซีนแล้วกว่า 2.4 แสนราย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติการแก้ไขปัญหาการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานวงเงินรวม 150.69 ล้านบาท เพื่อให้กรมราชทัณฑ์นำไปจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ที่จำเป็นต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาการระบาดโรคโควิด-19 จำนวน 19 รายการ ให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 162,000 ตัว, หน้ากากอนามัย N95 162,000 ชิ้น, ถุงมือยาง 540,000 คู่ และชุดตรวจ ATK จำนวน 454,674 ชุด นอกจากนี้ ยังมีแอลกอฮอล์น้ำ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว น้ำยาตรวจหาเชื้อไวรัส(น้ำยา PCR ) เป็นต้น เพื่อแจกจ่ายให้กับเรือนจำและทัณฑสถานที่มีความจำเป็นต้องใช้แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.พ. 2565 เวลา 16.00 น.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 31 ราย ทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรค โดยไม่พบผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำสีแดง จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,010 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 82.5% กลุ่มสีเหลือง 17.2% และกลุ่มสีแดง 0.3% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,386 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 89,907 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 23 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 190 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด โดยในวันนี้ พบเรือนจำอำเภอตะกั่วป่าระบาดใหม่ และเรือนจำพิเศษพัทยาระบาดซ้ำในแดนบางส่วน
ขณะที่เรือนจำจังหวัดพังงาพ้นจากการระบาดแล้ว ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวลดลงเหลือ 123 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มขึ้นเป็น 19 แห่ง โดยเรือนจำสีแดงส่วนหนึ่งสามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้วรวม 9 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดชุมพร เรือนจำอำเภอเกาะสมุย เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำกลางขอนแก่น ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำจังหวัดระนอง เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร และเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งคาดว่าจะทยอยพ้นจากการระบาดตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,204 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 267,799 ราย