ประธานาธิบดี 'สี จิ้นผิง' ของจีน หารือ ประธานาธิบดี 'โจ ไบเดน' ของสหรัฐ ผ่านวิดีโอกว่า 2 ชั่วโมง ชี้จำเป็นต้องจัดการเรื่องไต้หวันอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับผลกระทบเชิงลบ ใช้โอกาสนี้ปรามจีนไม่ให้ช่วยเหลือรัสเซีย

 

วันที่ 19 มีนาคม 2565 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน หารือกันผ่านวิดีโอเป็นเวลากว่า 110 นาที ซึ่งเป็นการสนทนากันครั้งแรก ตั้งแต่รัสเซียเข้าโจมตียูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา 

ด้านโฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดนใช้โอกาสนี้ แจงให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทราบถึงผลกระทบที่จะตามมาหากเลือกช่วยรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือทางการทหาร หรือทางเศรษฐกิจ ถือเป็นการปราม และดักคอ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Financial Times และ New York Times รายงานว่า รัสเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือในด้านการทหาร และทางเศรษฐกิจจากจีน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้สหรัฐฯ เป็นอย่างมาก แม้ว่ารัสเซียกับจีนจะปฏิเสธก็ตามแต่ 

ทั้งนี้ การสนทนากันครั้งนี้ ไม่มีรายงานว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง รับปากหรือไม่อย่างไร แต่มีการย้อนประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่า เป็นต้นตอของวิกฤตที่เกิดขึ้น

อีกทั้งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวสุภาษิตจีน ‘ใครเป็นคนผูกกระดิ่งที่คอเสือ คนนั้นก็ต้องเป็นคนแก้’ หมายความว่า สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แต่ยังไงทั้งสองผู้นำมหาอำนาจ ก็ยังย้ำใช้วิถีทางการทูตเพื่อยุติสงคราม

ในขณะที่บางคนในสหรัฐฯ กำลังเกิดความเข้าใจผิดต่อกลุ่มแยกดินแดนในไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง หากประเด็น 'ไต้หวัน' ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จะเกิดผลทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ย้ำกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่า นโยบายของสหรัฐฯ เรื่องไต้หวันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และสหรัฐฯ ยังคงคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศไต้หวัน แถลงขอบคุณผู้นำสหรัฐฯ ที่ย้ำเรื่องคงสถานภาพปัจจุบันเพื่อรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการสนับสนุนความมั่นคงของไต้หวันอย่างหนักแน่น พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้จีนดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมในการประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครนอีกด้วย