ตำรวจสั่งกู้ภัยยกเลิกภารกิจดำน้ำหาวัตถุพยาน เหตุต้องการลงค้นหาเอง หลังนำเรือสแกนเมื่อช่วงเช้า พบวัตถุพยานบางอย่างอยู่ใต้น้ำ ก่อนที่จะนำเรือ bass boat เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีกระแสว่าจะมีการดำน้ำเพื่อหาวัตถุพยานบางอย่างหลังจากที่ชุดสืบสวนมาจำลองเหตุการณ์และใช้เครื่องสแกนวัตถุใต้น้ำ ทำแผนที่และค้นหาเบื้องต้นที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ทีมกู้ภัยได้เดินทางมาถึงหลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่

นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์  เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังพบว่ามีลักษณะคล้ายกระเป๋าที่มีสิ่งของอยู่ภายใน จึงประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาร่วมภารกิจ โดยนัดหมายที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 แต่เมื่อมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอยกเลิกภารกิจ โดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำอีกชุด ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจที่ท่าเรือเทเวศร์

ส่วนเรื่องประเด็นการตั้งข้อสังเกตของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เรื่องบาดแผลที่อาจจะถูกฟินเรือบาด ซึ่งจากประสบการณ์ที่ทำกู้ภัยมานาน บาดแผลบริเวณขาของแตงโมเป็นไปได้ยากที่จะมาจากใบพัดเรือ เนื่องจากว่า หากเป็นใบพัดเรือจริง แผลจะไม่ผ่าตรงและลึกขนาดนี้ เรือน่าจะดูดน้องเข้าไป แล้วขาไปโดนตรงฟิน ดังนั้น บริเวณหน้าอก คอ จะต้องโดนใบพัดเรือแน่นอน นอกจากว่า เรือผ่านร่างน้องไป จึงทำให้ไม่มีบาดแผลตามหน้าอก ซึ่งถ้าหากเป็นฟินเรือ แบบที่ทนายตั้มตั้งข้อสังเกต คิดว่ามันก็เป็นไปได้

ขณะที่ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 10 วันแล้ว ยังคงมีหลายอย่างคาใจและสงสัยในทุกประเด็น ทุกคำพูดของทุกคนที่อยู่บนเรือ จึงอยากให้บุคคลทั้ง 5 ออกมาพูดความจริง และวันนี้ได้ไปทำบุญให้น้องแตงโม พร้อมบอกว่าขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับตัวน้อง และขอให้เรื่องที่แท้จริงบนเรือปรากฎ ว่าที่ตกจากเรือนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร และกระชากหน้ากาก คนที่คอยปกปิด ปิดบังความผิดต่าง ๆ ขอให้ทุกคนได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม

จากนั้นเวลา 16.10 น. ชุดสืบสวน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ได้นำเรือ bass boat มาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อีกครั้ง เพื่อใช้เครื่องสแกนวัตถุใต้น้ำ ทำการสแกนหาวัตถุ ซึ่งคาดว่า น่าจะมีการค้นหาหาวัตถุพยานบางอย่าง หลังมีกระแสข่าวว่า บุคคลบนเรือ ยอมรับสารภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบางอย่างที่อาจจะมีการนำมาทิ้งลงในแม่น้ำหรือไม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุพยานสำคัญ

จากนั้น 16.40น. นักประดาน้ำของตำรวจน้ำ 2 นาย เริ่มปฏิบัติการลงค้นหาวัตถุพยานบางอย่างใต้น้ำ พิกัดที่ลงค้นหา ระยะห่างจากท่าเรือประมาณ 50 เมตร ซึ่งนักประดาน้ำใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นได้เจอถุงสีเทาและได้นำขึ้นมาจากน้ำ ภายในถุงเห็นลักษณะคล้ายขวดทรงสูง บรรจุไว้เป็นรูปร่างชัดเจน

นักประดาน้ำได้ลงค้นหาอีกครั้งใกล้เคียงกับจุดเดิม และพบวัตถุขนาดกลาง ๆ ประมาณใหญ่กว่าฝ่ามือไม่มาก แต่ไม่ชัดเจนว่าคืออะไร และวัตถุทั้ง 2 ชิ้น ที่งมได้ นำขึ้นมาส่งมอบให้พิสูจน์หลักฐานทันที

ต่อมา 17.20น. นักประดาน้ำยังคงงมค้นหารอบที่ 3 และพบวัตถุที่บรรจุในถุงพลาสติก อีกครั้ง แต่ถุงดังกล่าวน้ำหนักเบามากกว่าถุงแรก และขวดลักษณะคล้ายขวดพลาสติกอีก 1 ชิ้น

หลังจากนั้น นักประดาน้ำ ได้ขยับไปงมค้นหาจุดสุดท้าย บริเวณใกล้กับสะพานพระราม7  และได้วัตถุบางอย่าง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไร ก่อนที่จะยุติภารกิจการค้นหาในเวลา 17.50 น.