ธุดงค์ล่ม! 'พระอุเทน' ยกป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม ฝาก ผบ.ตร.-ผบช.ตชด. สืบ หลังอ้างถูก ตชด.สะกดรอยตาม ล้อมรถ หวั่นไม่ปลอดภัย 

 

วันที่ 18 มี.ค. 2565 พระญาณวิกรม หรือพระอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ พร้อมด้วย พราหมณ์ปอ ตนุภัทร และ พราหมณ์โรเบิร์ต ไพบูลย์ แถลงข่าวกรณีการถูกสะกดรอยตามจากคนกลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ณ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

พระอุเทน เปิดเผยว่า ขอส่งสารนี้ไปถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. หลังจากเมื่อคืนนี้ ถูก ตชด. ล้อมและสกัด ตั้งแต่อยู่บนเขา ซึ่งเดิมทีไม่ทราบว่า เป็น ตชด. แต่เห็นว่ามีรถวิ่งสวนขึ้นไป และได้ลงมาจากเขาประมาณสองนาฬิกา เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่ให้พัก เนื่องด้วยสถานการณ์อันตรายตามแนวชายแดน จึงให้ลงมาข้างล่าง

“เราจึงเดินกลับมา และบอกพราหมณ์ว่า เราจะไปต่อที่ จ.กาญจนบุรี จะไม่พักที่นี่ แต่เมื่อมาถึงวัด อาตมาสังเกตเห็นมีรถจอด อยู่หน้าวัด ซึ่งเรานึกว่า เป็นนักข่าว แต่อาตมาเห็นรถแอบอยู่คันหนึ่ง และมีมอเตอร์ไซต์คันหนึ่ง อาตมาเดินไปบนโบสถ์ และแอบมาบอกนักข่าว ซึ่งคิดว่าเป็นนักข่าว ให้บอกว่าไม่ต้องตามก็ได้ เช้าค่อยไปถ่าย”

พระอุเทน กล่าวต่อว่า กระทั่งกำลังออกจากวัด เมื่อถึงหน้าโรงเรียน รถถูกสกัด ถูก ตชด.สกัด  อาตมาถ่ายคลิปวิดีโอด้วย ให้หยุด แล้วกลับรถมาในวัดใหม่ ทั้งนี้ เขาบอกว่า เจ้านายให้มาดู ซึ่งอาตมาก็เป็นพระ และแม่ชีนั่งอยู่เต็มรถ ทุกคนเป็นพยานได้ว่า “นายสั่งให้ตามมาดู”

 

“ฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้อง ให้ท่าน ผบ.ตร.และ ผบช.ตชด.ทราบเรื่องว่า ลูกน้องในพื้นที่ทำแบบนี้กับวัด พระสงฆ์ ชีพราหมณ์ ทำได้หรือ ในการนำรถปิดถนน พวกเราทุกคนเสียภาษี แต่มีการดูแลประชาชนที่นี่? มีการสะกดรอยตาม แอบดักอยู่หน้าวัด?”

 

 ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะไม่เลื่อนไป จ.กาญจนบุรี

ด้านพราหมณ์ปอ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากกำลังเดินทางไป จ.กาญจนบุรี สิ่งที่ไม่คาดฝัน คือ ถูกรถติดตาม โดยระหว่างถึงทางสามแยก มีรถจอด จากนั้นมีผู้ชายใส่ชุดดำ ถือกล้อง ตอนแรกนึกว่าเป็นนักข่าว เริ่มรู้สึกไม่ดี จึงเบี่ยงออกขวา ไปเส้นเมือง ก่อนถึง สภ. กระทั่งมีรถคันหนึ่ง จอดขวางกลางถนน ซึ่งเราตกใจมาก มองเห็น 100 เมตร ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องปิดถนน จึงเห็นว่าไม่ปลอดภัย เลยกลับรถ และเห็นมอเตอรไซต์ประกบคู่ และสั่งให้จอด ไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

 

“อาจารยบ์บอกว่า คงคิดว่าลูกหนี  เชื่อว่าไม่มีอะไร ระหว่างนั้น คิดว่าไม่ปลอดภัย จึงมุ่งหน้าจากจุดนั้นตรงกลับมาที่วัด และตลอดการเดินทาง มีรถคันนี้ขับจี้เป็นระยะ เมื่อมาถึงหน้าวัด มีรถปิดหน้าหลัง เราลงจากรถ ถามว่า ตามทำไม เขาบอกว่า รถคุณต้องสงสัย เลยถามกลับว่า เป็นตำรวจหรือไม่ เขาตอบว่า เป็นตำรวจ เราถามกลับว่า หน่วยไหน มีหมายหรือไม่ ตำรวจหนึ่งคนจึงวิ่งถอยกลับขึ้นรถหนีไป งงว่า ทำไมตำรวจต้องหนี  กลายเป็นมองว่า ตำรวจทำอะไรผิด เราถามว่า เขาเป็นใคร เขาไม่บอก และพกปืนข้างเอว เรารู้สึกตกใจและงงมาก หลังจากนั้นไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นใคร ใช้ระยะเวลาพักใหญ่ เลยบอกขอให้คุยกันดี ๆ พวกผม เราเป็นผู้ทรงศีลนะ”

 

ขณะที่พราหมณ์โรเบิร์ต กล่าวเสริมว่า ค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ดีใจที่สามารถเดินขึ้นไปบนเขา แต่ไม่สามารถปักหมุดได้ แต่เดินกลับมาได้ด้วยเท้า ยังพูดกับอาจารย์ว่า ดีใจ อย่างน้อยที่สุด ได้ฝึกบำเพ็ญเพียร อาจารย์บอกว่า เราได้พัก อาบน้ำเสร็จ เราไปกาญจนบุรีกันต่อเลย

ทั้งนี้ ฝากถึงกระบวนการยุติธรรม การสืบค้นความจริง อยากให้ปฏิบัติต่อตัวเองและปอ รวมถึงคนที่อยู่บนเรือตามมาตรฐาน ครรลองต่าง ๆ ที่ควรจะเป็น  เชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง