กรมบัญชีกลางออกเกณฑ์เบิกเงินค่ารักษาโควิด-19 กรณีรักษาใน รพ.เอกชน -ผู้ป่วยสีเเดง รักษาได้ทุกเเห่ง หากมีประกันภัย ให้เบิกจากต้นสังกัดก่อน ส่วนกลุ่มสีเขียว รักษาได้เฉพาะ 85 เเห่งที่ร่วมโครงการฯ ครอบคลุมทุกกรณี
วันที่ 17 มี.ค. 2565 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19) กรณีติดเชื้อโรคโควิด - 19 ที่แพทย์วินิจฉัยว่าเข้าเกณฑ์วิกฤตฉุกเฉิน (UCEP Plus) ตามเกณฑ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้กำหนดแนวทางและเกณฑ์ประเมินคัดแยกระดับความฉุกเฉิน ใช้ระดับความรุนแรงของผู้ป่วย (สีแดง สีเหลือง และสีเขียว) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565 ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพ อีกทั้งสอดคล้องกับแนวทางที่ สพฉ. กำหนด กรมบัญชีกลางจึงยกเลิกหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 273 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 2563 และกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลสถานพยาบาลของเอกชน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด -19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดงและสีเหลือง)
- สามารถเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ โดยอัตราการเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตฯ (UCEP Plus)
- การเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดการรักษา
- หากมีประกันภัย ต้องใช้สิทธิการเบิกจ่ายจากประกันภัยก่อน ส่วนที่เกินจากสิทธิจึงจะสามารถเบิกได้
กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยอาการเล็กน้อย (สีเขียว)
- เข้ารับการรักษาได้เฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 85 แห่ง
- อัตราการเบิกจ่าย ให้เบิกได้เท่ากับอัตราของสถานพยาบาลของทางราชการ ตามที่ สปสช. กำหนด
- รูปแบบการให้บริการ ครอบคลุมทุกกรณี เช่น Hospital Hotel Isolation, Home Isolation, Community Isolation เป็นต้น
- การรักษาพยาบาลเป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
“การเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลให้สถานพยาบาลของเอกชนเป็นผู้เบิกแทนผู้มีสิทธิในระบบเบิกจ่ายตรงเท่านั้น โดยดำเนินการส่งข้อมูลผ่านระบบของ สปสช. เมื่อกรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลจึงจะจ่ายเงินให้สถานพยาบาลของเอกชนภายใน 15 วัน ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 213 ลงวันที่ 16 มี.ค.2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6854 4441 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว