ก.ต่างประเทศ เเพร่คำอธิบายลงคะเเนนเสียงของไทยในเวทียูเอ็น หาทางออกสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนุนยุติด้วยสันตีวิธี ให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นถึงที่สุด
สืบเนื่องจาก สหประชาชาติจัดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยเร่งด่วนเป็นพิเศษ ครั้งที่ 11 โดยมี นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ เปิดให้ลงมติประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากอาณาเขตของยูเครนภายใต้เส้นเขตแดนที่นานาชาติให้การยอมรับทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
โดยมติในที่ประชุม มีผู้แทนจาก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ โหวตสนับสนุนการประณามรัสเซีย ในขณะที่มี 5 ประเทศโหวตคัดค้านได้แก่ รัสเซีย, เบลารุส, ซีเรีย, เอริเทรีย และเกาหลีเหนือ ในขณะที่อีก 35 ประเทศ รวมถึงจีนงดออกเสียง
(อ่านประกอบ : ไทยเอาด้วย! ลงมติประณาม 'รัสเซีย' รุกรานยูเครน)
ด้านประเทศไทย โหวตสนับสนุนการประณามรัสเซีย โดยกระทรวงการต่างประเทศเผยคำอธิบายการลงคะแนนเสียงของประเทศไทย ระบุว่า "คำอธิบายการลงคะแนนเสียงของประเทศไทย โดยนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ต่อการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 11 (11th Emergency Special Session of the United Nations General Assembly)เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2565 (คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
1. ไทยเฝ้าติดตามสถานการณ์ในยูเครนด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรง ซึ่งคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
2. ไทยสนับสนุนความพยายามในการหาทางยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสันติผ่านการเจรจาที่เป็นไปตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยธำรงไว้ซึ่งหลักการว่าด้วยอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน
3. ไทยสนับสนุนการเรียกร้องของเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติในการหาทางยุติเรื่องนี้อย่างสันติวิธี ตามแนวทางของข้อตกลงมินสก์ รวมถึงความพยายามของสหประชาชาติและกลไกในระดับภูมิภาค รวมถึงองค์การเพื่อความร่วมมือและความมั่นคงในยุโรป หรือ โอเอสซีอี และนอร์มังดี ฟอร์แมต เพื่อลดความตึงเครียดและหาข้อยุติอย่างยั่งยืน
4. ไทยยังคงกังวลด้านมนุษยธรรมและร่วมเรียกร้องกับประชาคมระหว่างประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นให้ถึงที่สุด รวมถึงการให้ความมั่นใจว่าจะปกป้องคุ้มครองประชาชน และโครงสร้างพื้นฐานฝ่ายพลเรือน"