ชาวเน็ตสงสัย "ใครสั่งมา ให้ต้อนหมอเข้ามุม" หลัง 'หมอพรทิพย์' โพสต์ข้อความเป็นนัย ระบุ "มองเห็นคนที่อยู่เบื้องหลังชัดเจน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมารชุดนี้"

 

29 มี.ค. 2565 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Porntip Rojanasunan พร้อมแชร์โพสต์ที่ คุณธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ไปสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม วานนี้ ในประเด็นที่ชาวโซเชียลตั้งคำถาม ทำไมแม่ปกป้องตำรวจ? และไม่ชอบ 'หมอพรทิพย์' หรือ? ซึ่งคำตอบช่วงหนึ่งจากการสัมภาษณ์ แม่ได้พูดถึง ตำรวจซึ่งไม่พอใจที่หมอพรทิพย์เข้ามาก้าวก่ายว่า "ตำรวจพูดเองกับคุณแม่ เค้าเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เค้าก็ให้เด็ก ๆ คุยกันเอง ระดับท่านผู้การ นายพลทั้งหลาย เค้าไม่มานั่งคุยเองหรอกค่ะ เค้าก็ให้เราคุย"

ชมคลิป : https://www.facebook.com/thaich8news/videos/1132084647332664

ทั้งนี้ หมอพรทิพย์ ได้โพสต์ว่า "ขอบคุณนักข่าวช่อง8 ที่ทำให้ทราบเบื้องหลัง นี่คือการส่งสัญญาณล่วงหน้าผ่านทนายมาว่าจะต้อนหมอเข้ามุม ความจริงจึงถูกเปิดเผยว่าใครสั่งมา ดูจากคลิปนี้ ภาษิตไทยใช้ได้ พิมเสนกับเกลือ แต่ที่ขอบคุณที่สุดคือการรส่งบททดสอบนี้มาให้ คดีแตงโมเป็นเพียงยอดภูเขานำแข็ง หมอเพียงทำความดีสะสมเพื่อรอจังหวะเปลี่ยนแปลง การให้แม๊มาถอดถอนแบบไม่เนียน เลยมองเห็นคนที่อยู่เบื้องหลังชัดเจน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมารชุดนี้"

ขณะที่ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ไปสอบถามหมอพรทิพย์เพิ่มเติม ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งหมอพรทิพย์ ได้กล่าวขอบคุณช่อง 8 ที่ไม่ได้ทำข่าวแบบวิ่งตามกระแสหรือพยายามแค่จะหาข่าว แต่นี่มันเป็นเสมือนการปกป้องคนทำงาน แล้วมันกลายเป็นการทำให้สังคมได้เห็นความจริง และต้องขอขอบคุณตัวนักข่าวที่มีความคิดหรือความรู้สึกดี ๆ กับหมอ เขาถามคำถาม และทำให้เราได้คำตอบ

การที่ช่อง 8 ไปสัมภาษณ์คุณแม่แตงโม มันทำให้หมอได้รู้ความจริง เพราะก่อนหน้านี้เราได้รับข้อมูลว่า มีความไม่พอใจและจะพยายามต้อนเราให้เข้ามุม ซึ่งตนก็นึกไม่ออกว่ามุมอะไร แต่พอดูคลิปที่ช่อง 8 สัมภาษณ์แม่แตงโม ก็ชัดเจนว่า เราทำงานให้ใคร เขาก็กลับมาย้อนเอาเรื่องเรานั้นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้โกรธเพียงแต่ว่าเสียดาย เพราะทุกคนต่างอยากให้แตงโมได้รับความเป็นธรรม แต่มันมีใครบางคนที่เข้ามาหาประโยชน์ ทำให้มันเกิดความวุ่นวายส่วนตัว ขอตอบแค่นี้ ไม่ขอขยายความว่าหมายถึงตำรวจหรือใคร

ส่วนที่บอกว่าเป็นกระบวนการมาร ตนใช้เปรียบเปรย เวลาเจอสิ่งไม่ดีและเป็นอุปสรรค เช่น กรณีนี้เราไม่ได้ทำ แต่กลับถูกด่าและเป็นการด่าเราออกทีวี หากเป็นเมื่อก่อนนี้ ก็คงจะมองว่าตนเองมีเวรมีกรรม แต่พอเราได้ไปแสวงบุญเราก็พบว่านี่มันคือมารและมันเป็นครูให้เราฝึกฝนและตนก็ฝึกมาหลายรอบแล้ว

"ตอนที่ยังไม่ได้ดูคลิปช่อง 8 เราถามใจตัวเองว่าเรากำลังรู้สึกอะไร แน่นอนตอนแรกเรารู้สึกว่าเราถูกด่าอีกแล้วหรือนี่ แต่เราตัดสินใจไม่ชี้แจงและไม่โกรธด้วย เพราะปลง เราจำคำพระได้ว่า ถ้าเราไม่เอาใจไปรับก็ไม่ทำให้เราทุกข์ แต่พอสุดท้ายเรามาเจอ สิ่งที่ช่อง 8 ไปสัมภาษณ์ ก็นึกได้ว่ามันคือมาร ที่มาทดสอบ...การที่ช่อง 8 ไปสัมภาษณ์ออกมาเป็นคำตอบที่เราไม่นึกว่าเราจะได้ยิน มันเลยทำให้เราเข้าใจว่า มันคืออันนี้เอง"

หมอพรทิพย์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุที่แม่แตงโมและทนายเดชาออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจการทำงานของตน และถอนคำร้องจากกรรมาธิการ เนื่องจากไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด วันนี้ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เราจะไม่รู้สึก เพราะเราไม่ได้เป็นคนทำ เราก็ไม่อยากไปต่อกรรมกับเขา ครั้งนี้เราก็จะปล่อยไป

ส่วนการตามคดีของแตงโมก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปตามระบบ ทำในนามของกรรมาธิการ และส่วนตัวก็ไม่ได้คิดย่อท้อ แม้จะโดนกีดกันจากญาติ ส่วนคดีจะออกมายังไงตอนนี้ตนยังตอบไม่ได้ แต่การที่ญาติอาการที่แม่แตงโมและทนายพยายามที่จะถอนเรื่องไม่ให้กรรมาธิการตรวจสอบมันก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้ประชาชนแทนที่มันจะจบลงอย่างง่ายๆ คือ การที่ไปกระตุ้นอะไรลักษณะนี้ มันยิ่งทำให้คนไม่เชื่อใจ คนทำก็ต้องประเมินดี ๆ

เมื่อถามย้ำว่า จะเคลียร์กับแม่แตงโมหรือไม่ หมอพรทิพย์ กล่าวว่า เรื่องจะเคลียร์มันอยู่ที่ความชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งหากเขาไม่อยากเคลียร์เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ที่ผ่านมาก็พยายามทำหน้าที่โดยการดึงญาติเข้ามาดูการพิจารณาด้วย แต่ตัวแม่แตงโมก็ไม่มา ญาติก็ไม่มา ส่วนตัวจึงรู้สึกแต่ขอไม่ให้ความเห็น และไม่ขอชี้แจงกรณีที่บอกว่าตนไปแทรกแซงหรือย้ำยีศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพราะคนที่เขารู้จักตน จะรู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร