เจ้าของอู่จอดเรือสปีดโบ๊ต เข้าให้ปากคำตำรวจ ยันไม่ได้ทำความสะอาด หลังแตงโมพลัดตกน้ำ ไม่เห็นกลุ่มเพื่อน สวดภาวนา   

 

วันที่ 2 มี.ค. 2565 นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ เจ้าของอู่เรือ NBC เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจเรียกมา เเต่ปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจ

นายธนกฤต ระบุว่า วันนี้เป็นการมาให้ปากคำทั่วไป เพราะก่อนหน้านี้ได้ให้ข้อมูลเรื่องเรือกับตำรวจไปแล้ว โดยยืนยันว่าในคืนวันที่ 24 ก.พ. ได้รับโทรศัพท์จากนายปอ ตนุภัทร ตอน 22.30 น. ว่ามีคนตกน้ำ จึงได้เอาเจ็ตสกีออกไปช่วยค้นหาตอน 23.00 น.

ส่วนเรือลำที่เกิดเหตุ นายปอได้เอามากลับมาจอดผูกไว้ที่โป๊ะเรือหน้าอู่ช่วงประมาณตีหนึ่ง แต่ไม่เห็นมีใครอยู่ที่เรือ จึงนำเรือเข้าไปเก็บในอู่หลังกลับมาจากค้นหาตอนตีห้า โดยไม่ได้มีการทำความสะอาดใด ๆ

ส่วนความผิดปกติ หรือหลักฐานอื่น ๆ ไม่เห็น และนายปอเองก็มักจะมาเอาเรือออกล่องอยู่บ่อย ๆ กลับเร็วบ้างช้าบ้าง ไม่ได้ผิดปกติอะไร อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการของเพื่อนบนเรือทั้ง 5 คน ตอนที่ ออกไปเจอ ขณะช่วยค้นหา มีแค่ผู้ชายที่พอพูดรู้เรื่อง แต่ผู้หญิงอยู่ในการตระหนกตกใจ พูดจาวกวน ไม่ค่อยรู้เรื่อง หลังจากนั้นเวลาก็เป็นไปตามที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดที่ทุกคนแยกย้ายกลับ ไม่ได้เห็นมีใครนั่งสวดมนต์หรือภาวนา

สำหรับความเร็วของเรือ จะมีส่วนทำให้ใบพัดทำงานหรือไม่นั้น นายธนกฤต อธิบายว่า หากเข้าเกียร์ว่าง ใบพัดจะหยุดทำงานทันที แต่หากเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลัง ใบพัดก็จะทำงานตามความเร็วของเรือ

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ หากตกลงไปจะสามารถถูกใบพัดฟันได้หรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความคม แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่น กระแสน้ำ ความแรงของน้ำ

นายธนกฤต ยังได้ชี้แจงถึงภาพที่ชายบนเรือก้มลงไปข้างเรือ ลักษณะเหมือนจับบางอย่างว่า ปกติแล้วเรือจะมีลูกกันกระแทกหรือเฟนเดอร์ อยู่บริเวณด้านหน้าหรือด้านท้าย สองฝั่งข้างละ 1 ลูก ซึ่งการที่ความสูงของน้ำช่วงระหว่างเรือไม่เท่ากัน ทำให้เฟนเดอร์ไม่เท่ากัน จึงต้องใช้เชือกยาวและเชือกสั้นช่วย โดยที่เชือกสั้นต้องไปอยู่ด้านท้ายเรือ เชือกยาวไปอยู่ด้านหัวเรือ แต่จากภาพเป็นการเอาเชือกยาวมาใส่ด้านท้าย ลูกเฟนเดอร์เลยราอยู่กับน้ำ ผิดจากการใช้งานตามปกติที่ต้องอยู่ในแนวตั้ง ชายในภาพจึงมีการพยายามจะปรับขยับให้ลูกเฟนเดอร์ตั้งขึ้น