หวั่นสงครามโลกครั้งที่ 3 หลังสหรัฐฯ ย้ำ ไม่ร่วมรบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยตรง แต่อาจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 3 ในนามของ 'นาโต' ขณะที่โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ชี้ ยูเครนกำลังมุ่งหน้าไปสู่ชัยชนะ
วันที่ 12 มีนาคม 2565 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงยืดเยื้อ อีกทั้งรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีหลายเมืองในยูเครนอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังยึดเมืองหลวงของยูเครนไม่ได้เร็วเท่าที่คิดไว้ แต่ขณะนี้เริ่มประชิดเข้าไปเรื่อย ๆ นอกจากที่กรุงเคียฟแล้ว เริ่มมีการโจมตีเมืองดนิโปรทางตอนกลางของยูเครน รวมถึงบางเมืองที่อยู่ทางตะวันตก ซึ่งยังไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน
ล่าสุด โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า ยูเครนกำลังมุ่งหน้าไปสู่ชัยชนะ เพราะขณะนี้ได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนในสงครามครั้งนี้แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าการต่อสู้จะดำเนินต่อไปอีกนานเท่าไร
ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า การเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ของสหรัฐฯ และประเทศสมาชิกนาโตโดยตรง จะนำมาซึ่งสงครามโลกครั้งที่ 3
เป็นการย้ำชัดอีกครั้งว่า สหรัฐฯ จะไม่เข้าไปทำสงครามด้วยเด็ดขาด ถือว่าเป็นการตอบโต้เสียงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ทำอะไรมากกว่านี้ เช่น ส่งทหารไปยูเครน หรือประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำยูเครนเรียกร้องมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศโดยกองทัพรัสเซียถึง 3 ครั้ง ทำให้ก่อนหน้านี้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงที่ลุกไหม้โรงงานรองเท้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน จุดนี้ที่ถูกโจมตีอยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาล และอาคารที่พักอาศัย
ขณะที่เมืองคาร์เคียฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน พบอาคารที่พังเสียหายคือโรงพยาบาลจิตเวช แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะเจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยรวมกว่า 300 ชีวิต หลบอยู่ในหลุมหลบภัยใกล้เคียงทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีการโจมตีสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ในเมือง แต่ยังไม่มีผลกระทบใด ๆ ด้าน ระบบรถไฟใต้ดินในคาร์คีฟกลายสภาพเป็นเมืองขนาดย่อม ๆ ให้ชาวบ้านเข้าไปหลบภัย ภายในมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง ที่แบ่งสรรพื้นที่กันตั้งแต่บันไดชานชาลา และแม้แต่ในขบวนรถไฟ โดยสภาพภายในสถานีมีคนอยู่อย่างหนาแน่น รวมถึง มีซากรถทหารยูเครนอยู่ด้วย บริเวณนี้น่าจะมีฐานทัพยูเครนอยู่ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเป้าการโจมตีของรัสเซียหรือไม่