จากกรณีเจ้าของอู่ประดับยนต์ ถูกมิจฉาชีพโจรกรรม ข้อมูลไปทำธุระกรรมทางการเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและถอนเงินจากธนาคารจนหมดบัญชี ล่าสุดธนาคารยอมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
หลังจากเมื่อวานนี้นายพันธ์สุธี มีลือกิน เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ประดับยนต์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเครือข่ายชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นั่งประท้วงและร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ธนาคารกสิกรไทยและเครือข่ายทรู แสดงความรับผิดชอบที่ต้องสูญเงินเกือบ 1 ล้านบาท กรณีถูกมิจฉาชีพนำเลขบัตรประชาชน 13 หลักและปลอมเอกสารขอออกซิมการ์ดโทรศัพท์ใหม่ไปสมัครอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง หรือ การทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตกับธนาคารกสิกรไทย ก่อนหน้านี้ธนาคารกสิกรไทยยอมคืนเงินให้ร้อยละ 33 ของเงินที่สูญไปเท่านั้น ที่เหลือขอให้ไปเรียกร้องกับบริษัททรูและคนร้าย
ล่าสุดวันนี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากทางธนาคารกสิกรไทยพร้อม ขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย คืนเงินทั้งหมด ก่อนจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงประชาชน กรณีนี้ ทนายความได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าธนาคารต้องรับผิดชอบในฐานปล่อยประละเลยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีมาทำธุรกรรมการเงิน นอกจากนี้ยังระบุถึงกรณีที่ตำรวจพื้นที่ไม่รับแจ้งความว่าผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ไม่ต้องรอให้ธนาคารเป็นผู้ร้องดำเนินคดี